RESIDENT EVIL 5
แสงแดดดูจะเป็นสิ่งที่พบเจอได้ยากมากในโลกของเกม Resident Evil ซึ่งเป็นซีรีส์ที่ยึดมั่นอยู่กับสถานที่มืดๆ เย็นยะเยือกอับชื้นอย่างทางระบายน้ำใต้ดิน ห้องแล็บลึกลับ หนองน้ำ หรือไม่ก็ปราสาทสมัยโบราณในภาคล่าสุดไม่นานนี้มาโดยตลอด แต่มาในภาคที่ 5 ของ Resident Evil นี้ แสงแดดจะกลายเป็นองค์ประกอบหลักที่จะเติมความสดใหม่ให้กับสุดยอดเกมแนวสยองขวัญเกมนี้ และพาบรรดานักล่าซอมบี้ออกจากที่มืดไปลุยกันในที่แจ้งให้เห็นกันชัดๆ จะจะแล้วครับ
ในขณะที่คุณ Shinji Mikami ผู้ให้กำเนิดเกมซีรีส์ Resident Evil และยังเป็นแกนหลักของ Resident Evil 4 ได้หันไปรับงานโปรเจ็กต์อื่นๆ นอกค่ายแคปคอมเสียแล้วในปัจจุบัน แต่ทีมงานสร้างสรรค์ของ Resident Evil 5 นี้ ที่ประกอบไปด้วยคุณ Kota Suzuki (ซาวด์คอมโพสเซอร์) คุณ Yoshiaki Hirabayashi (หัวหน้าฝ่ายศิลป์ควบกับฝ่ายซีเนมาติกส์) คุณ Yasuhiro Anpo (ไดเร็กเตอร์) คุณ Jun Takeuchi (โปรดิวเซอร์) และคุณ Masachika Kawata (โปรดิวเซอร์ร่วม) ต่างก็ดูจะไปได้สวยกับงานเกมในภาคนี้ ซึ่งในภาคล่าสุดของ RE นี้ ก็ได้เวลาที่แคปคอมจะสลับพระเอกอีกครั้ง จากสุดหล่อ Leon Kennedy ไปเป็นรุ่นพี่อย่าง Chris Redfield พระเอกดั้งเดิมต้นตำรับ ซึ่งเที่ยวนี้จะมีสาวสวยหน้าใหม่ Sheva Alomar (เพื่อนร่วมกองกำลัง BSAA หรือชื่อเต็มว่า Bioterrorism Security Assessment Alliance) มาเคียงข้างด้วยอีกคน ซึ่งถ้าเราจะมองว่าในทุกภาคของ RE จะมีพัฒนาการใหม่ๆ หนึ่งอย่างเสมอมาละก็ ใน RE5 นี่จะมีของใหม่มาให้ถึงสองอย่างกันเลยทีเดียวครับ อย่างแรกก็คือแสงแดด อย่างที่เราพูดถึงกันไปแล้วที่ต้องถือว่าเป็นความเปลี่ยนแปลงจากความเป็น RE แบบเดิมๆ ไปมากจริงๆ เพราะแนวเกมสยองขวัญแบบนี้ความมืดนั้นยังไงก็ทำให้รู้สึกสยองน่ากลัวได้มากกว่า แต่สำหรับ RE5 ที่เหตุการณ์ส่วนใหญ่ในเกมจะเกิดขึ้นกลางแจ้งกลางวันแสกๆ ใต้แสงแดดของทวีปแอฟริกาจนแทบจะหาที่มืดๆ ไว้ซ่อนตัวไม่ได้นั้น... ก็กลายเป็นการสร้างความสยดสยองแบบใหม่ขึ้นมาแทน เพราะจะว่าไปการได้ “เห็น” ฝูงซอมบี้โขยงใหญ่วิ่งกรูมาหาเราอย่างบ้าคลั่งเนี่ย สยองกว่าแค่ “ได้ยิน” เสียงซอมบี้ค่อยๆ ครางมาตามทางในความมืดเหมือนกันนะ นอกจากนี้คุณๆ ยังอาจจะรู้สึกว่าการมีผู้เล่นคู่หูมาช่วยตลอดเกม ซึ่งถือเป็นของใหม่อย่างที่สองที่มาในภาคนี้นั้น อาจจะทำให้ความสยองลดน้อยไปบ้าง แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วการได้เห็นตัวละครคู่หูเราถูกฝูงซอมบี้รุมสะกรัมจนแทบมองไม่เห็นตัวเนี่ย ก็กดดันชวนเครียดไม่น้อยเลย
และเพื่อจะได้ทดลองเล่นโหมด Co-op มัลติเพลเยอร์ของ RE5 ด้วยมือของพวกเราเอง ทีมงานจึงได้บินลัดฟ้าไปที่สำนักงานใหญ่ของแคปคอมที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เพื่อที่จะพาพี่ Chris กับหนู Sheva วิ่งตะลุยยิงฝ่าดงผีถึงสองฉากเต็มๆ กันมาแล้วครับ ซึ่งอย่างที่เราเคยรู้กันแล้วจาก RE4 ว่าศัตรูที่เราจะได้เจอตลอดเกมนั้น (ซึ่งได้เจอเพียบแน่ๆ ) จริงๆ แล้วในทางเทคนิคก็ไม่ถือว่าเป็นซอมบี้นะครับ เพราะคำว่า “ซอมบี้” นี่จริงๆ หมายถึงศพที่กลับมาเคลื่อนไหวได้จนคล้ายๆ คนปกติได้อีกครั้ง สาเหตุเพราะเกิดความกระหายอยากกินเนื้อหนังมนุษย์ขึ้นมา (ซึ่งก็คงกินรวมไปถึงเลือดตับไตไส้ม้าม ฯลฯ ด้วย) ท่าเดินของพวกนี้ก็จะกระย่องกระแย่งบิดเบี้ยวเนื่องจากกล้ามเนื้อที่ลีบเหี่ยว เน่าไปทุกส่วน ซึ่งก็เหมือนกับพวกผีที่เราเคยยิงทิ้งมาในภาคแรกสุดของ Resident Evil เมื่อ 12 ปีที่แล้วอยู่ แต่สำหรับพวกน่ากลัวๆ ที่เรียกว่า “Los Ganados” ในหมู่บ้านชนบทของ RE4 นั้นกลายเป็นอีกเผ่าพันธุ์ไปเลยครับ พวกนี้จะเป็นมนุษย์ที่ติดเชื้อและถูกครอบงำร่างกายและจิตใจจากปรสิตที่เรียกว่า Las Plagas (ซึ่งมีนิสัยแหวะๆ ชอบระเบิดตัวออกมาแบบสยองๆ ตามร่างกายของร่างพาหะ โดยไม่ระเบิดที่คอก็จะเป็นที่หัว) มาใน RE5 นี้เจ้าปรสิต Las Plagas สายพันธุ์ใหม่ที่แข็งแกร่งขึ้นก็แพร่มาจนถึงแอฟริกาแล้ว (โดยคร่าวๆ น่าจะเป็นบางแห่งในแถบชายฝั่งตะวันออกของแอฟริกา ที่ซึ่งตัวละครชาวบ้านในเกมนั้นพูดภาษาถิ่นที่เรียกว่า Swahili) และยังเป็นสถานที่ซึ่งทั้ง Chris และ Sheva ต้องลุยประชิดตัวกับกลุ่มศัตรูที่ดุร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมาในซีรีส์ RE อีกด้วย
คุณ Takeuchi เองก็ย้ำกับเราอย่างจริงจังนะครับว่า RE5 นั้น ยังไงก็เป็นเกมแนวสยองขวัญนะ ไม่ใช่เกมยิงแนวมุมมองบุคคลที่หนึ่ง ไม่ใช่เกมที่มาวิ่งๆ ยิงๆ แบบ Gears of War อะไรแบบนั้น แต่ยังคงเป็นการผจญภัยที่สยองขวัญในแบบ RE อย่างที่เราคุ้นเคยเหมือนเดิม องค์ประกอบหลักๆ ของความเป็น RE ยังคงอยู่ ในขณะเดียวกันระบบการเล่นบางอย่างที่เคยทำออกมาไม่ลงตัวก็ถูกถอดออกไป อย่างแรกเลยก็คือ ผู้เล่นยังคงไม่สามารถยิงโจมตีในระหว่างที่วิ่งได้เหมือนเดิม แต่ก็สามารถที่จะเลือกลุยยิงกระหน่ำในสไตล์เกม Gears of War ได้ผ่านทางการกำหนดลักษณะการควบคุมในออพชั่น (ในแบบที่เรียกว่า D-Type) ซึ่งถือว่าเพิ่มมาเอาใจคอเกมฝรั่งฝั่งตะวันตกโดยเฉพาะ แน่นอนว่ารูปแบบการบังคับแบบดั้งเดิม หรือ A-Type “Tank-Style” แบบใน RE4 ก็มีให้เลือกเช่นกัน (โดยได้รับการปรับปรุงเล็กน้อย) โดยผู้เล่นจะได้เลือกรูปแบบการบังคับนี้ตั้งแต่ตอนเริ่มเกม แต่ไม่ว่าจะเลือกแบบไหนก็ตามครับ รับรองว่าได้สยองกับการยืนลุยยิงเหล่าผีๆ ในภาคนี้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ฝูงสุนัขผีๆ ก็กลับมาอีกแล้วในภาคนี้โดยจะดูเป็นสุนัขซอมบี้น้อยลงและดูเป็นหมาผี Las Plagas มากขึ้นแทน โดยในระหว่างที่เราใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการวิ่งหนีและหันมาเล็งยิงน้องหมาผีเหล่านี้ที่พยายามกระโดดพุ่งใส่เราเป็นระยะนั้น เราก็รู้สึกว่าเจ้าพวกนี้ดูจะไม่ใช่สุนัขพันธุ์โดเบอร์แมนแบบในภาคก่อนๆ แล้ว แต่ว่าดูเป็นพันธุ์ลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์สีดำที่ดุร้ายสติแตกมาแทนซะมากกว่า ของอีกอย่างที่ดูจะอยู่คู่ซีรีส์นี้ไม่ทนไปตามกาลเวลาซะแล้วก็เห็นจะเป็นเครื่องพิมพ์ดีดที่เอาไว้เซฟเกมครับ ซึ่งคุณ Takeuchi ก็อธิบายเรื่องนี้กับเราว่า “จริงๆ ผมชอบเจ้าเครื่องพิมพ์ดีดมากนะครับ มันเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ Resident Evil มาโดยตลอดเลย แต่สำหรับในภาคนี้ระบบการเซฟเกมจะเป็นจุดเช็คพอยท์กับการแบ่งเนื้อเรื่องเป็นบทๆ แทนแล้วน่ะครับ โดยในระหว่างเล่นคุณจะได้เจอจุดเช็คพอยท์เป็นระยะ ถ้าคุณเกิดพลาดตายขึ้นมาก็จะได้กลับไปเริ่มใหม่ที่จุดเช็คพอยท์หลังสุด และยังเซฟได้ในตอนจบแต่ละบทของเกมอีกด้วย ซึ่งก็น่าเสียดายเหมือนกันครับที่เราเองก็ไม่รู้จะใส่เจ้าเครื่องพิมพ์ดีดเข้าไปตรงไหนในเกมภาคนี้ได้จริงๆ”
คู่กันตลอดไป
กลับมาที่ของใหม่ของเด่นที่เพิ่มมาใน RE5 กับโหมด Co-op กันก่อนดีกว่าครับ เพราะไม่ว่าคุณจะเล่นแบบลุยเดี่ยวหรือแบบออนไลน์กับผู้เล่นคนอื่น สาวสวย Sheva ซึ่ง Chris จะได้พบเธอภายในช่วง 30 นาทีแรกของเกมนั้น จะอยู่เคียงข้างพระเอกของเราไปตลอดครับ แต่จะไม่เหมือนกับภาค Resident Evil 2 ที่เป็นแบบเนื้อเรื่องแยกคนละส่วนแต่เดินคู่ขนานและมาเชื่อมกันภายหลังนะครับ เพราะใน RE5 นี้ทั้ง Chris และ Sheva จะได้ลุยเคียงข้างพึ่งพาอาศัยกันไปตลอดเกม อย่างในฉากแรกที่ชื่อว่า Assembly Place ซึ่งทีมงานเราได้ลองเล่นนั้น จะเป็นฉากที่ Chris และ Sheva ได้ซุ่มดูการประหารบั่นหัวจากตึกเล็กๆ ที่อยู่ใกล้ๆ ลานประหาร และในตอนที่เพชฌฆาตใส่หน้ากากกำลังจะง้างคมขวานลงที่คอเหยื่อนั่นเอง (เกมภาคนี้ดูจะโหดพุ่งมุ่งไปที่การถูกจัดเรต M หรือสำหรับอายุ 17 ปีขึ้นไปมากขึ้นกว่าเดิมแฮะ) ผู้บรรยายบนเวทีประหารของงานนี้ก็บังเอิญหันมาเห็นพระเอกนางเอกของเราจากมุมสูงพอดี แถมยังสั่งการให้เหล่าชาวบ้านกลุ่มใหญ่แถวนั้นกรูกันเข้ามาเพื่อจัดการกับเราเสียด้วย
ชื่อของ Sheva นำมาจากชื่อของพระศิวะ (Shiva) เทพเจ้าแห่งการทำลายล้างในศาสนาฮินดู
ซึ่งก็คล้ายๆ กับ RE4 ครับ ที่แอ็กชั่นแรกของเกมที่เราจะได้เริ่มลงมือนั้นจะเปิดตัวขึ้นภายในบ้านหลังนึงที่มีไอเทมมีประโยชน์ต่างๆ ประดับอยู่บ้าง เช่น ตู้หนังสือ ที่ใช้ประโยชน์ได้ดีพอควรในการเอาไว้เป็นรั้วยันหน้าต่างหรือประตูจากพวกชาวบ้านผีๆ ที่พยายามพังเข้ามา แต่ก็แน่นอนครับว่า กันได้แค่ชั่วคราวแค่พอให้เรามีเวลารื้อตู้พังถังพังลังหาไอเทมเติมเลือด เงิน หรือกระสุนต่างๆ ในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น
ในระหว่างที่เราเล่นเป็น Chris วิ่งไปทั่วตึกร้างโทรมๆ แห่งนี้โดยมี Sheva ที่บังคับโดยผู้เล่นอีกคนอยู่เคียงข้างตลอดนั้น พวกเราก็ต้องผลัดกันยิงเด็ดหัวพวกชาวบ้านผีที่เริ่มพังตู้ที่กั้นประตูหน้าต่างเข้ามาได้บ้างแล้วอยู่เป็นระยะ ก็เห็นได้ชัดเหมือนกันนะครับว่าในตัวเกมเวอร์ชั่นที่เราได้ทดลองเล่นนั้น ระดับความยากของการเล่นยังถูกวางไว้ไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ สังเกตได้จากศัตรูหลายๆ ตัวที่ยังคงเดินดุ่ยได้สบายอยู่ซะงั้นทั้งๆ ที่โดนเราเล็งยิงเป่าหัวเฮดช็อตแบบเผาขนไปแล้ว ซึ่งสาเหตุบางส่วนอาจจะมาจากตัวปืนที่เราได้ตอนเริ่มเกมยังไม่ทรงพลังนักก็เป็นไปได้เหมือนกัน เชื่อว่าถ้าเป็นปืนช็อตกันหรือสไนเปอร์ไรเฟิลสักกระบอก ยิงเฮดช็อตเผาขนแบบนี้คงทำให้หัวผีๆ เหล่านี้ระเบิดโพละเละเป็นแตงโมถูกยิงได้สบายๆ
อีกอย่างที่เหมือนกับ RE4 ก็คือ ยิ่งศัตรูเข้ามาใกล้เราเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้มันโดนท่าแบบ Quick-Time Event หรือก็คือการกดปุ่ม เช่น ปุ่ม X ที่ขึ้นกะพริบบนจอให้ถูกต้องทันเวลานั่นเอง ถ้ากดได้ไวพอก็จะเป็นการสั่งให้ Chris นั้นใช้ท่าต่อยอัปเปอร์คัทหรือท่าโคล์ธไลน์ (ท่ามวยปล้ำที่เอาท่อนแขนเกี่ยวคออีกฝ่ายให้ล้มลง) ส่วนของ Sheva ก็จะเป็นท่าเตะก้านคอหรือตีลังกาเตะเพื่อเด็ดชีพผีๆ ทั้งหลาย แต่แม้ว่าท่าเหล่านี้จะดูทำแล้วเจ๋งเท่ดี แต่ความเร้าใจนั้นจะอยู่ที่การต้องเลือกใช้ให้ทันเวลาเพื่อช่วยชีวิตคู่หูของเราเสียมากกว่าครับ จริงๆ แล้ววิธีแรกสุด (และง่ายที่สุด) คงจะเป็นการช่วยเพื่อนโดยการยิงศัตรูซึ่งยังถือเป็นวิธีที่ปลอดความเสี่ยงอีกด้วย เพราะว่าเกมนี้ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีการทำร้ายคู่หูด้วยกันเกิดขึ้นแน่นอน เฮดช็อตเป็นทางเลือกที่เด็ดขาดที่สุด แต่การเล็งยิงไปที่ชายโครง เข่า หรือแขนของศัตรูก็ถือเป็นการซื้อเวลาเพื่อช่วยเหลือคู่หูของเราได้เช่นกัน หรือถ้ากล้าพอ คุณก็สามารถขยับเข้าไปใกล้ๆ ศัตรูเพื่อกระตุ้นให้เกิด Quick-Time Event เพื่อใช้ท่าเด็ดชีพเจ๋งๆ ที่เราว่าไปเมื่อกี้เพื่อช่วยเพื่อนเราได้เหมือนกัน โดยในบางจังหวะ ถ้าผู้เล่นสองคนรู้ใจเข้าขากันดีพอ ก็ยังมีโอกาสเกิด Quick-Time Event แบบดับเบิ้ลอีกด้วย ซึ่งถ้าเกิดขึ้นแล้วผู้เล่นทั้งคู่กดได้ทันก็จะกลายเป็นท่าโจมตีที่รุนแรงและอลังการกว่าปกติ
จุดเด่นของ RE5 ยังไงก็หนีไม่พ้นระบบ Co-op จริงๆ ครับ อย่างในบางแอเรียของบางฉากนั้น Chris และ Sheva จะต้องแยกจากกันอยู่บ้าง (ดูกรอบย่อย “เธอขึ้นไปก่อนนะ...” ประกอบได้ครับ) ซึ่งในระหว่างนั้นแม้ผู้เล่นจะไม่สามารถสำรวจพื้นที่ต่างๆ ไปพร้อมๆ กัน และก็จะต้องมีหนึ่งคนที่คอยช่วยเหลือให้อีกคนไปยังพื้นที่ที่ไปถึงพร้อมๆ กันสองคนไม่ได้อยู่นั้น ผู้เล่นจะยังมองเห็นการเคลื่อนไหวของผู้เล่นคู่หูอยู่เป็นระยะเสมอ โดยในฉากที่ชื่อว่า Shanty Town นั้น พวกเราก็ได้บังคับ Chris ช่วย Sheva ในการกระโดดข้ามไปอีกตึก ส่วน Chris ก็ต้องอยู่รอในตึก 3 ชั้นที่ถูกปิดล็อกรอการมาช่วยของ Sheva ที่ต้องพยายามหาทางมาพังประตูให้จากอีกทาง และระหว่างที่ Sheva กำลังรีบวิ่งลงบันไดมาหาทางช่วย Chris นั้น พวกชาวบ้านติดเชื้อ Las Plagas ก็กำลังรุมเข้ามาจากรอบทิศทางอยู่ด้วย
ตัวอย่างที่ดีของการพึ่งพาอาศัยกันแบบคู่หู
ในการเล่นครั้งแรกของพวกเรานั้น เราได้ใช้ Chris ยิงปืนสไนเปอร์ไรเฟิลคอยคุ้มกัน Sheva จากระยะไกล โดยนางเอกของเราก็ต้องพยายามเอาตัวรอดด้วยการยิงศัตรูรอบๆ เธอไปด้วย แต่กลศึกวิธีนี้ก็จบเร็วกว่าที่คิดกันไว้ครับ เพราะลุยยิงกันอยู่ไม่นานพวกเราสองคนก็พบว่ากระสุนที่เรามีนั้นเกลี้ยงหายวับหมดไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็เลยได้ค้นพบกันด้วยว่า ถ้ามีตัวละครหรือผู้เล่นคนใดคนนึงในตัวเอกสองคนนั้นตายขึ้นมาในฉาก ก็จะได้เจอกับตัวหนังสือเลือดเยิ้มหยดติ๋งคำว่า “You Are Dead” บนจอทันที แล้วก็ต้องพากันไปเริ่มเล่นใหม่ที่จุดเช็คพอยท์หลังสุด
จากนั้นพวกเราก็วางแผนการเล่นรอบสองกันใหม่แบบนี้ครับ เริ่มจากส่ง Sheva หรือ Chris ก็ได้ให้กระโดดข้ามไปอีกตึกแล้ววิ่งลงบันไดไปก็จะตามมาด้วยเหตุการณ์ฝูงผีชาวบ้านรุมเข้ามา ซึ่งคนที่โดดข้ามไปอีกตึกก็ต้องวิ่งเป็นตัวล่อนำฝูงผีกลุ่มนี้วิ่งผ่านไปตามจุดที่มีถังวัตถุระเบิดรอบๆ ฉาก คือแม้ว่าไอ้การเก็บศัตรูด้วยการยิงถังให้ระเบิดจะเป็นอะไรที่เรียกว่ามุกเก่า แต่เชื่อเหอะครับ ในเกมนี้มันเร้าใจจริงๆ เวลาได้เห็นเหล่าผีชาวบ้านนั้นระเบิดลุกเป็นไฟกันเป็นระยะโดยมี Chris หรือ Sheva วิ่งนำหน้าอยู่ไม่ไกลไปตลอดทางแบบนี้
แล้วท่ามกลางความโกลาหลอลหม่านแบบนี้ ผู้เล่นจะสามารถติดตามสถานะและตำแหน่งของผู้เล่นคู่หูได้อย่างไรน่ะเหรอครับ? ก็ต้องยกคำชมให้กับระบบการเล่นที่ปรับปรุงมาดีมากๆ ของ RE5 กันก่อนเลยครับ เพราะแม้ว่าการวางปุ่มบังคับแบบพื้นฐานในเกมนั้นยังคงรูปแบบที่ดีอยู่แล้วของ RE4 ไว้ แต่ว่าการปรับแต่งบางปุ่มก็มีเพิ่มขึ้นมาเพื่อให้ผู้เล่นสามารถตามติดความเป็นไปของคู่หูได้ด้วย ซึ่งปุ่มที่สำคัญที่สุดก็คือปุ่ม “ระบุพิกัดของคู่หู” โดยเมื่อกดปุ่มนี้ก็จะมีไอคอนปรากฏขึ้นที่ตัวละครคู่หูและมุมกล้องก็จะหมุนหันไปล็อกตำแหน่งนั้นโดยอัตโนมัติ และในเวลาที่ผู้เล่นคนไหนตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากเจียนตัว ก็ยังสามารถกดปุ่ม “Team-Action/Call Partner” เพื่อทำให้ตรงกลางหน้าจอของอีกฝ่ายกะพริบเป็นสีแดงและมีตัวหนังสือ “Help!” ปรากฏขึ้นมาเพื่อขอความช่วยเหลืออีกด้วย แน่นอนว่าก็ขึ้นอยู่กับผู้เล่นอีกคนเขาล่ะครับว่าจะมาช่วยรึเปล่า แต่ยังไงก็ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากๆ นอกจากนี้แล้วของใหม่ที่มีประโยชน์และเพิ่มมาอีกอย่างในภาคนี้ก็คือ ปุ่มเรียกแผนที่แบบมุมมองด้านบน ซึ่งถือเป็นตัวช่วยที่ดีมากๆ ในเวลาที่จะต้องเสี่ยงกับการวิ่งหลงไปตามซอกซอยต่างๆ เมื่อตอน RE4 นั้นผู้เล่นต้องกด Pause เกมทุกครั้งเวลาจะเรียกดูเมนูแผนที่ แต่มาใน RE5 นี้ แผนที่จะปรากฏในแบบเลเยอร์โปร่งใสให้เห็นกันสะดวกสบายบนมุมขวาบนของหน้าจอ ทำให้เรียกดูเรียกใช้ประโยชน์ได้รวดเร็วกว่าเดิมโดยเฉพาะช่วงเวลาคับขันต่างๆ มากเชียวครับ
นอกจากนี้ทีมงานดูจะตั้งใจทำอีกระบบใหม่ก็คือ ระบบแลกเปลี่ยนไอเทมระหว่างผู้เล่นเพื่อให้ใช้งานสะดวกลื่นไหลที่สุดมาให้ด้วย แม้ว่าจริงๆ แล้วการมาแลกเปลี่ยนของโน่นนี่ที่ไม่จำเป็นระหว่างรบๆ ลุยๆ กันอยู่อาจจะไม่ใช่เรื่องเหมาะสมนัก แต่ระบบนี้ก็มีประโยชน์ด้วยการกดปุ่มที่กำหนดไว้เพื่อเปิดเมนูการแลกไอเทมที่ให้ Chris และ Sheva สามารถแลกของกันได้อย่างอิสระตั้งแต่กระสุน ระเบิด สเปรย์ฟื้นพลัง ไปจนถึงอาวุธอื่นๆ ซึ่งมีประโยชน์มากเวลาที่เกิดมีผู้เล่นคนนึงกอบโกยไอเทมต่างๆ ตรงหน้าไว้คนเดียวมากเกินไปในขณะที่อีกคนต้องขวนขวายไล่หากระสุนปืนมาเติมแทบตายอะไรแบบนั้น และก็แน่นอนว่า ในเวลาที่คู่หูของเราเกิดบาดเจ็บปางตายเต็มที เรายังสามารถกดใช้ไอเทมฟื้นพลังให้คู่หูเราเหมือนที่กดใช้กับตัวเองได้ด้วยเช่นกัน จะว่าไปก็เป็นภาพที่ฮาเหมือนกันที่เราได้เห็น Chris ที่ร่อแร่ใกล้ตายแต่จู่ๆ ก็เด้งยืนพรวดสุขภาพแข็งแรงขึ้นมาทันทีที่ Sheva ฉีดสเปรย์ฟื้นพลังให้ อย่างกับพวกโฆษณาขายสเปรย์ดับกลิ่นตัวอะไรเทือกๆ นั้นเหมือนกันนะเนี่ย
Black Hawk Down
อย่างไรก็ตาม RE5 นี่ถือว่าเต็มไปด้วยเรื่องราวเข้มข้นมากมายครับ ตั้งแต่ฉากประหารบั่นหัวในฉาก Assembly Place ไปจนถึงการขมวดพลิกปมเรื่องที่ส่งให้ Chris กับ Sheva ต้องออกไปช่วยชีวิต Kirk เพื่อนร่วมทีม BSAA ของพวกเขาที่ถูกยิงสอยจนเฮลิคอปเตอร์ที่นั่งมาตกในตอนเริ่มต้นของฉาก Shanty Town (อารมณ์ใกล้เคียงหนังเรื่อง Black Hawk Down) และที่เสริมในความเร้าใจให้กับ RE5 อย่างได้ผลก็คือ เหตุการณ์ในเกมนั้นดูจะมีบางส่วนที่สะท้อนและใกล้เคียงกับเหตุการณ์การรบกับผู้ก่อการร้ายที่เคยเกิดขึ้นจริงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และยังคงเป็นภาพน่ากลัวที่ติดตาหลายๆ คนอยู่ด้วยนั่นเองครับ แต่ก็แน่นอนครับว่าเนื้อเรื่องในเกมนั้นไม่ได้อ้างอิงจากเหตุการณ์จริงๆ เหตุการณ์ไหนเลย เพราะในเกมนี่เป็นเรื่องบ้าระห่ำหลุดโลกกว่าเยอะ ไม่ว่าจะเป็นพี่เลื่อยไฟฟ้าหน้ากระสอบ ที่คลั่งหนักและกำจัดยากกว่าสมัย RE4 ขึ้นมาก แถมยังโผล่มาในจังหวะที่เราเผลอเสมอ และยังมีเพชฌฆาตตัวใหญ่ใส่หน้ากากเดินลากขวานขนาดยักษ์คอยสะกดรอยตามเราไปทุกที่อีก แต่โชคยังดีครับที่การโจมตีของศัตรูในเกมนี้สร้างความเสียหายกันเองได้ด้วย ซึ่งก็นำมาใช้ประโยชน์ได้ดีเชียวครับถ้าเราสามารถจัดตำแหน่งให้เราอยู่ตรงกลางระหว่างฝูงม็อบผีชาวบ้านกับพี่เพชฌฆาตขวานยักษ์ แล้วก็คอยกะจังหวะชิ่งหลบเพื่อดูพวกชาวบ้านผีๆ ทั้งหลายขาดเละกระจุยเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยรับคมขวานที่พี่เพชฌฆาตเขาเหวี่ยงมาแทนเราอย่างสะใจได้
ระวังพี่ขวานยักษ์ตัวนี้ให้ดี หรือไม่... ถ้าเก๋าพอ ก็รีบๆ ระเบิดหัวปลิดชีพพี่เขาซะ
แม้ว่านักวิจารณ์ส่วนใหญ่นั้นมีข้อติให้กับ RE4 กันน้อยมากๆ แต่หนึ่งในข้อด้อยของเกมที่หลายๆ สื่อเห็นตรงกันก็คือ ตัวเกมนั้นมีความยาวมากไปหน่อย และแม้แต่ทีมงานพัฒนาเกมเองก็ยอมรับกับเราว่า “พวกเราเองก็ต้องมานั่งเล่น Resident Evil 4 กันอยู่อีกหลายรอบนะครับ และพวกเราเองก็รู้สึกเหมือนกันว่ามันเป็นเกมที่ยาวมาก ซึ่งถือเป็นข้อติได้จุดนึงของเกมภาคนั้นเหมือนกันว่ากว่าจะเล่นจบต้องใช้เวลานานเกินไปหน่อย” คุณ Yasuhiro Anpo ผู้รับหน้าที่ไดเร็กเตอร์ของ RE5 ก็เสริมว่า “Resident Evil 5 จะใช้เวลาเล่นจบที่สั้นกว่า Resident Evil 4 แน่นอนครับ เราได้วิเคราะห์กันแล้วว่าองค์ประกอบไหนของ RE4 ที่ไม่ตื่นตาเร้าใจพอ ซึ่งเราก็ตัดมันทิ้งแล้วเพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจใหม่ๆ เข้าไปแทนแล้วครับ” และก็แน่นอนว่าแฟนๆ ส่วนใหญ่ต่างก็อยากรู้กันนะครับว่าจะมีตัวละครเด่นๆ ของภาคเก่าๆ ตัวไหนจะมาปรากฏตัวในภาคนี้บ้าง ซึ่งในระหว่างที่ทีมงานของเราทดลองเล่นนั้นก็ได้ยิงคำถามไปเหมือนกันว่าตกลงแล้วสายลับสองหน้า (หรือสาม) สุดสวย Ada Wong นั้นฉกตัวอย่างของเชื้อปรสิต Las Plagas ไปทำอะไรต่อในตอนจบ RE4 ที่เธอชิ่งหนีไป ซึ่งคุณ Takeuchi ก็ไม่ยอมปริปากกับเราเลยครับเขาบอกได้แค่ว่า “จะมีตัวละครจากภาคก่อนๆ กลับมาแค่ไม่กี่ตัวหรอกนะครับ” และแม้ว่าภาคนี้จะหนักไปทางมีตัวละครใหม่เสียเยอะ แต่เรายืนยันได้แล้วครับว่า Chris พระเอกของเราจะได้ปะทะกับเจ้า Albert Wesker คู่ปรับเก่าอีกครั้งแน่ๆ ส่วนโอกาสที่เราจะได้เห็น Ada Wong อีกครั้งก็มีความเป็นไปสูงเช่นกันถ้าจะมองว่าเชื้อไวรัส Las Plagas ที่แพร่มาถึงแอฟริกาได้ก็น่าจะเกี่ยวโยงกับเชื้อที่เธอขโมยไป แล้วตัวละครใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปอย่าง Excella ล่ะ? ทีมงานของเกมนี้ก็ยังคงอุบเนื้อเรื่องของภาคนี้ไว้สนิทแน่นอยู่ดีครับ ซึ่งก็เพื่อเหตุผลที่ดีนะครับ เพราะความสนุกกว่าครึ่งของการเล่น Resident Evil นั้นมาจากการพลิกปมหักมุมไปมาว่าใครเป็นต้นตอตัวร้ายของการแพร่ระบาดของไวรัสในแต่ละภาค และลุ้นกันได้จนจบว่าใครกันแน่ที่หลอกใช้ใครนั่นเองครับ
จำน้องหมาพวกนี้ได้ใช่ม้า? พวกมันกลับมาแว้วววว!
และเมื่อถึงเดือนมีนาคมปีหน้า RE5 ก็คงพร้อมวางขายอยู่บนแผงทั้งของ Xbox 360 และ PS3 กันแล้วนะครับ ถึงแม้คนจะชอบพูดกันว่า ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม แต่เรายอมทิ้งพร้าเล่มงามตอนนี้เลยก็ได้นะถ้าได้แลกกับการได้รัวกระหน่ำยิงซอมบี้ Las Plagas ภาคใหม่นี้เลย ซึ่งข้อมูลใหม่ๆ ของเกมนี้ก็ช่วยบรรเทาอาการอยากของเราไปได้บ้างแหละครับ ซึ่งถ้าคุณผู้อ่านอ่านมาถึงตรงนี้แล้วยังรู้สึกไม่เต็มอิ่มจุใจก็พลิกไปหน้าต่อไปเพื่ออ่านบทสัมภาษณ์ของเรากับ Takeuchi ถึงเกมสยองภาคใหม่ที่ใกล้มาถึงเกมนี้กันได้เลยครับ
Resident Evil 5 นั้นถูกออกแบบโดยวาง Chris Redfield ไว้เป็นตัวละครหลักตั้งแต่แรก และเวลาที่คุณเล่นเกมนี้คนเดียว คุณก็จะได้บังคับ Chris ตลอดเวลา และเช่นเดียวกัน ในส่วนของการเล่นแบบออนไลน์ คนที่เล่นเป็นโฮสต์หลักของเกมก็จะได้รับบทเป็น Chris เสมอ ส่วน Sheva Alomar ก็จะอยู่เคียงข้าง Chris ไปตลอดไม่ว่าจะเป็นการบังคับโดยผู้เล่นอีกคนแบบออนไลน์หรือว่าจะเป็นการควบคุมโดย AI ของเกมที่ดูฉลาดเฉลียวอย่างน่าแปลกใจ ตัวเกมภาคนี้ยังใส่ระบบเข้าร่วมเล่นหรือเลิกเล่นที่ยืดหยุ่นมากๆ มาให้ด้วย โดยให้ผู้เล่นอีกคนสามารถเข้าร่วมลุยได้ในฉากได้ทันที และสมมุติถ้าผู้เล่นอีกคนจะต้องหยุดหรือหลุดไปกลางคันระหว่างกลางมิชชั่นไหนก็ตาม ระบบ AI ของเกมก็จะเข้าควบคุม Sheva สวมต่อแทนทันทีไม่มีการเสียอารมณ์ ตรงนี้นับว่าเป็นฟีเจอร์ที่สำคัญมากพอดูครับ เพราะการจะผ่านแต่ละฉากในเกมนี้นั้นตัวละครทั้งสองต้องมีชีวิตรอดอยู่ไปจนจบภารกิจเสมอ
และเมื่อเราชี้ประเด็นกับทีมงานทำเกมว่าพวกเขามีแผนรับมือกับพวกผู้เล่นออนไลน์นิสัยเกเรที่กะเข้ามาป่วนเกมชาวบ้านยังไง คุณ Jun Takeuchi โปรดิวเซอร์ของ RE5 ก็บอกกับเราว่า “ถ้าปรากฏว่ามีผู้เล่นบางคนที่ทำตัวแย่ๆ แบบนั้น เราก็ได้เตรียมระบบกันผู้เล่นเหล่านี้ออกไปไว้ให้แล้วครับ หรือไม่ก็...ถ้าเจอทีหลัง โฮสต์เกมนั้นๆ ก็สามารถที่จะถีบส่งผู้เล่นที่เข้ามาป่วนเกมตัวเองออกไปได้ตลอดเวลาครับ”
โดย James Mielke แปลและเรียบเรียง ขุนช้าง