Call of Duty World at War :ระบบ Co-Op แม้จะแปลกใหม่ แต่ก็ไม่ได้ช่วยยกระดับภาคล่าสุดของ CoD ให้เหนือความเป็นเกมยิงยุคสงครามโลกครั้งที่สองทั่วๆไป

แชร์เรื่องนี้:
Call of Duty World at War :ระบบ Co-Op แม้จะแปลกใหม่ แต่ก็ไม่ได้ช่วยยกระดับภาคล่าสุดของ CoD ให้เหนือความเป็นเกมยิงยุคสงครามโลกครั้งที่สองทั่วๆไป

ประเภท: FIRST-PERSON SHOOTER
ผู้พัฒนา: TREYARCH
ผู้ผลิต:
ACTIVISION
ผู้จัดจำหน่าย: NEW ERA
เครื่องที่ต้องการ: P4 3GHZ, 512MB RAM (1GB VISTA), 256MB GEFORCE 6600GT/RADEON 1600XT VIDEOCARD, 8GB HD SPACE
เครื่องที่แนะนำ: DUAL-CORE CPU, 2GB RAM, GEFORCE 9800GT/RADEON 4850 VIDEOCARD, BROADBAND INTERNET
จำนวนผู้เล่นสูงสุด: 32
ESRB RATING: M

     ปีที่แล้วเราอ้าแขนรับ Call of Duty 4: Modern Warfare ในฐานะเกมภาคใหม่ที่จะมาช่วยทำให้เกมภายใต้ชื่อ Call of Duty ดูมีชีวิตชีวา Modern Warfare มีทั้งความเป็นแอ็กชั่นดุจภาพยนตร์ แถมด้วยโหมดการเล่นมัลติเพลเยอร์ที่คุ้มค่า โดยมีเอนจิ้นประสิทธิภาพสูงเป็นตัวขันเคลื่อนอยู่เบื้องหลัง Modern Warfare ได้คะแนนจากเราไป 91% และเป็นเกมที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ประสบการณ์สงครามที่ตื่นเต้นราวกับอยู่ในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดเกมหนึ่งที่เคยมีมา”

     เมื่อเราได้มาเห็นซีรีส์ Call of Duty ย้อนกลับมาสู่ยุคสงครามโลกครั้งที่สอง สิ่งแรกที่เรารู้สึกก็คือ... มันเป็นการก้าวถอยหลัง อย่างไรก็ตาม World at War ยังคงไว้ซึ่งฟีเจอร์หลายๆ อย่างที่ทำให้ CoD4 นั้นเป็นเกมที่ระทึกใจสุดๆ (แม้จะไม่ครบทุกฟีเจอร์ก็ตาม) บอกกันตรงๆ เลย... WaW เป็นเกมที่ก๊อบการออกแบบอันชาญฉลาดของ CoD4 แทบจะเรียกได้ว่า “ทั้งยวง” แต่น่าเสียดายที่ทางทีมงานกลับไม่ได้นำการออกแบบนั้นมาปฏิบัติได้สมบูรณ์เท่าที่ CoD4 , แคมเปญดำเนินควบคู่กันสองเนื้อเรื่อง (รัสเซียบุกกวาดล้างสตาลินกราดและเบอร์ลิน อเมริกันบุกถล่มโอกินาว่าและเกาะอื่นๆ ในแปซิฟิก)... สวมบทเป็นพลซุ่มยิง ยกพลขึ้นบก ระเบิดเป้าหมาย ทำลายรถถังด้วยจรวด RPG ศัตรูกรูกันออกมาจากพงไม้ใบหญ้าเพื่อให้คุณได้ลุยแหลกแบบแทบไม่ทันได้พักหายใจหายคอ

     อ้าว... แล้วของมันดีอยู่แล้วจะไปแก้ไขมันทำไมล่ะ? สมัย CoD4 ผมต้องยิงกราดกองทัพศัตรูที่พากันดาหน้าเข้ามาเพียงเพื่อเข้าไปให้ถึงจุดเกิดของพวกมัน (เพื่อให้มันหยุดกรูกันออกมา) มันเป็นประสบการณ์ที่น่ารำคาญเล็กน้อย แต่ใน WaW ประสบการณ์คล้ายๆ กันในสภาพแวดล้อมที่ดูยิ่งใหญ่อลังการกว่า CoD4 ทำให้การสาดกระสุนของผมดูมีความหมายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโหมด Co-Op เพราะมันมี Achievement ให้เราตามล่า แถมอาวุธที่มีในเกมก็ถูกออกแบบมาให้ยิงมันส์ขึ้น (เพิ่มสไตล์อาเขด ลดความสมจริงลงนิด)

     การบอกเล่าเรื่องราวไม่ใช่จุดแข็งของ WaW (เมื่อเทียบกับ CoD4 ) ถึงแม้ว่าจะได้ดาราดังๆ อย่าง Kiefer Sutherland (24) และ Gary Oldman (Batman Dark Knight) มาช่วยพากย์เสียงให้ อย่างไรก็ตามก็ยังมีบางฉากที่น่าจดจำ อาทิ ฉากที่เราต้องคืบคลานผ่านกองศพของสหาย หยิบปืนไรเฟิลขึ้นมา คอยจังหวะทิ้งระเบิดเพื่อปกปิดเสียงปืนขณะที่คุณซุ่มยิงนายพลฝ่ายศัตรู (ถือว่าได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์เรื่อง Enemy at the Gates) หรือฉากของฝ่ายอเมริกันที่เพื่อนของคุณมาช่วยชีวิตคุณไว้ก่อนโดนทหารญี่ปุ่นสังหาร แล้วคุณก็สนองแค้นด้วยการทำลายคลังกระสุน เข็นรถบรรทุกที่บรรทุกน้ำมันอยู่เต็มใส่ฐานศัตรูราวกับว่าคุณเป็นแรมโบ้ พอถึงปี 2488 (1945) คุณก็กลับไปยุโรป... ฮิตเลอร์ฆ่าตัวตายไปแล้ว... คุณสวมบทบาทเป็นทหารรัสเซีย บุกตะลุยสังหารทหารนาซีที่ป้องกันฐานที่มั่นสุดท้ายของพวกเขาเพื่อนำธงสัญลักษณ์ค้อนและเคียวของประเทศแม่ไปปักไว้เหนือกรุงเบอร์ลิน ในส่วนของยานพาหนะคุณก็จะได้ใช้ปืนกลยานเกราะ และปืนกลของเครื่องบิน Black Cat Gunship ยิงถล่มกองเรือและกองบินญี่ปุ่น ได้ขับรถถังโซเวียตบุกทะลวงค่ายศัตรู ประสบการณ์เหล่านี้เหมือนเป็นเครื่องเคียงที่ทำให้การสาดกระสุดใส่ฝูงชนไม่จืดชืดจนเกินไป ฉากอินโทรของแต่ละภารกิจมีการนำภาพจริงจากสงครามโลกครั้งที่สองมาผสมผสานบอกเล่าเรื่องราวและเป้าหมายภารกิจ โดยเนื้อเรื่องมิได้อ้างอิงประวัติศาสตร์แบบเป๊ะๆ แต่จะเน้นการสร้างอารมณ์ให้กับภารกิจมากกว่า

      จังหวะเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงกลิ่นอายอันน่าพิสมัยของ CoD4 แต่ตัวละครที่พาคุณเผชิญเรื่องราวเหล่านี้กลับไม่สามารถทำให้เรารู้สึกผูกพันได้เหมือนกับ Captain Price ของ CoD4 นอกจากนั้นก็ยังไม่มีฉากที่ให้เราได้ชมวิวทิวทัศน์ที่ทำให้เราอินกับเนื้อเรื่อง (ใน CoD4 มีฉากวิ่งผ่านเมืองเชอร์เนอบิล (Chernobyl) ไม่มีแม้แต่การหักมุมที่ทำให้เราอ้าปากค้าง (แต่ก็ต้องยอมรับว่าการทำงานภายใต้กรอบหน้าประวัติศาสตร์นั้นก็เป็นข้อจำกัดที่ดิ้นยากพอสมควร) WaW เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ บังเกอร์... เส้นทางในป่า... ล้วนแล้วแต่เป็นอะไรที่เราเห็นมานักต่อนักแล้วตลอดช่วง 10 ปีที่เกมยุคสงครามโลกครั้งที่สองครองตลาด คุณภาพงานนั้นพอรับได้แต่ก็ไม่ถึงขั้นน่าประทับใจ ศัตรูหน้าเดิมวิ่งกันให้ว่อนฉาก พวกมันจะวิ่งหาที่กำบังที่ใกล้ที่สุด พยายามยิงใส่คุณและพวกของคุณ แต่กลับไม่ได้ดูเลยว่าตัวเองปลอดภัยขนาดไหน และไม่ได้สังเกตเลยว่ามีทหารศัตรู (AI เพื่อทหารของคุณก็โง่พอๆ กัน) ยืนห่างออกไปเพียงไม่มีนิ้ว (ดาบปลายปืนที่อุตส่าห์เอาออกมาติดน่ะมีไว้ทำไม?) ช่วงแรกๆ ที่ทหารญี่ปุ่นบุกกรูเข้ามาชาร์จคุณพร้อมๆ กับตะโกนว่า “บันไซ!” นับว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นตระหนก พวกมันจะโผล่มาจากหลุมพราง หรือกองซากศพ ถ้าพวกมันเข้ามาถึงตัวคุณละก็... คุณจะมีเวลาเพียงสองวินาทีในการกดปุ่มเพื่อหยิบมีดของคุณมาแทงพวกมัน มิเช่นนั้นคนที่จะถูกเสียบก็คือคุณ แต่พอพวกมันแห่กันมาเป็นครั้งที่สิบ ยี่สิบ สี่สิบ คุณก็พอจะเดาทางออกแล้วว่าเมื่อไหร่คุณจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบเดิมๆ อีก

     AI อาจจะไม่ค่อยสมจริงเท่าไหร่ในยามที่พวกมันมีชีวิต แต่พอพวกมันตาย (หรือกำลังจะตาย) นี่สิ... สมจริงสุดยอด! พวกนาซีจะคลานเวลาบาดเจ็บ แม้ตัวจะงอเป็นกุ้งด้วยความเจ็บปวด แต่มือของพวกมันก็ยังพยายามจะชักปืนพกขึ้นมายิงคุณ เล็งยิงดีๆ แขนหรือขาอาจจะถึงขั้นขาด ยิงโดนหัวเลือดก็จะพุ่งออกมาเป็นน้ำพุ การตายโหดๆ แบบนี้ยิ่งช่วยเพิ่มความสนุกให้กับโหมด Co-Op โดยคุณสามารถปลดล็อก Achievement ได้หาก... สังหารพลซุ่มยิงได้ 30 คน, สังหารศัตรูระยะประชิดพร้อมๆ กับเพื่อนคุณ, สังหารศัตรูโดยยิงถังปืนไฟของพวกมัน ฯลฯ โดย Achievement เหล่านี้จะทำให้โปรไฟล์แบบออนไลน์ของคุณดูดีขึ้น นอกจากนั้นยังมี “Death Card” ซ่อนอยู่ในทุกภารกิจ Death Card เหล่านี้จะปลดล็อกการโกง อาทิ ยิงศัตรูหัวระเบิด เปลี่ยนกระสุนคุณให้กลายเป็นกระสุน Paint Ball, ดูดพลังชีวิตศัตรู หรือกระสุนปืนพกระเบิด

     สิ่งที่ทำให้ WaW โดดเด่นจริงๆ คือ... อาวุธที่ทำงานดุจกลไกสังหารที่เที่ยงตรง ไม่ว่าจะเป็น ปืนกล BAR, ปืนไรเฟิล Arisaka, ปืนมาตรฐานทหรราบรัสเซีย Mosin Nagant, ปืนกลกึ่งอัตโนมัติล้ำยุค MP44 และอาวุธอื่นๆ ในยุคสมัยนั้น ปืนทุกกระบอกส่งกระสุนสังหารสมจริง กระสุนวิ่งออกจากรังเพลิงสู่เป้าหมาย... ปลอกกระสุนดีดออกปลิวว่อน... กระสุนลูกใหม่ถูกบรรจุ กลไกทั้งหมดทำงานอย่างลงตัว เสียงสมจริง แรงสะท้อนของปืนที่สมจริง ความมันส์ที่คุณจะได้รับจากการยิงปืนเหล่านี้นั้นสามารถทดแทนระบบภารกิจที่ซ้ำซากได้เป็นอย่างดี (บุกตะลุยเข้าไป สังหารสิ่งมีชีวิตทุกอย่างที่คุณเห็นจนกว่าจะมีคำว่า “ภารกิจสำเร็จ” เดินทางต่อไปยังพื้นที่ต่อไป... ทำซ้ำ)

      เนื้อหาทั้งหมดของเกมแสดงให้เห็นว่าทางผู้พัฒนาต้องการทำเกมแนวอาเขดที่ Casual มากกว่าเดิม ไม่โหดร้ายทารุณกับผู้เล่นจนเกินไป ให้คุณได้เล่นกับเพื่อนฝูงในช่วงวันหยุด (รบร่วมกัน แต่ก็แข่งกันว่าใครจะเก็บแต้มได้มากกว่ากัน) เอนจิ้นของ CoD4 ช่วยให้เกมมีประสิทธิภาพ ดูสวยงามด้วยเอฟเฟ็กต์ต่างๆ ภายใต้เฟรมเรตที่สูง เพียงแต่งานออกแบบสภาพแวดล้อมและฉากต่างๆ นั้นยังไม่ได้มาตรฐานเดียวกับ CoD4 เท่านั้นเอง

     ประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการเล่น WaW คือการที่คุณได้ลุยไปกับเพื่อน ยิงศัตรู (ทั้งเยอรมันและญี่ปุ่น) นับร้อยที่วิ่งเข้ามาขวางทางคุณ พร้อมๆ กับฟังเพลงแนวเฮฟวี่เมทัลที่บรรเลงอยู่เบื้องหลังไปพลางๆ ซึ่งถ้าคุณเป็นแฟนเกมสงครามโลกครั้งที่สองละก็... มันคงไม่ใช่ประสบการณ์แนวอาเขด แหลกแบบไม่ยั้ง ธรรมดาที่แปลกใหม่อะไร ความสะใจที่คุณจะได้รับจากการเป่าหัวศัตรูที่ถาโถมเข้ามาน่าจะสามารถกลบข้อด้อยของ AI ได้เป็นอย่างดี

มัลติเพลเยอร์

    แม้จะมาในรูปโฉมที่แตกต่าง แต่เมื่อคุณกระโดดเข้าไปเล่น โหมดมัลติเพลเยอร์ของ WaW คุณจะรู้สึกได้ถึงความคุ้นเคย... การยกเครื่องระบบมัลติเพลเยอร์ของ CoD4 มาใช้นั้นทำออกมาได้ดี จุดต่างที่เห็นได้ชัดคือ แผนที่ทั้ง 13 แผนที่นั้นใหญ่กว่าสมัย CoD4 (ทำให้รองรับผู้เล่น 32 คนได้ดีกว่า) แผนที่ใน WaW ออกแบบมาเพื่อการลุยแหลกมากกว่าการลุยแบบมีแบบแผนของ CoD4 รูปแบบการเล่นเลยออกมาไม่ตายตัวเกินไป ผู้เล่นสามารถตีโอบ และสำรวจพื้นที่ได้ แต่มันก็ทำให้ผู้เล่นมือใหม่ต้องใช้เวลาเรียนรู้มากหน่อย เพราะแค่รู้ว่าจุดยุทธศาสตร์สำคัญๆ อยู่ตรงไหนนั้นไม่เพียงพอต่อชัยชนะอีกต่อไป โหมดมัลติเพลเยอร์หลักๆ มีอยู่ใน WaW หมดไม่ว่าจะเป็น Sabotage, Free-for-All, Team Deathmatch, Domination หรือ Search and Destroy นอกจากนั้นยังมีโหมดใหม่ๆ อย่าง War ซึ่งเป็นเหมือนโหมด Domination ขนาดใหญ่ โดยผู้เล่นจะต้องพยายามสังหารและยึดธงศัตรูให้ได้มากที่สุด ซึ่งก็จะยิ่งทำให้ยึดธงศัตรูต่อไปได้เร็วยิ่งขึ้นเท่านั้น (สามารถยกระดับความสมจริงได้ด้วยการปรับตัวเลือกเป็นระดับฮาร์ดคอร์) ระบบ Perks ก็ช่วยเพิ่มความสามารถในการเล่นซ้ำด้วยการนำเสนอ Achievement และความสามารถใหม่ๆ โดยมีค่า EXP ปรากฏบนหน้าจอให้ผู้เล่นรู้ว่าเก็บประสบการณ์ไปถึงไหนแล้ว (ประสบการณ์ได้จากการสังหารและยึดธงศัตรู) แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า Perks ต่างๆ นั้นถูกก๊อบปี้มาจาก CoD4 แบบทั้งดุ้น (อาทิ Extreme Conditioning, Stopping Power, Double Tap, Deep Impact, Juggernaut และ Martyrdom) ถึงแม้จะมี Perks ของยานพาหนะเข้ามาเสริม แต่โดยรวมแล้วรู้สึกว่างานนี้จะมีการลอกเลียนแบบกันมากเกินไป ระบบการพัฒนาตัวละครของ CoD4 นั้นนับว่าเป็นจุดเด่นของโหมดมัลติเพลเยอร์ น่าเสียดายที่ WaW กลับนำเสนอความสามารถใหม่ๆ ให้ปลดล็อกน้อยเกินไป (ความสามารถเด่นๆ ก็เห็นจะเป็น Flamethrower ซึ่งจะปลดล็อกได้เมื่อเลเวล 65) นอกจากนั้นโบนัสในเกมก็ยังคล้ายคลึงกันอีก อย่างเช่น ฆ่าศัตรู สาม ห้า หรือเจ็ดคนจะทำให้คุณได้โบนัสอย่าง เรดาร์ ปืนใหญ่สนับสนุน หรือสุนัขจู่โจม (สุนัขจะตระเวนทั่วแผนที่ หากเจอศัตรูมันจะเข้าขย้ำทันที)

     ระบบออนไลน์ของ WaW ให้ความรู้สึกเหมือนเป็น Mod ของ CoD4 แต่ก็เป็น Mod ที่ทำโดยเซียน Mod ระดับมืออาชีพ กลไกต่างๆ ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของยานพาหนะที่ออกตะกุกตะกักเล็กน้อย การปรับแต่งตัวละครคลาสต่างๆ รวมไปถึงระบบ Perks ซึ่งฟีเจอร์ทั้งหมดที่ว่ามาก็ทำงานได้ดีภายใต้ฉากใหม่

ซอมบี้ระบาด

     Mod สงครามโลกครั้งที่สองของ Left 4 Dead? ไม่ช่าย... Nazi Zombies คือมินิเกมของ WaW (เหมือนกับที่ CoD4 มีโหมด Ragtime Warfare) ฝันร้ายของคุณจะได้เป็นจริงเมื่อฮิตเลอร์หันไปใช้ซอมบี้ทำสงคราม คุณจะต้องปกป้องบังเกอร์น้อยๆ ของคุณจากฝูงนาซีซอมบี้ ยิงศัตรูได้ก็จะได้แต้มมาคอยซ่อมแซมบังเกอร์หรืออัพเกรดอาวุธของคุณ แต่ Nazi Zombies ก็เป็นเหมือน WaW เพราะมันขาดความลุ่มลึกเพียงพอที่จะดึงดูดคุณได้เป็นเวลานานๆ ถ้าหากทางผู้พัฒนาใส่ใจและพัฒนาฉากแปลกมาเสริมหน่อยก็น่าจะดีกว่านี้

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ