ปรมาจารย์เพลง METAL GEAR จับเข่าคุยกับโนริฮิโกะ ฮิบิโนะอดีตนักประพันธ์เพลงของโคนามิ

แชร์เรื่องนี้:
ปรมาจารย์เพลง METAL GEAR จับเข่าคุยกับโนริฮิโกะ ฮิบิโนะอดีตนักประพันธ์เพลงของโคนามิ

      แฟนๆ ส่วนใหญ่ของ Metal Gear จะมีอารมณ์ร่วมไปกับคุณ Harry Gregson-Williams ในเรื่องของดนตรีประกอบที่เร้าใจในแต่ละคัตซีน ซึ่งคุณโนริฮิโกะ ฮิบิโนะ (Norihiko Hibino) ก็คู่ควรกับชื่อเสียงตรงนี้ไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นเสียงเตือนลุ้นระทึกยามถูกศัตรูพบเจอ ช่วงที่ต้องเข้าห้ำหั่นกับบอสสุดโหด หรือเสียงบรรยากาศรอบด้านเมื่อ Snake ทำการซ่อนตัว ผลงานของเขาเป็นส่วนหนึ่งที่น่าจดจำควบคู่ไปกับประสบการณ์การเล่นเกม Metal Gear ซึ่งนับว่าไม่เลวเลยทีเดียวสำหรับผู้ที่เริ่มต้นสายอาชีพนี้ด้วยการเป็นผู้จัดการโรงภาพยนตร์ในรัฐแคนซัสเราได้พบคุณฮิบิโนะที่ GEM Impact สตูดิโอของเขาในกรุงโตเกียว จึงถือโอกาสนี้พูดคุยกันเสียเลย

EGM: เป็นไงมาไงคุณถึงก้าวจากการเป็นผู้จัดการโรงหนังที่แคนซัสมาเป็นนักแต่งเพลงให้กับเกม Metal Gear ได้ครับ?

Norihiko Hibino: หลังจากกลับมาอยู่ที่ญี่ปุ่น ผมก็ใฝ่ฝันอยากเป็นนักดนตรีหรือไม่ก็เป็นโปรดิวเซอร์งานเพลง จริงๆ แล้วการทำงานกับบริษัทเกมก็เป็นเรื่องที่สนุกมากเพราะมีอุปกรณ์ให้ใช้ครบเลย ซึ่งในสมัยนั้นโปรแกรม Pro Tools และอุปกรณ์บันทึกเสียงอื่นๆ มีราคาสูงมากแถมยังไม่มีเวอร์ชั่น Liteราคาย่อมเยาเหมือนยุคนี้ให้คนทั่วไปจับต้องได้ด้วย จึงทำให้การทำงานกับบริษัทพัฒนาเกมเป็นเรื่องที่จำเป็นมากๆ ครับ

EGM: แล้วคุณเข้ามาเริ่มงานกับซีรีส์ชื่อดังอย่าง Metal Gear ได้อย่างไร? เคยเล่น Metal Gear Solid มาก่อนบ้างรึเปล่าครับ?

NH: ไม่เคยเลยครับ งานที่ได้รับมอบหมายชิ้นแรกสุดเลยจากทางโคนามิคือให้เล่นเกมฉากแรกให้ผ่าน ซึ่งเอาเข้าจริงๆ แล้วผมเล่นไม่ผ่านเลย (หัวเราะ) จริงๆ นะครับ มันเป็นงานชิ้นแรกที่ได้รับคำสั่งมาเลยล่ะ ผมคิดว่าน่าจะเพราะเข้ามาถูกจังหวะมากกว่า พอโคนามิจ้างผมเข้าทำงานปุ๊บ เอกสารสัญญาของทาง Harry Gergson-Wiliams ก็เซ็นเสร็จปั๊บ โดยที่พวกเขาก็ยังไม่ได้วางแผนเรื่องของดนตรีเลยว่าจะไปในแนวทางไหน แค่รู้ว่าเพลงจบจะออกแนวแจ๊ซๆ หน่อยโดยมีคุณริกะ มุราคานะ เป็นคนร้อง

EGM: จริงด้วย! เสียงแซกโซโฟนทำผมอึ้งในครั้งแรกที่เล่น MGS 2 เลยครับ

NH: ที่จริงแล้วแผ่นซีดีตัวอย่างที่ผมส่งให้โคนามิเป็นผลงานทางด้านเพลงแจ๊ซของผมเอง ดังนั้นเขาเลยอยากให้ผมแต่งเพลงแนวๆ นั้นให้เกม ผมพยายามใช้เสียงน่ากลัวๆ ของแซกโซโฟนในฉากต่อสู้ต่างๆ ใช้การบันทึกเสียงอะคูสติกนิดหน่อยกับเครื่องเคาะจังหวะและอื่นๆ ในช่วงนั้นทางโคนามิไม่ค่อยได้ใช้การบันทึกเสียงอะคูสติกมากนักเลยยังไม่มีงบประมาณให้ ผมเลยออกเงินเองซะเลย ซึ่งนั่นเป็นหนึ่งในหลายๆ เหตุผลที่ผมพยายามทำงานเพื่อก่อตั้งบริษัทของตัวเอง แม้ว่าในวันนี้ถ้าผมจะทำงานให้กับบริษัทผู้พัฒนารายอื่น พวกเขาก็จะไม่เสียเงินให้กับการบันทึกเสียงตัวอย่างพวกนี้ แต่ถ้าผมมีงบของตัวเอง ผมสามารถจ่ายเงินให้กับการบันทึกเสียงตัวอย่างและเก็บตัวอย่างเสียงที่มีคุณภาพไว้ใช้กับขั้นตอนการผลิตที่เหลือได้ครับ

EGM: คุณได้ทำงานใกล้ชิดกับคุณ Gregson-Williams เลยรึเปล่าครับ?

NH: ครับ คุณรู้ไหมว่าสมัยที่เขายังไม่ดัง (หัวเราะ) ผมช่างโชคดีที่ได้ไปเห็นแทร็กเสียงต่างๆ ที่คุณ Harry ทำแยกไว้ ทั้งแทร็กเสียงกลอง เบส และอื่นๆ มันช่วยให้ผมได้รับรู้ถึงวิธีที่เขาสร้างเสียงดนตรีสไตล์ฮอลลีวู้ด เป็นเพราะเขาซ้อนเสียงหลายๆ เสียงทับกันไว้จึงง่ายต่อการนำไปใช้ทำเสียงรอบทิศทางครับ

EGM: ใน MGS2 ผมสามารถบอกได้ว่าเพลงไหนเป็นของคุณ เพลงไหนเป็นของคุณ Gregson-Williams แต่ใน MGS4 ผมแทบจะแยกไม่ออกเลยเพราะฟังดูเป็นไปในรูปแบบเดียวกันมากขึ้น

NH: เอ่อ... คุณรู้มั้ยว่าคุณ Harry ไม่ได้แต่งอะไรมากเลยใน MGS4 เขาแค่จับเพลงธีมหลักและอื่นๆ มาเติมนู่นนิดนี่หน่อย กับดนตรีบางท่อนตรงช่วงคัตซีนบนสะพานในยุโรปที่มีกลุ่มทหารเข้ามาล้อมน่ะ แต่กับ MGS2 และ 3 ผมกับเขาทำหน้าที่แค่แต่งเพลง เขาใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในการทำดนตรีโดยรวม ที่เหลือผมจัดการแต่งเองหมด นั่นจึงเป็นเหตุให้เราทำงานไปในทิศทางที่ต่างกัน เช่นเดียวกับ MGS3 แต่สำหรับ MGS4 ผมไม่ค่อยไปแตะดนตรีในเกมมากนัก เพราะคุณโคจิม่าอยากได้ทิศทางที่ต่างไปของภาค 4 จึงให้ โนบุโกะ โทดะ รุ่นน้องของผมมารับหน้าที่ตรงนี้ไปแทนครับ

     แรกๆ เลยเนี่ย ผมไม่ได้ยื่นมือเข้าไปช่วยในส่วนของ MGS4 ซะทีเดียว เพราะว่าผมลาออกจากโคนามิและกลายเป็นคนนอกไปแล้ว แต่ท้ายที่สุดคุณโคจิมะโทรหาผมเมื่อช่วงต้นปีและบอกว่า “ผมอยากได้เพลงแบบของคุณ” (หัวเราะ) เขาคงเข้าใจว่าดนตรีสำหรับฉากต่อสู้ควรเป็นแบบภาคก่อนๆ ดังนั้นเขาจึงโทรหาผมและขอให้ช่วยแต่งเพลงยาว 90 นาทีให้กับคัตซีนหลักๆ ทั้งหลาย ซึ่งเราทำเสร็จในเวลาเพียงสามอาทิตย์ เราใช้วิธีประสานสองสิ่งเข้าด้วยกันเพื่อสร้างสรรค์ดนตรีใหม่ๆ อย่างแรกเลยคือการตัดต่อเพลงต่างๆ ของคุณ Harry อย่างที่สองคือการทำดนตรีใหม่ ตัวผมเองจะเน้นไปที่การตัดต่อเพลงของคุณ Harry สำหรับการทำดนตรีใหม่นั้นผมปล่อยให้นักแต่งเพลงคนอื่นๆ ของผมรับหน้าที่ไปครับ

Gregson-Willams ดูจะได้รับชื่อเสียงมากมายในเรื่องดนตรีของ MGS2 และ MGS3 แม้ว่าจะแค่แต่งเพลงในส่วนของคัตซีนต่างๆ ซึ่งดนตรีเกือบทั้งหมดในเกมเป็นฝีมือของคุณ คุณรู้สึกอึดอัดบ้างไหมครับ?

EGM: คุณบอกว่าคุณโคจิมะอยากได้ดนตรี Metal Gear แบบเก่าเข้าไว้ในเกม แต่แฟนๆ หลายคนผิดหวังที่ไม่ได้ยินเพลงธีมหลักของภาคก่อนๆ ใน MGS4 เลยนะครับ

NH: ความจริงคือทางโคนามิมีปัญหาเรื่องกฎหมายกับนักแต่งเพลงชาวรัสเซีย ที่บอกว่าเราไปขโมยเพลงของเขามา ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่เลย แต่สถานการณ์แบบนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทางโคนามิจึงตัดสินใจไม่ใส่ดนตรีนั้นไว้ในเกมซะเลย

EGM: เนื้อหาของ MGS2 ถูกตั้งไว้เป็นอนาคตในอีก 10 ปีข้างหน้า แต่ MGS3 กลับย้อนไปถึงเรื่องราวในอดีตเมื่อ 40 ปีก่อน คุณมีวิธีจัดการกับความต่างเหล่านี้ยังไงบ้างครับ?

NH: การประพันธ์เพลงเพื่ออนาคตไม่ใช่เรื่องยาก ใครๆ ก็ทำกันเพราะมีแบบอย่างที่แน่นอนในการหยิบมาใช้หากต้องการอธิบายถึงอนาคต แต่ถ้าคุณต้องการย้อนอดีตคุณจำเป็นต้องใช้จินตนาการ ถ้าคุณใช้เสียงดนตรีแบบในยุคเก่า มันก็แค่เป็น... เสียงดนตรีแบบเก่าๆ มันควรต้องเป็นอะไรสักอย่างประมาณอารมณ์ช่วงยุค ’60 กับเสียงจากเครื่องดนตรีไฟฟ้าสไตล์ Metal Gear ดังนั้นผมจึงเลือกใช้ฟลุตกับกีตาร์เพื่อทำเสียงต่างๆ เหมือนกับวิธีการสร้างเสียงของกีตาร์ไฟฟ้าเวลาที่คุณแค่แตะที่สายของมัน อะไรประมาณนั้น และผมก็เล่นฟลุตแบบตามยถากรรม (หัวเราะ) มันทำให้คุณไม่รู้สึกเหมือนอยู่ในโลกอนาคตแต่มีความเป็นมนุษย์มากกว่าเหมือนคุณใช้ชีวิตอยู่ในป่าจริงๆ



แรกๆ เลยเนี่ย ผมไม่ได้ยื่นมือเข้าไปช่วยในส่วนของ MGS4 ซะทีเดียว เพราะว่าผมลาออกจากโคนามิและกลายเป็นคนนอกไปแล้ว แต่ท้ายที่สุดคุณโคจิมะโทรหาผมเมื่อช่วงต้นปีและบอกว่า “ผมอยากได้เพลงแบบของคุณ”

EGM: พูดได้น่าสนใจมากครับ เพราะบางครั้ง Big Boss ตัวละครหลักของ MGS3 ก็ไม่ได้ดูล้ำยุคเท่ากับ Solid Snake คุณได้นำเอกลักษณ์เหล่านี้ของตัวละครมาเป็นตัวช่วยในการแต่งเพลงด้วยรึเปล่าครับ?

NH: แน่นอนครับ คุณโคจิมะเองมีไอเดียแน่นปึ้กต่อตัวละครต่างๆ ว่าควรจะเป็นไปแบบใด ไม่ใช่แค่ Snake เท่านั้น ยังรวมไปถึงบรรดาบอสทั้งหลายด้วย อย่างเช่นตัว The Pain คุณโคจิมะอยากให้มีลักษณะเหมือนดาราแอ็กชั่นในหนังฮอลลีวู้ดทั่วๆ ไป ดนตรีก็เลยให้ความรู้สึกแบบฮอลลีวู้ด แต่กับ The Fury แล้วดูออกจะมีความบ้ามากกว่า เขาจึงอยากให้ความบ้าคลั่งนั้นสะท้อนออกมาในเสียงดนตรี ผมสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของคุณโคจิมะที่มีในตัวละครแต่ละตัวเพราะเราพูดคุยกันบ่อยมาก โดยมากเขาจะบอก “โอเค” ไม่ค่อยจะขอให้ผมเปลี่ยนแปลงอะไรสักเท่าไรครับ

EGM: ทางคุณ Gregson-Willams ดูจะได้รับชื่อเสียงมากมายในเรื่องดนตรีของ MGS2 และ MGS3 แม้ว่าจะแค่แต่งเพลงในส่วนของคัตซีนต่างๆ ซึ่งดนตรีเกือบทั้งหมดในเกมเป็นฝีมือของคุณ คุณรู้สึกอึดอัดบ้างไหมครับ?

NH: แหงสิ อึดอัดมากๆ เลยด้วย ในช่วงแรกที่ผมออกไปเผชิญโลกด้วยตัวเอง ผมกลายเป็นคนหน้าใหม่ ไม่มีใครรู้ว่าผมเป็นคนสร้างสรรค์เสียงเพลงให้กับ Metal Gear Solid ทุกคนคิดว่าเพลงทุกเพลง คุณ Harry เป็นคนทำเองหมด แต่กับตัวผมเองแล้วกลายเป็นว่า “คุณเป็นใครเนี่ยะ?” แต่ก็เพราะ Metal Gear Solid นี่แหละที่ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง ผมจึงไม่เคยพูดไงว่าผมเกลียดโคนามิ ต้องขอบคุณเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นช่วงปีแรกหลังจากที่ผมลาออก ผมตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องทำให้ทุกคนรู้ว่าผมเป็นคนแต่งเพลงให้กับ Metal Gear Solid ผมต้องทำการศึกษาพวกเขา จากนั้นอีกเกือบสี่ปีต่อมาผมก็ประสบความสำเร็จอย่างที่เห็นนี่แหละครับ

โดย Jeremy Parish แปลและเรียบเรียง พิพัฒน์ศักดิ์ ทิศาภาคย์

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ