V.D.Old Game
Sega SG-1000 & Master System Series
จุดกำเนิดเครื่องเกมสายเลือดเซก้า
ในตอนนี้ผมจะขอพูดถึงเครื่องเกมคอนโซลรุ่นแรกจากบริษัทเซก้า ที่ถือได้ว่าเป็นคู่รักคู่แค้นกับนินเทนโดในสมัยนั้น แต่ปัจจุบันเซก้าได้ถอนตัวออกจากตลาดผู้ผลิตเครื่องเกมแล้ว และได้หันไปผลิตเกมป้อนให้กับเครื่องต่างๆ แทน ไม่เว้นแม้กระทั่งเครื่องเกมจากนินเทนโดคู่แข่งในอดีต
Sega SG-1000 เป็นชื่อของเครื่องเกมคอนโซลเครื่องแรกของเซก้า ซึ่งออกจำหน่ายพร้อมๆ กับเครื่องฟามิคอมของนินเทนโดในปี พ.ศ. 2526 แต่ด้วยประสิทธิภาพเครื่องที่ด้อยกว่าจึงไม่ได้รับความนิยมมากนัก หลังจากนั้นเพียงแค่ 2 ปี ในปี พ.ศ. 2528 เซก้าก็ได้ส่งเครื่อง Sega Mark III ออกมา ซึ่งเป็นเครื่องที่อัพเกรดความสามารถจาก SG-1000 ให้สูงขึ้นเพื่อช่วงชิงตลาดจากนินเทนโด และส่ง Sega Mark III ออกสู่ตลาดโลกด้วยชื่อ Master System ในปี พ.ศ. 2529 นั่นเอง
Master System นั้นถือได้ว่าเป็นเครื่องเกมที่ได้รับความนิยมมากพอสมควร โดยเฉพาะในตลาดตะวันตก แต่เนื่องจากเป็นเครื่องเกมที่มีอายุค่อนข้างสั้นจึงไม่ได้เป็นที่กล่าวถึงมากนัก เพราะหลังจากที่ Master System ได้วางจำหน่ายทั่วโลกเพียง 2 ปี เซก้าก็ออกจำหน่ายเครื่อง Mega Drive ซึ่งถือได้ว่าเป็นเครื่องเกมในยุค 16Bit เพื่อตัดหน้าคู่แข่งสำคัญคือซุปเปอร์ฟามิคอมจากนินเทนโด แต่การตัดสินใจครั้งนี้ของเซก้านั้นก็เปรียบเหมือนกับเป็นการปิดลมหายใจของเครื่อง Master System ของตัวเองลงไปด้วย
ความนิยมของ Master System ในประเทศไทย
Master System ในเมืองไทยไม่ได้รับความนิยมมากนัก เนื่องจากในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ฟามิคอมครองตลาดเกมบ้านเราแทบจะ 100% อาจจะเป็นเพราะช่วงเวลาวางจำหน่ายและการทำตลาดนั้นสั้นมากเพียงแค่ 2 ปี ในเมืองไทยจึงคุ้นเคยกับเครื่อง Mega Drive ซึ่งเป็นเครื่องรุ่นต่อมามากกว่า
ปัจจุบันสามารถพบเห็น Master System
ซึ่งตลับเกมและตัวเครื่อง Master System ยังพอจะมีบ้างตามตลาดมืดหรือตลาดนัดขายของเก่า แต่มักจะพบเห็นเวอร์ชั่นทางฝั่งตะวันตกมากกว่า และมีราคาที่ไม่ค่อยสูงนักเนื่องจากไม่ค่อยได้รับความนิยมในหมู่นักสะสมเท่าใดนัก
เกมฮิตติดเครื่อง
Phantasy Star ภาคแรกของเกมอาร์พีจีลูกหม้อของเซก้าที่สามารถหาเล่นได้บน Master System เท่านั้น และในปัจจุบันเกมนี้ยังมีภาคใหม่ๆ ออกมาให้ผู้เล่นได้เล่นกันอยู่
Sonic เม่นสีฟ้า สัญลักษณ์ของเซก้าที่คนส่วนใหญ่มักคุ้นเคยกับภาคแรกที่ออกให้กับเครื่อง Mega Drive แต่ในตอนนั้นได้ทำการพอร์ตมายังเครื่อง Master System เพื่อเอาใจแฟนๆ ที่ยังครอบครองเครื่องนี้อยู่
Golden Axe อีกหนึ่งเกมแอ็กชั่นที่โด่งดังของเซก้า ซึ่งออกให้กับ Mega Drive และได้วางจำหน่ายบนเครื่องนี้ด้วย ตัวเกมถูกลดทอนคุณภาพกราฟิกลงบ้างเพื่อให้สอดคล้องกับประสิทธิภาพของเครื่อง
รูปร่างลักษณะคอนโทรลเลอร์ของ Master System
Master System นั้นถูกออกแบบมาเพื่อต่อกรกับฟามิคอม โดยเฉพาะไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนรูปแบบคอนโทรลเลอร์จากเดิมในรุ่น SG-1000 ที่มีลักษณะคล้ายเครื่องของ Atari ให้กลายมาเป็นคอนโทรลเลอร์รูปแบบเดียวกับเครื่องฟามิคอม
รูปร่างลักษณะตลับและแผ่นเกมของเครื่อง Master System
ตัวตลับเกมของทางฝั่งญี่ปุ่นหรือเครื่อง Sega MarkIII จะมีลักษณะเป็นทรงสูง (ตลับด้านซ้าย) แตกต่างกับของทางฝั่งตะวันออก หรือ Master System ซึ่งเป็นรูปทรงแนวนอน (ตลับด้านขวา) จึงไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้ เพื่อเป็นการแบ่งโซนการจำหน่ายเกมนั่นเอง และยังมีเกมในรูปแบบของ Card ด้วย แต่ไม่ค่อยมีเกมในรูปแบบนี้เท่าใดนัก
ความสามารถโดยรวมของเครื่อง Master System
CPU Clock Speed: 3.58 MHz
RAM: 8 K
Resolution: 256×192
Colours: 16
Palette: 64
Joypad Ports: 2
ความจุสูงสุดของตลับ: 512 กิโลไบต์หรือ 4 เมกะบิท
วิวัฒนาการของ Master System
Sega SG-1000 วางจำหน่าย พ.ศ. 2526 เครื่องคอนโซลเครื่องแรกของเซก้า ตัวเครื่องเป็นโทนสีขาวและมีลักษณะดูเรียบง่ายไม่ซับซ้อน
Sega SG-1000 II วางจำหน่าย พ.ศ. 2527 เครื่องรุ่นปรับปรุงจากรุ่นแรกโดยปรับเปลี่ยนดีไซน์ตัวเครื่องให้ดูซับซ้อนดุดันมากยิ่งขึ้น และปรับปรุงคอนโทรลเลอร์ให้มีลักษณะคล้ายกับฟามิคอม
Sega Mark III วางจำหน่าย พ.ศ. 2528 เป็นการอัพเกรดประสิทธิภาพเครื่องจนถือได้ว่าเป็นเครื่องเกมตัวใหม่ได้เลยทีเดียว แต่ยังคงรูปแบบของเครื่องให้คล้ายๆ กับ SG-1000 II
Master System วางจำหน่าย พ.ศ. 2529 เครื่อง Sega Mark III ที่ออกวางจำหน่ายในตลาดโลก ได้เปลี่ยนทั้งชื่อและโทนสีของเครื่องเป็นสีดำให้ดูดุดันขึ้น เพื่อทำตลาดในตะวันตก
Master System II วางจำหน่าย พ.ศ. 2533 ก็เช่นเดียวกับปกติคือ เมื่อเครื่องเกมวางจำหน่ายไประยะเวลาหนึ่งก็จะมีการออกแบบเครื่องให้มีขนาดเล็กลง ดูทันสมัยขึ้น และลดต้นทุนการผลิตด้วยการตัดช่องเสียบเกมในรูปแบบ Card ออก เพื่อที่จะขายได้ในราคาถูกลง
บริษัทผู้ผลิต: เซก้า พ.ศ. 2526
จำนวนเครื่องที่ขายได้: ประมาณ 13 ล้านเครื่อง
จำนวนเกมที่ออกวางจำหน่าย: ประมาณ 300 เกม
ราคาจำหน่ายครั้งแรก: 15,000 เยน หรือประมาณ 3,000 บาท (ราคาในยุคนั้น)
โดย River01 (พรเกียรติ แซ่ลี้)
www.gameclubretro.com