วงการเกมออนไลน์ไทยสั่นสะเทือน เมื่อภาครัฐประกาศเตรียมเดินหน้าเก็บภาษีเกมออนไลน์!?

แชร์เรื่องนี้:
วงการเกมออนไลน์ไทยสั่นสะเทือน เมื่อภาครัฐประกาศเตรียมเดินหน้าเก็บภาษีเกมออนไลน์!?

     รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง คุณหมอพฤติชัย ดำรงรัตน์ ซึ่งกำกับดูแล กระทรวงพาณิชย์ ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการ เรื่องเด่นเย็นนี้ โดยให้ข้อมูลถึง การขึ้นภาษีกรมสรรพสามิต (ภาษีที่ไม่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน ฟุ่มเฟือย หรือกระทบต่อสุขภาพ) โดยให้เหตุผลถึงการที่ไม่ได้มีการปรับปรุงภาษีสินค้ามาหลายปีแล้ว จึงควรปรับให้เหมาะสมทั้งระบบ โดยมีการตั่งเป้าหมายเก็บเพิ่มเติมอีก 30,000 ล้านบาท โดยกลุ่มสินค้าจากสินค้า 21 รายการที่จะได้รับผลกระทบต่อนโยบายครั้งนี้คือ จากสินค้าที่อยู่ในกลุ่ม เครื่องดื่มคาเฟอีน, สุรา, บุหรี่, สถานบันเทิง, การส่ง SMS, สลากกินแบ่ง และเรื่องที่ Online Station เราให้ความสนใจนั่นคือ ภาษีจากเกมออนไลน์อย่างไรก็ตามคุณหมอพฤติชัย ดำรงรัตน์ก็ยังไม่ยินยัน 100% ว่าจะจัดเก็บจริง เพราะต้องให้กระทรวงการคลังศึกษาพิจารณาดูก่อน โดยจะได้บทสรุปภายใน 2 อาทิตย์เพื่อเสนอต่อ ค.ร.ม.

   

จากอดีตถึงปัจจุบัน

     ก่อนหน้านี้ในปี 2548 กระทรวงการคลังเคยวางแผนที่จะเก็บภาษีสรรพสามิต "เกมออนไลน์" มาก่อนโดยเคยมีนโยบายออกกฎกระทรวงให้ผู้ประกอบการเกมออนไลน์ยื่นขออนุญาตจดทะเบียนเพื่อเสียค่าธรรมเนียมเป็นรายปี พร้อมกำหนดเกณฑ์เรื่องเวลาเปิดปิด-ขนาดพื้นที่ และอายุผู้เล่น เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งมอมเมาเยาวชน นายสมคิดจาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในสมัยนั้นกล่าวว่า "ท่านนายกทักษิน และผมเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน ต้องจริงจังแม้ไม่มีกฎหมายก็ต้องทำขึ้นมาเพราะไม่ต้องการให้เยาวชนมั่วสุมตามร้านเกม ไม่สนใจการศึกษา และขอเงินผู้ปกครองไปใช้ในทางไม่เป็นประโยชน์ ผมได้มอบนโยบายไปหลายครั้ง ก็อยากเห็นเป็นรูปธรรมเสียที" ส่วนเรื่องการศึกษาเกี่ยวกับภาษีเกมออนไลน์ในสมัยนั้น กรมสรรพสามิตให้ข้อมูลได้เพียงว่าอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางด้านกฎหมาย เพื่อจัดเก็บภาษีบริการดังกล่าว และพบว่าการจัดเก็บภาษีสามารถทำได้ในส่วนของการให้บริการเท่านั้น แต่ในส่วนของการดาวน์โหลดเกมจากต่างประเทศ ซึ่งครอบคลุมเกี่ยวข้องกับเรื่องอี-คอมเมิร์ซคงทำได้ลำบาก เพราะในสหรัฐอเมริกาก็มีปัญหากับธุรกิจนี้และยังหาช่องในการจัดเก็บไม่ได้

     ด้านผู้ให้บริการเกมในสมัยนั้น นายปราโมทย์ สุดจิตพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการเกมออนไลน์ "แร็กนาร็อก" กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการคลังมีแนวคิดที่จะจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสำหรับธุรกิจเกมออนไลน์ว่า เรื่องนี้เคยได้มีการเสนอขึ้นมาครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อครั้งที่ผ่านมาทางกระทรวงไอซีทีมีแนวคิดเข้ามาจัดระเบียบธุรกิจเกมออนไลน์ แต่เรื่องก็เงียบไป โดยส่วนตัวถ้ารัฐบาลมี นโยบายจะเก็บภาษีสรรพสามิต บริษัทก็พร้อมที่จะทำตามระเบียบปฏิบัติ แต่ก็มีคำถามว่าการนำมาตร การดังกล่าวมาใช้มีวัตถุประสงค์อะไรซึ่งถ้าต้องการที่จะควบคุมการเล่นเกมออนไลน์ของเด็ก วิธีการนี้จะสามารถแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่

     อย่างไรก็ตาม ก็ต้องการให้ภาครัฐเข้ามาควบคุมและกำหนดกฎเกณฑ์การทำธุรกิจเกมออนไลน์ให้ชัดเจน โดยมีการศึกษารายละเอียดการแก้ปัญหาให้ครบวงจร อะไรอยู่บนความถูกต้องและดีที่สุดต่อส่วนรวมก็กำหนดออกมา แต่ต้องเป็นกฎเกณฑ์ที่ควบคุมได้อย่างเสมอภาค เช่น ถ้าเกมออนไลน์ต้องจ่ายภาษีสรรพสามิต เกมบนมือถือต้องจ่ายหรือไม่เพราะปัจจุบันเกมออนไลน์ก็เล่นบนมือถือได้ รวมถึงเกมคอนโซล เกมคอมพิวเตอร์จะมีมาตรการอย่างไร

     นอกจากนี้ ยังมีประเด็นว่าวิธีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเกมออนไลน์จะออกมาในรูปแบบไหน เพราะเกมออนไลน์ไม่ได้เป็นสินค้าเหมือนเหล้า บุหรี่ แล้วในกรณีเกมออนไลน์ที่มีเซิร์ฟเวอร์อยู่ต่างประเทศจะทำอย่างไร

     นายปราโมทย์กล่าวว่า ถ้าผู้ให้บริการเกมออนไลน์มีภาระต้นทุนที่สูงขึ้น ก็แน่นอนว่าจะต้องผลักภาระไปที่ผู้บริโภค เมื่อถึงเวลานั้นก็จะมีปัญหาเรื่องเซิร์ฟเวอร์เถื่อนระบาดมากขึ้นเพราะปัจจุบันบริษัทคิดค่าบริการเกมออนไลน์ชั่วโมงละ 4-5 บาทและยังมีเซิร์ฟเวอร์เถื่อนจำนวนมาก (ค่าบริการในสมัยนั้นเป็นลักษณะรายเดือน) ซึ่งถ้าบริษัทมีภาระต้นทุนที่สูงขึ้น ค่าบริการเพิ่มขึ้นก็จะเป็นช่องว่างให้เด็กหนีไปเล่นเซิร์ฟเวอร์เถื่อนมากขึ้น แล้วจะมีมาตรการแก้ปัญหาเรื่องเด็กเล่นเกมออนไลน์ได้อย่างไร นอกจากนี้ อยากให้มอง 2 ด้าน เพราะเกมออนไลน์ก็ไม่ใช่ตัวปัญหาทั้งหมดเพียงแต่จะทำอย่างไรให้เด็กไม่ใช้เวลากับการเล่นเกมมากเกินไป

     "เวลานี้ถือว่าภาพของธุรกิจเกมออนไลน์ยังค่อนข้างอึมครึม วันหนึ่งรัฐบาลอยากจะกำหนดอะไรก็ประกาศออกมาตามกระแสที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการในธุรกิจก็ลำบากที่ต้องปรับตัวกับมาตรการใหม่ๆ อยู่ตลอด แถมยังต้องเป็นจำเลยของสังคมจึงอยากให้รัฐบาลศึกษาข้อดีข้อเสียของมาตรการต่างๆ ที่จะนำมาใช้อย่างรอบคอบก่อนที่จะประกาศบังคับใช้ด้วย"

   

ทุกวันนี้เป็นกันทั้งโลก

     ไม่เฉพาะในไทยดูเหมือนเศรษฐกิจในเกมออนไลน์กำลังตกเป็นเป้าสายตาของรัฐบาลทั่วโลก ด้วยมูลค่าที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนับหมื่นล้านบาทเฉพาะในจีน ล่าสุดเมื่อปลายปีที่แล้วสรรพากรของประเทศจีนเองก็มีประกาศเรียกเก็บภาษีธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเกมออนไลน์แล้ว อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นภาษีที่เกี่ยวกับเกมออนไลน์ แต่การเก็บภาษีจะเกิดขึ้นต่อเมื่อมีการทำกำไรอยู่ในรูปแบบเงินจริงเท่านั้น ซึ่งอัตราภาษีนั้นอยู่ที่ร้อยละ 15-20 เลยทีเดียว

     ข้ามไปทางฝั่งสหรัฐอเมริกา สภาคองเกรสเองก็ได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาความเป็นไปได้ในการเก็บภาษีรายได้จากเกมออนไลน์แล้ว โดยนาย Dan Miller นักเศรษฐศาสตร์ที่ปรึกษาของคณะกรรมการชุดนี้ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า ทีมงานกำลังศึกษาประเด็นทางด้านเศรษฐกิจเสมือนจริงหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นภาษี, การแลกเปลี่ยนไอเท็ม, ทรัพย์สินภายในเกม เขายังบอกอีกด้วยว่า ปัจจุบันในเมื่อนักเล่นเกมสามารถมีทรัพย์สินและรายได้ภายในเกมได้ จึงต้องหาวิธีที่จะเก็บภาษีจากทรัพย์สินเสมือนเหล่านี้ด้วย

บทสรุปจะเป็นอย่างไร

     ในปัจจุบันนี้ ถ้าเทียบกับอัตราเติบโตในอดีตกับปัจจุบัน เราก็จะพบว่า วงการเกมออนไลน์ในบ้านเรา หรือ ในต่างประเทศก็ตามแต่นั้นมีอัตราการเจริญเติบโตที่สูงขึ้นเป็นอย่างมาก และธรุกิจเกมออนไลน์ยังเป็นอีกหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจน้อยมากเป็นอันดับต้นๆ

    ซึ่งไม่น่าแปลกถ้าภาครัฐจะมองว่าการเก็บภาษีจากเกมออนไลน์เหล่านี้จะช่วยให้ประเทศชาติพัฒนาขึ้นได้อีกมาก เพราะในต่างประเทศ เค้าก็มีการเก็บภาษีจากเกมออนไลน์เช่นกัน และวงเงินในธรุกิจเกมออนไลน์นั้น ถ้าใ้ห้ตีเป็นมูลค่า ก็มีเงินหมุนเวียนมากกว่าหมื่นล้านบาท ซึ่งผมเองก็เชื่อว่า ถ้าการจ่ายภาษีดังกล่าวนั้นจะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ได้จริง เหล่าผู้ให้บริการเกมออนไลน์ก็เต็มใจอย่างยิ่งที่จะช่วยจ่ายภาษีให้ แต่ปัญหาที่น่าเป็นห่วงก็คือ เมื่อมีการเก็บภาษีจริงขึ้นมา เหล่าผู้ประกอบการ ค่ายเกม ร้านอินเตอร์เน็ทต่างๆ จะทำอย่างไร

    ในเมื่อการปราบปรามเซิร์ฟเวอร์เถื่อนหรือสินค้าผิดลิขสิทธิ์นั้นยังไม่เห็นภาพอย่างชัดเจนเลยสักครั้ง และถ้ามีการเรียกเก็บภาษีจริงๆ ขึ้นมา ข้อจำกัดต่างๆ จะเป็นอย่างไร ทั้งเกมในประเทศที่ค่ายเกมเป็นผู้ให้บริการ หรือว่าเกมที่มีเซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ในต่างประเทศ อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องการซื้อขายไอเทม เป็นเงินจริง หรือแม้แต่ปัญหาเด็กติดเกมแล้วก่อคดีอุกฉกรรจ์หรือคดีอนาจารต่างๆ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นปัญหาที่เปราะบางด้วยกันทั้งนั้น

     ดังนั้นในอนาคตเราก็คงต้องรอดูกันต่อไปว่า มาตรการเรียกเก็บภาษีออนไลน์จะออกมารูปแบบใด และนโยบายการแก้ปัญหาของทางภาครัฐจะทำให้ภาคเอกชนอย่างเราๆ ยอมรับได้หรือไม่ หรือว่าจะกลับมาเป็นนโยบายวัวหายลอมคอกแบบในอดีตอีกครั้ง ตอนนี้คงไม่มีใครให้คำตอบได้ทั้งนั้น สิ่งที่เราพอจะคาดหวังได้ก็คงมีเพียงแค่ บทเรียนราคาแพงในอดีตนั้น จะช่วยให้คนเราพัฒนาขึ้นได้เสมอ เท่านั้นล่ะครับ...

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ