หรือถึงคราวที่ Sony, Microsoft และ Nintendo จะหนาวๆร้อนๆ เมื่อ สตูดิโอ Rearden โดย Steve Perlman เจ้าของผลงาน QuickTime, WebTV เปิดตัวเครื่องเกมคอนโซลตัวใหม่ในงาน GDC 2009 ในชื่อว่า Onlive (ออนไลฟ์)ซึ่งเครื่องเกมตัวนี้มีทีเด็ดตรงที่ไม่ต้องใช้แผ่น รวมถึงเล่นเกมระดับไฮเอ็นด์โดยที่เราไม่ต้องอัพเกรดคอมให้เทพตามเกมด้วยนะสิ !!!
โดย Onlive เป็นเครื่องเกมลำดับ 4 ของเครื่องเกมยุคสมัยที่ 7 (PlayStation 3 • Wii • Xbox 360) โดยคอนเซปท์ของ Onlive คือ ตัวเครื่อง Onlive นั้น จะเป็นตัวศูนย์กลาง รับสัญญานจากเซิร์ฟเวอร์กลางของ Rearden ไปสู่ เครื่องรับสัญญาณซึ่งก็คือ Onlive ของผู้เล่น ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ เครื่อง MC หรือจะเป็นโทรทัศน์ก็ทำได้โดยง่าย
ส่วนค่ายเกมที่ประกาศว่าจะส่งเกมลงเครื่อง Onlive ก็ไม่ใช่พวกค่ายโนเนมที่ไหน แต่เป็นถึงระดับค่ายใหญ่ๆอย่าง Electronic Arts, Take-Two, Ubisoft, Epic Games, Atari, Codemasters, THQ, Warner Bros., 2D Boy และ Eidos Interactive ก้ได้ลงนามเซ็นสัญญากันไปแล้วด้วย ดังนั้นเกมดังๆอย่าง GTA IV, Mirror's Edge หรือ Bioshock ฯลฯ มีมาให้เล่นบน Onlive แน่นอน
สรุปรายละเอียดอย่างคราวๆของ Onlive
- ตัวเครื่องประกอบไปด้วย ตัวรับสัญญาน Blutoothแบบไร้สาย สามารถรับสัญญานจาก จอยไร้สาย และ หูฟังไร้สายได้พร้อมกัน 4 ชุด และพอร์ต USB 2 พอร์ต ไว้ต่อเม้าท์หรือ คีย์บอร์ด
- ค่าบริการน่าจะเหมือนบริการเกมออนไลน์ทั่วไปอย่าง PSN หรือ XBL
- สั่งคำสั่งต่างๆผ่านใช้จอยสติ๊ก
- ตัว Onlive จะเหมือนเป็นตัวรับสัญญานที่ส่งมาจากเซิร์ฟเวอร์ให้บริการของ Rearden อีกที
- ระดับความเร็วของอินเตอร์เน็ตในการรันภาพ ถ้าขนาด 1.5 M. ภาพจะออกมาระดับเครื่อง Wii แต่ถ้าความเร็วขนาด 5-6 M ขึ้นไปจะให้ภาพระดับไฮเอ็นด์เลยทีเดียว
- กำหนดการเปิดให้บริการคือช่วง ปลายปี 2009
นับว่าเป็นการเปิดตัวเครื่องคอนโซล Onlive ที่ไม่ธรรมดาจริงๆ สำหรับค่ายน้องใหม่มาแรง Rearden จะว่าไปแล้วนอกจากเกมค่ายๆดัง อย่างพวก Sony, Microsoft และ Nintendo จุดอ่อนที่สำคัญก็คือ เครื่องเกมใหม่ๆมักไม่มีซอฟแวร์เกมมารองรับหรือเกมที่จะลงไม่สามารถดึงดูดใจเกมเมอร์เท่าที่ควร แต่จากที่ Rearden สามารถเซ็นสัญญาจากค่ายเกมใหญ่ๆให้สามารถนำเกมมาป้อนลง Onlive ได้ ก็นับว่าแก้ไขจุดอ่อนในเรื่องไม่มีเกมเล่น ได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญ อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจก็คือในเรื่องของความเร็วอินเตอร์เนตนั่นว่าจะรองรับได้ดีขนาดไหนในกรณีถ้าเปิดบริการในบ้านเราในอนาคตข้างหน้า