Prince of Persia
เปิดโลกใหม่อันสดใส
GIANCARLO: อย่าคิดว่า Prince of Persia จะเหมือนกับ Ico นะครับ เพราะตัวเกมเหมือนกันก็แค่ภาพบางจุด และฉากของเกมนิดหน่อยเท่านั้น ในส่วนของการเล่นนั้นไม่มีความเหมือนกันเลย จริงๆ แล้ว Prince of Persia ออกจะคล้ายกับเกม Shadow of the Colossus มากกว่า เพราะฉากของเกมนั่นแหละที่จะเป็นศัตรูที่แท้จริงของคุณ ความท้าทายของเกมนี้อยู่ที่ความสามารถในการใช้ทักษะทางกายกรรมต่างๆ ของเจ้าชาย (ไม่มีชื่อเรียกในเกม เลยเรียกกันตามตำแหน่ง) เพื่อแก้ปริศนาและผ่านเส้นทางหฤโหดภายในฉาก
ซึ่งก็น่าแปลกใจมากที่เกมนี้ดูเหมือนเจ้าชายของเราจะไม่มีความสามารถพอ อย่างน้อยก็ในช่วงแรก เพราะความยุ่งยากในการควบคุมทำให้เพื่อนร่วมทางของเรา Elika ต้องคอยช่วยเหลือโดยการหยุดเวลาแล้วย้อนกลับไปยังที่ปลอดภัยก่อนที่เราจะร่วงกระแทกพื้นตาย แต่เมื่อคุณได้เล่นเกมไปสักสองสามฉาก คุณก็จะพบว่ามันขัดแย้งกันอย่างมากที่ยิ่งเราทำให้เจ้าชายเคลื่อนไหวมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งควบคุมง่ายขึ้นเท่านั้น และตัวเกมก็จะทำให้คุณรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากเมื่อคุณได้ผ่านความท้าทายในการกระโดดไปมายังที่ต่างๆ ของเจ้าชาย แม้ว่าตัวเกมจะช่วยเหลือคุณเป็นอย่างมากก็ตาม (การผ่านอุปสรรคบางจุดที่ดูเหมือนจะยาก แต่กลับเป็นแค่การกดปุ่มๆ เดียวให้ถูกจังหวะเท่านั้น) จุดที่น่าจะทำให้ระบบการเล่นดูแย่ลงมาก็คือ จังหวะที่เกี่ยวพันกับการใช้แท่นสกิล 2 ใน 4 แบบที่เป็นการบินกับวิ่ง ซึ่งแท่นเหล่านี้ก็มีส่วนช่วยเพิ่มความสามารถพิเศษและท่าการเคลื่อนไหวของเจ้าชายให้มากขึ้นด้วย
ระบบการต่อสู้ก็คล้ายๆ กับระบบเกมตะลุยฉากทั่วไป แต่ก็น่าสนใจพอสมควรเหมือนกัน การต่อสู้ในเกมนี้จะเน้นที่จังหวะในการกดปุ่ม มากกว่าการรัวปุ่มแบบไม่ยั้ง แม้ว่ามันจะทำความเข้าใจค่อนข้างยาก แถมยังเป็นเหมือนตัวหยุดที่ทำให้ความลื่นไหลในการเล่นเกมลดลง แต่การเพิ่มความรู้สึกที่เราต้องวางแผนการต่อสู้ลงไปในเกมนั้น ทำให้ผู้เล่นจะรู้สึกชื่นใจเป็นอย่างมากเมื่อพวกเขาได้ใช้ท่าคอมโบต่างๆ ที่ยุ่งยากระหว่าง Elika และเจ้าชายสำเร็จ
Prince of Persia ได้มอบตัวเกมที่มีระบบการเล่นที่ถูกออกแบบมาอย่างลงตัว ซึ่งเป็นทั้งการยืมระบบมาจากภาคเก่า แต่ก็มีการพัฒนาในเรื่องของ “จุดขาย” ของเกมที่เด่นชัดขึ้น หลังจากที่ซีรี่ย์นี้ดูเหมือนจะหลงลืมไปกับจุดขายของตัวเองในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา
MILKMAN: มันก็แปลกดีนะที่ในที่สุด Prince of Persia ภาคนี้ก็สามารถทำให้ระบบการต่อสู้มันลงตัวได้ในที่สุด การได้เข้าร่วมต่อสู้กับเพื่อนร่วมทางสุดสวย Elika เป็นความรู้สึกที่ตื่นเต้นเหนือคำบรรยาย แต่ระบบการต่อสู้ของเกมกลับไม่ใช่ตัวหลักของเกม มันเป็นการคะลุยด่านต่างหากที่เป็นระบบหลัก เกม Prince ในภาคนี้ก็เหมือนกับที่ Giancarlo พูดนั่นแหละครับว่า ทุกสิ่งทุกอย่างคือการตะลุยฉาก ซึ่งก็ทำให้ผมนึกถึงส่วนที่ดีที่สุดของ Team Ico และก็ทำให้ผมคิดถึง Shinobi (PS2) และ Ninja Gaiden (XB)
เพราะการที่ตัวเกมเน้นในเรื่องของการวิ่งไต่กำแพงนั่นเอง และถึงแม้ว่าตัวเกมจะยังสับสนว่าสรุปเกมนี้มันเป็นเกมตะลุยฉากสุดระทึกหรือเกมบู๊สุดมัน ผมก็ยังชอบเกมนี้อยู่ดี เพราะผมชอบสไตล์ภาพของเกมนี้ที่ดูสวยงาม และการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของเจ้าชายให้ดูเหมือนเป็นนักล่าสมบัติอันน่าหลงใหลนี้ แน่นอนว่าผมย่อมสงสัยว่าใครกันแน่ที่เป็นคนเอาทั้งห่วงและที่ยึดจับต่างๆ ไปวางไว้ในฉากให้เจ้าชายของเราคอยจับ แต่ในเมื่อคุณสนุกไปกับการเหวี่ยงตัวไปมาบนที่สูงจนตาลายแบบนี้ ใครจะไปสนเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนั้นกันล่ะครับ
G. FORD: Prince of Persia ได้รับการออกแบบมาอย่างดีมากๆ ตัวเกมถูกออกแบบมาให้เชื่อมต่อกันเป็นอย่างดี ทั้งการวิ่งบนกำแพงเพื่อไปจับห่วงหรือที่เกาะ ไถลลงจากพื้นเอียง หรือการกระโดดระหว่างเสาต่างๆ ทุกสิ่งนั้นเชื่อมกันหมดภายในโลกใบนี้ บวกกับสไตล์ของภาพที่เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก ทำให้เกมไตรภาคของเครื่องรุ่นเก่า (หนึ่งในเกมที่ผมชอบที่สุด) ได้เริ่มต้นศักราชใหม่ของซีรี่ย์อีกครั้งหนึ่ง
ปัญหาของผมคือ ทุกสิ่งดูลื่นไหลเกินไป มันเหมือนกับคุณเปิดระบบ Auto-Pilot ไว้ขณะเล่นเกม เพราะเมื่อคุณค้นพบเส้นทางในการผ่านฉากแล้ว (ด้วยความสามารถเข็มทิศสุดสะดวกของ Elika) ขั้นตอนที่เหลือในการผ่านก็แค่การกะจังหวะในการกดปุ่มให้ถูก ซึ่งจังหวะที่ว่าก็ไม่ได้ยากอะไร มันทำให้ผมไม่รู้สึกแบบเดียวกับเกม Prince ภาคก่อนๆ ที่ต้องใช้ทักษะสูงกว่านี้มากในการผ่านฉาก เช่นเดียวกับการต่อสู้ ผมไม่รู้ว่าคนอื่นรู้สึกสนุกได้อย่างไรกับการต่อสู้แบบตัวต่อตัว ที่ขั้นตอนในการต่อสู้ก็แค่ ป้องกัน ป้องกัน แล้วโจมตี ที่ไม่มีความตื่นเต้น และเป็นการขัดจังหวะการเล่นเสียเปล่าๆ อย่างไรก็ตาม เกมนี้ก็ยังเป็นเกมที่ดีเกมหนึ่ง แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันเหมือนกับเป็นก้าวถอยหลังจากเกมภาคก่อนยังไงไม่รู้
ผู้จัดจำหน่าย: Ubisoft
ผู้พัฒนา: Ubisoft Montreal
จำนวนผู้เล่น: 1 คน
ESRB: 13 ปีขึ้นไป
GIANCARLO B+ ดี
MILKMAN B+ ดี
G. FORD B ดี
ข้อดี: ภาพสวย เนื้อเรื่องและการควบคุมดี
ข้อเสีย: แท่นบินและแท่นวิ่ง
เจ้าชายที่ทุกคนรอ: กลับมาแล้วในมาดใหม่