WORLD OF GOO
World of Warcraft หลบไป!!! World of Goo มาแล้วววว...
เกมแห่งปีของ นายณัฐวุฒิ “JokeBoy” อภิรัตน์วรากุล
ท่ามกลางพายุเกมที่โหมกระหน่ำเข้ามาในปีนี้ มีเกมเล็กๆ เกมหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกประทับใจอย่างมาก เกมเล็กๆ เกมนั้นชื่อ World of Goo (WoG) ผมพบ WoG ครั้งแรกผ่านทาง Stream ในระหว่างที่ผมกำลังนั่งดูเกมจากค่ายเล็กๆ ทั้งหลายแหล่อยู่ ผมก็รู้สึกสะดุดตากับเจ้า WoG ทันที ด้วยเหตุผลสำคัญที่สุดก็คืองานอาร์ทของเกม สีสันที่สดใส ตัวการ์ตูนหน้าตาประหลาดๆ (แต่น่ารัก) พอผมได้ลองจัดการควักเงินโหลดมาลอง ผมก็หลงรักเกมนี้เข้าเต็มเปา รูปแบบการเล่นที่สนุกสนานแต่เรียบง่าย กราฟิกที่ดูดีแบบมีเอกลักษณ์ ความน่ารักของเจ้าตัว Goo รวมถึงเกมการเล่นที่ต้องใช้ความคิด จินตนาการ และความอดทน ส่งผลให้ WoG เหมาะกับเกมเมอร์ทุกเพศทุกวัย (รวมถึงเล่นได้บนพีซีทุกยุคทุกสมัย)
ยังไม่พูดถึงคุณค่าในการนำกลับมาเล่นใหม่เพื่อพยายามพาเจ้าตัว Goo ให้รอดไปให้ได้มากที่สุดหรือการพยายามต่อเจ้าพวก Gooขึ้นไปให้สูงที่สุดแข่งกับคนอื่นๆ ทั่วโลก ความรู้สึกของความสำเร็จในการผ่านด่าน การต่อเจ้าพวก Goo ขึ้นไปจนสูงเสียดฟ้า (แล้วโดนลมพัดเอนไปเอนมา...ก่อนจะถล่มลง...) ถือเป็นประสบการณ์ในการเล่นเกมที่สุดยอดสูสีกับการเดินเล่นบนยาน Ishimura หรือการไล่ยิง Mutant เลยทีเดียว แต่สาเหตุหลักที่ผมยกให้ World of Goo เป็น Game of the Year ของผมนั้นก็คือ... ความน่ารักน่าชังของเจ้าพวก Goo นั้นยากเกินต้านทานจริงๆ ครับ...
DEAD SPACE
EA ส่งม้ามืดมาทำให้ผมขวัญกระเจิงกลางอวกาศ
เกมแห่งปีของ นายสุกฤษฏิ์ “บ้าเกม” บูรณสรรค์
ใช่ว่าตัวของผมจะเป็นคนใจทมิฬหินชาติไม่กลัวเกรงสิ่งใด แต่กับเกมที่จะสามารถสั่นคลอนประสาทและกระตุกขวัญให้กระเจิดกระเจิงในช่วงที่ผ่านมานั้น มาลองนับก็ยังแทบไม่เกินสองมือเลยด้วยซ้ำ นั่นทำให้การมาถึงของ Dead Space เป็นดั่งของขวัญอันล้ำค่า และกล่องดำอันแสนน่าสะพรึงไปในขณะเดียวกัน ด้วยงานศิลป์อันแสนทะมึน การออกแบบฉากอันแสนยอดเยี่ยม เนื้อหาอันแสนลึกลับ การเรียงสโคปเหตุการณ์เหมาะเจาะกระหน่ำผู้เล่นเสียจนอยู่มือ เกมการเล่นที่ง่ายแต่อึดอัดคับอกอยู่ในที และการออกแบบศัตรูและวิธีการฆ่าที่แม้แต่คนใจแข็งที่สุดยังต้องผวา ทำให้บรรยากาศภายในยาน Ishimura อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งความกังวล ความไม่น่าไว้วางใจ และความตาย คุณจะรับรู้ได้ถึงอันตรายในทุกย่างก้าว แต่คุณจะไม่มีทาง 'หา' พบ ถ้า 'มัน' ไม่คิดจะให้คุณ 'เจอ' (ซึ่งส่วนใหญ่ 'มัน' ที่ว่านี้ ก็เลือกเวลาให้คุณ 'เจอ' ได้กรีดหัวใจดีจริงๆ)
สุดท้าย เมื่อเทียบกับ BioShock เกมในดวงใจของผมในปี 2550 ก็คงต้องบอกว่า Dead Space นี้เป็นคนละขั้วคนละข้างอย่างเห็นได้ชัด เพราะถ้าเกมแรกคือหนังสือปอกเปลือกธาตุแท้แห่งความเป็นมนุษย์ เกมหลังก็คือทริปสยองนองเลือดที่เต็มไปด้วยคุณภาพทุกองค์ประกอบ เป็นม้ามืดแห่งปี 2551 ที่ผมกล้ารับประกันว่ามันจะคืบคลานเข้ามาสู่หัวใจคุณอย่างช้าๆ ราวกับ Xenomorph ย่องเงียบมาจากช่องแอร์นั่นล่ะครับ
FOOTBALL MANAGER 2009
ฤดูกาลใหม่ที่สดใสในโลกสามมิติ Kick Off แล้ว!
เกมแห่งปีของ นายยุทธพล “TrueFast” มาโนชญานนท์
Football Manager 2009 นับเป็นเกมวางแผนที่ดีที่สุดเกมหนี่งในปี 2551 โดยเกมนี้จะทำให้เรากลายเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลได้อย่างที่เราฝัน ด้วยชื่อเสียงและผลงานอันโด่งดัง (ขึ้นอยู่ผลงานและถ้วยรางวัลคุณ) ที่สามารถเลือกคุมทีมฟุตบอล ควบคุมการซื้อ-ขาย นักเตะและโค้ชได้ตามใจชอบ และเนื่องจากเป็นเกมที่มีความสมจริงในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการวางแผนการเล่น ที่สามารถวางแผนทั้งเกมรุกและเกมรับได้อย่างหลากหลายตามสถานการณ์ ในด้านของข้อมูลนักเตะที่จะบอกรายละเอียดต่างๆ ของตัวนักเตะได้อย่างละเอียดและครอบคลุมทั้งหมด ทำให้การตัดสินใจในการเลือกซื้อ-ขาย นักเตะนั้นง่ายมากยิ่งขึ้น หรือจะเป็นในด้านของการแข่งขันที่ดูสมจริงมากกว่า
ซึ่งนับได้ว่า Football Manager 2009 นี้ได้เพิ่มในส่วนของระบบการเล่นที่แปลกใหม่เข้ามา ด้วยการนำระบบการแสดงผลแบบสามมิติเข้ามาช่วยเพิ่มเสริมความมันส์ให้กับผู้เล่น ทั้งยังทำให้เราเห็นภาพการเล่นของนักเตะดูมีสีสันน่าสนใจ ไม่จำเจเหมือน Football Manager ภาคก่อนๆ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ Football Manager 2009 กลายเป็น Game of the Year 2008 กับรูปแบบที่น่าเล่นที่สุดในเกมแนวนี้ครับ
RACE DRIVER: GRID
วงการเกมรถแข่งต้องสั่นคลอนเมื่อ Grid มาชิงบัลลังก์
เกมแห่งปีของ นายวรพล “Truenos” ละออง
โดยส่วนตัวผมชอบเกมแนวแข่งรถมากที่สุด ผมจะเน้นหนักไปทางความสมจริงในการบังคับและกราฟิกที่สวยงามเป็นอันดับแรก เกม GRID เรียกได้ว่าโดนใจผมสุดๆ ยิ่งการขับในรูปแบบการดริฟท์ทำเอาผมติดใจมากๆ เพราะการบังคับควบคุมนั้นสมจริงเอามากๆ ทั้งการสาดโค้ง โยกรถก่อนเข้าโค้ง เลี้ยงคันเร่งขณะที่อยู่ในโค้งเพื่อสาดดริฟอย่างสวยงามตลอดโค้ง ทำได้สมจริงมากๆ ส่วนธีมของเกมมีรถสปอร์ตจากญี่ปุ่นอยู่มากทีเดียว โดยส่วนตัวผมชอบเกมรถแข่งที่มีรถญี่ปุ่นเพราะความดิบของรถแต่งญี่ปุ่นนั้นเท่สุดๆ ในส่วนของเกมเพลย์ผมยังไม่ถึงกับประทับใจมากนักเพราะบางฉากต้องยอมรับว่า AI โหดจริงๆ ขับเก่งจนต้องยอมถอดใจยอมแพ้ แต่จริงๆ แล้วยอมรับว่ายังเล่นไม่จบเลยเพราะไม่ค่อยมีเวลาสักเท่าไร แต่ว่างๆ ผมชอบเล่นเอาฉากดริฟท์ของตัวเดโมมาเล่นเป็นประจำเพราะเล่นกี่ทีก็ไม่เบื่อ นอกจากนี้ต้องขอบคุณทีมพัฒนา Code Master สำหรับเอนจิ้นที่ยอดเยี่ยม สามารถสร้างสรรค์กราฟิกสามมิติได้สวยงามสมจริง และไม่กินทรัพยากรเครื่องมาก ด้วยเหตุนี้ผมจึงขอยก Game of the Year ให้กับเกม GRID ครับ
DEAD SPACE
ยาน Ishimura แดนสยองของนาย Isaac สวนสนุกสำหรับเกมเมอร์
เกมแห่งปีของ นายภุชชงค์ เกวียกกุทัณฑ์
แม้ว่าในช่วงกลางปีถึงปลายปีที่ผ่านมาจะมีเกมออกมามากมาย แต่เกมที่ได้ใจผมไปเต็มๆ ต้องยกให้ Dead Space ครับ เนื่องจากเป็นเกมที่สร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผม ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอรูปแบบการเล่นที่น่าตื่นเต้น องค์ประกอบที่น่าสนใจในหลายๆ ด้าน เช่น อาวุธ ระบบนำทาง ตารางการอัพเกรดคล้ายๆ กับ Skill Tree ของตัวละครในเกม RPG พลังพิเศษอย่าง Stasis ที่ทำให้ศัตรูเคลื่อนที่ช้าลง หรือ Kinesis เคลื่อนย้ายวัตถุที่มีน้ำหนักมากหรือไอเทมที่อยู่ระยะไกลโดยไม่ใช้มือหยิบจับ นอกจากนี้ยังใช้แก้ปริศนาภายในเกมอีกด้วย ระบบปัญญาประดิษฐ์ของเหล่าเนโครมอร์ฟที่คุณจะต้องอึ้ง พวกมันมีการโจมตีที่หลากหลาย และมักจู่โจมในเวลาที่คาดไม่ถึง เช่น ในที่แคบ ห้องมืด หรือ (มีบางตัวแกล้งทำเป็นตาย แล้วมาลอบทำร้ายเราก็มี) จุดเด่นของเกมอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือ กราฟิกที่สวยงามไม่แพ้เกมอื่น แถมไม่กินสเป็กอีกต่างหาก ระบบเสียงภายในเกมที่สุดยอด ยิ่งถ้าคุณมีลำโพงแบบ 5.1 อยู่ละก็ ผมเชื่อว่าคุณจะได้อรรถรสในการเล่นเกมนี้แน่นอน ด้วยข้อดีต่างๆ เหล่านี้ทำให้ Dead Space เป็นเกม Game of the Year ในใจผม อย่างไม่ต้องสงสัยครับ
PRINCE OF PERSIA
แม้ไม่ถึงขั้นดีเยี่ยม... แต่ขอเทคะแนนให้กับเจ้าชายผู้กล้าเปลี่ยนโฉม
เกมแห่งปีของ นายบุญอุดม มุ่งเกษม
สำหรับผมแล้วรีวิวเกมกับ Game of the Year มันไม่เหมือนกัน GotY ไม่จำเป็นต้องเป็นเกมที่ได้คะแนนสูงสุดเสมอไป แต่สำหรับผมมันคือเกมที่สร้างความประทับใจที่ดี ปีที่แล้วผมให้ FM08 ปีนี้ตอนแรกกะจะให้ Dead Space เพราะผมประทับใจแต่แรกเห็น แต่เวลาเล่นจริงๆ ผมกลับมีปัญหากับมุมมองของมันที่ทำให้เวียนหัวมาก ปัญหาเรื่องการเวียนหัวเวลาเล่นทำให้ Tomb Raider Underworld ไม่ใช่ GotY ของผม แต่ Price of Persia เกมที่มีรูปแบบการเล่นที่น่าจะทำให้ผมเวียนหัวมากที่สุดกลับโอเค... ผมให้คะแนน PoP ในเรื่องของความกล้าที่จะเปลี่ยนลุค เราเห็นเกม “ในตำนาน” หลายๆ เกมต้องดับหายไปอย่างเงียบๆ เพราะไม่สามารถก้าวข้าม “อดีต” ของตนเองไปได้ แต่ผมว่า PoP ประสบความสำเร็จในส่วนนี้ แฟนๆ ฮาร์ดคอร์หลายคนอาจจะรับกับการเปลี่ยนลุคไม่ได้ แต่สำหรับคนอื่นๆ อีกหลายๆ คน ผมว่าการเปลี่ยนลุคครั้งนี้ไม่ใช่ความรู้สึก “ยี้” แต่เป็น “ว้าว” แอนิเมชั่น กราฟิก เสียง เสียงพากย์ รวมถึงการสนทนาระหว่างเจ้าชายและเจ้าหญิงแสดงถึงความใส่ใจแบบเต็มร้อยของทีมงานพัฒนา แม้รูปแบบการเล่นจะยังซ้ำซากไปนิด แต่ผมว่าเรื่องแบบนี้มันค่อยๆ ปรับกันได้ในภาคต่อๆ ไป