ในที่สุดก็ได้ลองไปสัมผัสเกมต่อสู้ตัวนี้กันสักที บอกได้คำเดียวเลยว่ามันส์สุดๆ เลยล่ะ วันนี้เลยจะขอมาแพร่กระจายความสนุกกับประสบการณ์ที่ได้ไปทดลองเล่นมาให้เพื่อนๆ ได้ซึมซับไปพร้อมๆ กันอีกครั้ง ข้อมูลหลายอย่างที่ได้เคยลงไว้บางอย่างก็ผิดคาด บางอย่างก็เกินความคาดหมาย แต่วันนี้แหละ “ของจริง” ตามมาดูกันจะจะได้เลยจ้า...
ศิลปะการต่อสู้ทั้ง 6 แขนง
ก่อนอื่นต้องขอแก้ตัวกับเพื่อนๆ เนื่องจากเล่มที่แล้วได้พูดไว้ว่าตัวละครทั้ง 6 ตัวภายในเกมจะมีทักษะในด้านศิลปะการต่อสู้ที่แตกต่างกันไปคนละอย่าง ในความเป็นจริงไม่ใช่เช่นนั้น เพราะหลังจากได้ทดลองสร้างตัวละครขึ้นมาใหม่จึงได้ข้อสรุปว่าภายในเกม ณ ตอนนี้มีศิลปะการต่อสู้อยู่ทั้งสิ้น 6 แขนงโดยจะถูกจัดแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือ
1. กลุ่มประเภท Crush (Street) เน้นการจู่โจม และเข้าปะทะด้วยพละกำลัง
2. กลุ่มประเภท Hold (Rush) เน้นการจับหักล็อกคู่ต่อสู้ด้วยเทคนิคชั้นเชิง
และเมื่อตัวละครถึงเลเวล 10 จะสามารถไปทำการเปลี่ยนคลาสได้อีกครั้งนึง นั่นเท่ากับว่าเพื่อนๆ สามารถกำหนดให้ตัวละครของเรามีทักษะการต่อสู้ของสายอาชีพ 1 ใน 6 อาชีพทั้งหมดโดยที่ตัวเกมไม่ได้บังคับว่าตัวละครไหนต้องเป็นอาชีพอะไร ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการให้เปลี่ยนเป็นอาชีพอะไรนั่นเอง
สายอาชีพ Crush (Street)
Street สไตล์การต่อสู้พื้นฐานในลักษณะเตะและต่อยเป็นท่าหลัก มีจุดเด่นในเรื่องของพละกำลังพลังโจมตีสูงและสามารถทนรับการตอบโต้จู่โจมกลับได้มาก เมื่อถึงเลเวล 10 จะสามารถไปเปลี่ยนคลาสเป็น Taekwondo (เทควันโด้), Boxing (มวยสากล) และ Muay Thai (มวยไทย)
สายอาชีพ Hold (Rush)
Rush สไตล์การต่อสู้พื้นฐานที่เน้นในเรื่องของความรวดเร็ว คล่องแคล่วว่องไว สามารถจับล็อกให้คู่ต่อสู้ล้มลงได้อย่างไม่ยากเย็น เมื่อถึงเลเวล 10 จะสามารถไปเปลี่ยนคลาสเป็น Pro Wrestling (มวยปล้ำ), Judo (จูโด) และ Hapgido (ฮับกิโด้)
ถ่ายทอดประสบการณ์การเล่นจริง
ก่อนเริ่มต่อสู้ผมได้ไปลองเทสต์ระบบเครื่องสวมใส่ซึ่งก็มีให้เลือกเยอะแยะมากมาย บางชิ้นก็สวยงาม บางชิ้นก็ประหลาด และบางชิ้นนั้นก็มี Stats เสริมเพิ่มเติมเข้ามาด้วย ยกตัวอย่างเช่นเพิ่มพลังชีวิต, เพิ่มพลังโจมตี แต่เสื้อผ้าส่วนใหญ่ที่บวกค่าความสามารถนั้นก็จะมีการลดค่าพลังบางอย่างลงด้วยเพื่อความสมดุลของเกม เผอิญไปเจออยู่ชุดหนึ่งเป็นชุดเสื้อผ้าของเทควันโด้ซึ่งบวก Stat พละพลังกำลังขึ้น 15 หน่วย แต่กลับลดพลังชีวิตลง 200 หน่วย นั่นทำให้รู้ได้เลยว่านอกจากที่เราจะต้องวางแผนการเรียนทักษะต่างๆ แล้วการเลือกซื้อเสื้อผ้า หรือของสวมใส่ชิ้นอื่นๆ ก็จำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงข้อดีข้อเสีย
เอาล่ะได้เวลาลงสังเวียนจริงๆ กันแล้ว เริ่มเกมแรกเป็นแบบ Death Match ตะลุมบอน มาถึงก็ตายเลย (Y_Y เศร้าจริงๆ) หลังจากตายจนหอมปากหอมคอกันแล้ว จึงเริ่มจับทางถูกว่าตัวเกมออกแบบมาเป็นอย่างดี ใช่ว่าการที่จะอัดค่าพลังโจมตีสูงๆ เน้นวิ่งเข้าต่อยเป็นว่าเล่นจะช่วยให้ชนะได้ เรื่องของจังหวะการโจมตี และการตั้งรับก็สำคัญไม่แพ้กัน ทักษะในการโจมตีรูปแบบต่างๆ ก็มีทั้งจุดแข็ง และจุดอ่อน เช่นว่าเราใช้ท่านี้ไป อีกคนก็ใช้ท่านึงมันจะมีคนใดคนนึงที่ใช้ท่าได้ถูกจังหวะ และเป็นท่าที่ได้เปรียบ เรื่องของภูมิศาสตร์แผนที่ก็จำเป็นไม่ว่าจะเป็นเสาไฟ, กำแพง หรือกล่องลังต่างๆ เราสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้ สุดท้ายกล่องไอเทมที่สุ่มตกในแผนที่ถ้าเราสามารถใช้ได้ถูกจังหวะจะช่วยทำ Triple K.O. หรือมากกว่านั้นได้อย่างไม่ยากเย็น
ส่วนกำหนดการเปิด Close Beta ยังคงไม่ยืนยันวันที่แน่นอน รู้เพียงแค่อยู่ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์–ต้นมีนาคมนี้นะครับ