Motorstorm: Pacific Rift ปรับปรุงใหม่ ประทับใจสุดๆ

แชร์เรื่องนี้:
Motorstorm: Pacific Rift ปรับปรุงใหม่ ประทับใจสุดๆ

ปรับปรุงใหม่ ประทับใจสุดๆ

    Shane: ภาคต่ออย่าง Pacific Rift นั้นแสดงให้เห็นว่า Evolution ผู้พัฒนาเกม MotorStorm ได้เรียนรู้จากภาคก่อนมาก ระบบพื้นฐานของเกมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนัก เกมนี้ยังคงเป็นเกมที่เกี่ยวกับว่า ใครหาเส้นทางการวิ่ง และทางลัดที่เหมาะสำหรับรถประเภทต่างๆ และเอาชนะพวก A.I. สุดโหดของเกมด้วยการเรียนรู้ที่จะควบคุมระบบบูสต์อันสุดเสี่ยงของเกม แต่ด้วยการที่เกมนี้แบ่งการแข่งขันสู่ดินแดนต่างๆ สี่แบบ มันทำให้ข้อเสียของภาคแรกที่มีแต่ภูมิประเทศแบบเดียวซ้ำๆ กันหายไป โดยคุณจะได้ตะลุยป่าดงดิบ ชายหาด ผาสูง และภูเขาที่เต็มไปด้วยแม็กม่า นอกจากนี้ Pacific Rift จะยังมีระบบการเล่นแบบผู้เล่นคนเดียว Festival ที่เปิดกว้าง และโหดน้อยกว่าของเก่า แถมมันยังค่อยๆ ปรับระดับการเล่นให้ผู้เล่นสามารถเตรียมตัวได้เป็นอย่างดี ก่อนที่จะไปลงแข่งในแบบออนไลน์ที่น่าหลงใหลมากๆ

      แต่ถึงแม้ Pacific Rift จะเต็มไปด้วยการออกแบบแผนที่อันแปลกตาและหลากหลาย ความหลากหลายนั้นก็มีข้อด้อยอยู่เหมือนกัน นั่นคือในแต่ละเขาวงกตนั้นจะมีอยู่บางจุดที่ดูแปลกตาและมีคุณภาพของกราฟิกที่ต่ำมาก ซึ่งทำให้คุณอารมณ์ขาดในบางครั้ง ทั้งๆ ที่กำลังชื่นชมทัศนียภาพอันสุดสวยอยู่ครับ

     John: เป็นการพัฒนาในทุกๆ ด้านเท่าที่จะเป็นไปได้จากภาคแรก นี่แหละคือสิ่งที่ทุกคนคิดว่า ภาคแรกมันน่าจะทำได้แบบนี้ ซึ่งมันดีกว่าเดิมมากจนแทบจะทดแทนความแย่ของภาคแรกได้เกือบหมด เพราะว่ามันได้ปรับปรุงทุกสิ่งที่มีคนแสดงความคิดเห็นออกมา ยกเว้นอย่างเดียวเท่านั้น นั่นคือ ทั้งๆ ที่ในโลกของเกมนี้แทบทุกสิ่งสามารถโดนทำลายได้ แต่ว่ากลับมีสิ่งของบางอย่างที่ไม่สามารถทำลายได้แบบไม่สมเหตุสมผล คิดดูแล้วกันครับว่า ทั้งๆ ที่ผมสามารถขับรถผ่านและถล่มสิ่งก่อสร้างเสียกระจุย แต่กลับไม่สามารถวิ่งข้ามต้นไม้เล็กๆ เหี่ยวๆ ที่งอกโผล่มาจากผิวดินเพียงเล็กน้อยได้ และต้องติดแหงกอยู่กับมัน

     Nick: ผมไม่ได้เล่นเกม MotorStorm ภาคแรก และผมก็แทบจะไม่มีความสนใจในเกมรถแข่งเกมใดก็ตามที่ไม่ได้มีชื่อว่า Burnout: Something or Other เลย แต่ผมก็ต้องยอมรับว่า Pacific Rift มันสามารถเข้ามายึดตำแหน่งลำดับต้นๆ ในเกมแข่งรถได้เลย ด้วยความง่ายในการเล่นและเรียนรู้ระบบของเกม และถ้าหากคุณมีโทรทัศน์ดีๆ แล้ว เกมนี้จะดูสวยงามมาก แต่ผมก็ยังรู้สึกว่าตัวเกมยังขาดความหลากหลายอยู่ และเกมนี้ก็ทำให้ผมเข้าใจว่า ทำไมผมถึงชอบ Burnout มากขนาดนี้ (การชนในเกมนี้ทำให้ผมหงุดหงิดจนแทบอยากจะขว้างจอยทิ้งเลย)

ผู้จัดจำหน่าย: Sony CEA
ผู้พัฒนา: Evolution
จำนวนผู้เล่น: 1-12 คน
ESRB: 13 ปีขึ้นไป

Shane A- ยอดเยี่ยม
John A ยอดเยี่ยม
Nick B+ ดี

ข้อดี: การออกแบบสนามที่ดีและมีให้เลือกเล่นเยอะ ระบบการเล่นแบบออนไลน์ที่ดึงดูดใจ
ข้อเสีย: กราฟิกไม่สม่ำเสมอ
อะไรเนี่ย: ระบบจับการเคลื่อนไหวหายไปดื้อๆ



 

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ