2 อาชีพที่ผู้เล่นสนใจเป็นพิเศษ คือ Azure Knight อัศวินถึกสุดเท่ และ Vicious Summoner นักอัญเชิญเรียกอสูรได้ ก็มีข้อสงสัยหลายๆ อย่างกับสองอาชีพนี้ ด้าน Vicious Summoner นี่คงไม่สงสัยอะไรมากนัก จะมาหนักใจก็ตรง Azure Knight นี่แหละ ที่ใช้อาวุธได้มากถึง 3 รูปแบบ 7 กระบวนท่า แต่สายยอดนิยมในเซิร์ฟเวอร์ ต้องเป็นสายอาวุธคู่แน่นอน
Azure Knight สไตล์ Dual มีจุดเด่น - จุดด้อย อะไรบ้าง วันนี้ผมนายแมลงสาบขออาสาทำหน้าที่ ผ่าทุกซอก ทุกมุม ของไนท์สายพันธุ์นี้ให้เพื่อนๆ ได้หายข้องใจ กันครับ
ข้อควรรู้ของสายอาวุธคู่
1. การอัพ Sword Mastery, Mace Mastery และ Axe Mastery ไม่มีผลต่อพลังโจมตีของอาวุธคู่ ต้องอัพ Dual Mastery เท่านั้น
2. ถือดาบสองข้าง, คทาสองข้าง หรือขวานสองข้าง ก็ไม่ส่งผลต่อสกิล แนะนำให้ถือขวานมือเดียว 2 ข้าง เพราะพลังโจมตีโดยรวมสูงที่สุดในบรรดาอาวุธมือเดียวทั้งหมด
ข้อดีของสาย Dual Weapon
- สกิลต่างๆ มีพลังโจมตีสูงมาก ทั้งจากอาวุธเอง และจากความแรงของสกิลโจมตี
- การเก็บเลเวลนั้นจะไวมากๆ เพราะสาย Dual Weapon นั้นมีสกิลประเภท AOE (Area of Effect) หรือภาษาบ้านๆเรา ก็คือสกิลจู่โจมประเภทหมู่นั่นเอง ซึ่งทักษะโจมตีแบบกลุ่มนั้นมีถึง 3 สกิลด้วยกัน และแต่ละสกิลนั้น ผมขอนอนยันเลยว่า ใช้เก็บเลเวลดีที่สุดเลยก็ว่าได้ครับ
- อาวุธแต่ละข้างนั้น สามารถเจาะ Socket ได้ข้างละ 3 รู นั่นหมายถึง 2 ข้างเราสามารถได้รับผลจากเอฟเฟ็กต์ที่จะเกิดขึ้นมาถึง 6 อย่างเลยทีเดียว
ข้อเสียของสาย Dual Weapon
- ไม่ค่อยมีผลข้างเคียงที่มีประโยชน์ในการ PVP เลย ได้แก่ Stun, ลดค่า DEF ของคู่ต่อสู้, ลดความเร็วของคู่ต่อสู้ เป็นต้น เป็นสกิลโจมตีตรงๆ เน้นพลังทำลายมากกว่า
- อาวุธแต่ละชิ้นมีราคาค่อนข้างแพง เพราะสายนี้เป็นที่นิยมอย่างมาก ไม่แปลกที่ราคาของอาวุธประเภทนี้ออพสวยๆ ราคาจะดีดตัวสูงอย่างมาก และการเจาะรูให้กับอาวุธในแต่ละครั้งนั้น ใช้เงินสูงพอสมควรเลยครับ
ฟันธง สกิลอาวุธคู่ไหนเจ๋งจริง
Mastery Skill (5 สกิล)
Dual Mastery (เลเวล 16) ทักษะที่เพิ่มพลังโจมตีให้กับ Azure Knight ในขณะที่ถืออาวุธประเภทคู่อยู่เท่านั้น ค่าพลังความแรงนั้นจะเพิ่มขึ้นตามเลเวล
แมลงสาบคอนเฟิร์ม : Passive ทักษะติดตัว อัพให้เต็มครับ
Cross Piercing สกิลสายอาวุธคู่ที่จู่โจมใส่คู่โจมตีศัตรูด้วยการแทงและฟัน
Casting : 1.27 วินาที, Cool Time : 6 วินาที
แมลงสาบคอนเฟิร์ม : เบามาก อัพ 1 เป็นทางผ่านก็พอ
Cyclone Slash (เลเวล 27) สกิลโจมตีที่หยิบอาวุธคู่หมุนโจมตีใส่ศัตรูถึง 4 จังหวะสร้างความเสียหายอย่างหนักหน่วงให้แก่เป้าหมาย
Casting : 1.51 วินาที, Cool Time : 8 วินาที
แมลงสาบคอนเฟิร์ม : ช่วงแรกแรงใช้ได้ นำมาใช้ใน PVP ก็ไม่ขี้เหร่ครับ หากชอบการ PVP ก็อัพตามอัธยาศัยเลย
Energetic Blade (เลเวล 51) ทักษะการโจมตีระยะไกลหนึ่งเดียว ของสาย Dual
Casting : 1.2 วินาที, Cool Time : 6 วินาที
เบ่งพลัง แล้วปล่อย
แมลงสาบคอนเฟิร์ม : สกิลจู่โจมระยะไกลมีแค่สกิลเดียวด้วย แถมดีเลย์ก็น้อยมากๆ ครับ ไม่ต้องคิดไรมากครับ หลับหูหลับตากดให้เต็มไปเลย
Igen Dash (เลเวล 80) สกิลจู่โจมระดับสุดท้ายของสาย Mastery ที่ว่าด้วยการโจมตี 6 ครั้งที่โจมตีศัตรู 1 ตัวอย่างรุนแรง แถมการโจมตีครั้งสุดท้ายนั้น จะเป็นการโจมตีระยะไกลที่ส่งผลถึงศัตรูที่อยู่รอบๆ เป้าหมายอีกด้วย
Casting : 4.85 วินาที, Cool Time : 16 วินาที
รุนแรงมาก
แมลงสาบคอนเฟิร์ม : อัพเต็มไปเลยครับ แรงจริง
Support Skill (4 สกิล)
Dual Advance (เลเวล 20) ทักษะที่ทำให้เวลาที่ Azure Knight นั้นถืออาวุธประเภท Dual Weapon ทั้งหมดจะได้รับอัตราค่าพลัง Critical กับค่า Min DEF เพิ่มขึ้น
แมลงสาบคอนเฟิร์ม : อัพให้เต็มไปเลยครับ ปกติ Min DEF จะเท่ากับ Max ดังนั้น Max DEF ก็เพิ่มเช่นกัน
Fatal Bash (เลเวล 29) สกิลโจมตีแบบกลุ่ม ขั้นแรกของ Dual Knight หลังจากฟันศัตรูตัวเดียวกันสองครั้ง สกิลนี้นั้นจะผลถึงศัตรูที่อยู่รอบๆ เป้าหมายอีกด้วย
Casting : 1.6 วินาที, Cool Time : 6 วินาที (เลเวล 10 เหลือ 4 วินาที)
เด็กใช้ได้ ผู้ใหญ่ใช้ดี
แมลงสาบคอนเฟิร์ม : สกิลนี้ใช้เก็บเลเวลได้ดีมากครับดีเลย์ก็น้อยมากๆ ด้วย อัพเต็มครับ
Brandish (เลเวล 51) สกิลโจมตีแบบกลุ่มที่มีอานุภาพพลังทำลายล้างสูงอย่างมากถึง 4 จังหวะสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้แก่กลุ่มเป้าหมาย
Casting : 2.56 วินาที, Cool Time : 6 วินาที
PVP ดี เก็บเลเวลก็เด่น
แมลงสาบคอนเฟิร์ม : เหมือนเดิมครับ สำหรับสกิลโจมตีแบบกลุ่มอัพให้เต็มครับ รับรองเลเวลกระฉูด
Spout Anger (เลเวล 91) สกิลสุดท้ายของ Azure Knight สาย Dual Weapon ซึ่งเป็นทักษะที่ทำการกระหน่ำโจมตีอย่างบ้าคลั่งถึง 7 จังหวะใส่เป้าหมาย พร้อมทั้งส่งผลให้เป้าหมายติดสถานะ เลือดไหลอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 3 วินาที
Casting : 3.04 วินาที, Cool Time : 14 วินาที
เอาคะแนนความรุนแรงไป 5 กะโหลกเลย
แมลงสาบคอนเฟิร์ม : สกิลนี้รุนแรงมากๆๆๆๆ อัพให้เต็มไปเลย
สายโล่และอาวุธใหญ่ ข้อดีที่แตกต่าง
อีกสองสายก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ดี แต่มีอุปสรรคในการเก็บเลเวลช่วงแรก ถ้าใครอยากเก่งไวคงไม่อยากเล่นสาย Shield กับอาวุธใหญ่ แต่ช่วงหลัง อาจจะ Reset ให้เหมาะสมกับความถนัดของตัวเองก็ดีครับ
ข้อดีของสาย Shield
- พลังทำลายจะสูงไม่มากก็จริง แต่สกิลของสายนี้ นั้นแฝงไปด้วย Effect ที่ดีมาก เช่น Stun, เลือดไหล, บวกค่า DEF ให้กับเรา เป็นต้น
- ถึกและบึกบึน ค่า DEF ของสายมหาศาลมาก ผลของเพชรในโล่นี่ก็เพิ่มพลังป้องกันมากมาย ยิ่งบวกกับผลของบัฟที่เพิ่มเป็น % ยิ่งเห็นผล
- เรื่อง PVP, ปาร์ตี้ PVP และ Siege War จะเด่นมาก ล้มได้ยาก วิ่งป่วนไปทั่ว
- แทงค์บอสแจ่ม หรือเป็นศูนย์หน้าให้กับทีมได้ดีอย่างมาก สามารถเป็นตัวพลิกเกมได้เลยในระบบสงคราม
ข้อเสียของสาย Shield
- เก็บเลเวลยากมากครับ เพราะสกิลแรงๆ ตัวทำ Damage นั้นเรียกว่าไม่มีเลยก็ว่าได้ ทำให้การสังหารมอนสเตอร์ด้วยตัวคนเดียว อาจใช้เวลามาก
- ผลพวงจากข้อด้านบนแล้ว ทำให้หากเราเล่น สายนี้แต่แรกเริ่มต้น กว่าจะเก่งใช้เวลานานมากๆ ครับ
แมลงสาบคอนเฟิร์ม : สายนี้แข็งแกร่งมากครับ เหมาะสำหรับการออกล่าบอส หรือ PVP เลยก็แหล่มครับ ถ้าคิดจะเล่น ก็ควรเล่นสายอื่นไปก่อน แล้วค่อยรีเซ็ต Status และ Skill มาหลังจากเลเวล 91 แล้ว น่าจะเวิร์คที่สุด
ข้อดีของสาย Two-Hand Weapon
- พลังทำลายจะสูงมาก ด้วยความแรงพื้นฐานของอาวุธ (แต่ยังเบากว่าอาวุธคู่)
- เป็น Damage Dealer เพราะสกิลแต่ละ สกิลนั้น มี Effect มากมายเช่น ทำให้ติดสถานะเลือดออก , ค่า DEF ของเป้าหมายลด เป็นต้น
- อาวุธหาง่าย รวมไปถึงมีราคาถูกมากๆ ด้วย
ข้อเสียของสาย Two-Hand Weapon
- พลังทำลายสูงก็จริง แต่สกิลแรงๆ นั้นส่วนใหญ่เป็นสกิลโจมตีแบบเป้าหมายเดียวเกือบทั้งหมด
- Effect จาก Socket จะมีได้แค่ 4 รูเท่านั้น
- เก็บเลเวลได้ช้าเช่นกัน เพราะสกิลประเภทโจมตีประเภทกลุ่มจะมีน้อยมาก ไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมาใช้ในการเก็บเลเวล
แมลงสาบคอนเฟิร์ม : ยืนยัน นั่งยัน นอนยัน เลยว่าสายนี้ เหมาะที่เป็นสายที่เล่นเพื่อซัพพอร์ท สายหลังของผู้เล่นอีกทีนึงจะเป็นประโยชน์มากกว่าครับ หรือไม่ก็นำมาเป็นสายหลักในช่วงท้ายๆ จะดีกว่าครับ
การคำนวณความแรงของอาวุธคู่
การคำนวณความแรง ไม่ได้นำพลังโจมตีอาวุธสองชิ้นมาบวกกันโดยตรง แต่มีการเพิ่มเป็น % แทน
1. เมื่อใส่อาวุธมือเดียว 2 ข้าง จะเพิ่ม Min และ Max จากอาวุธที่มีพลังมากที่สุดและน้อยที่สุด มีการคำนวณพลังโจมตีที่เพิ่มจากเครื่องประดับด้วย ดังนี้
Max = ยึดตามค่า Max ของอาวุธที่มีพลังโจมตีมากที่สุด X 15%
Min = ยึดตามค่า Min ของอาวุธที่มีพลังโจมตีน้อยที่สุด X 15%
ตัวอย่าง : AK มีพลังโจมตี 298
(1) ดาบเริ่มต้นพลังโจมตี 17 – 18 พลังโจมตีเพิ่มเป็น 315 – 316
(2) ใส่ดาบพลังโจมตี 17 – 18 อีกเล่ม (ไม่มี Dual Mastery) พลังโจมตีจะเพิ่มอีก 15% เป็น 362 – 363
(3) สมมุติถ้าใส่อาวุธที่มีพลังโจมตีสูงกว่าอีกข้างแทน พลังโจมตี Min จะยังเป็น 362 แต่ Max จะเปลี่ยนไปตามอาวุธที่แรงกว่า คูณด้วย 15% (ไม่สนมือข้างซ้ายหรือขวา)
2. ความแรงของ Dual Mastery (เลเวล 10 เพิ่ม 30%) นับพลังโจมตีรวมอาวุธ แต่ไม่คิดส่วนของออพชันเพิ่มพลังโจมตี เช่น เครื่องประดับ เป็นต้น
3. คำนวณเพชรและออพชั่น จะคำนวณทั้งสองข้าง เช่น เพชรธาตุ 5% ข้างละ 3 ช่อง จะเพิ่ม Atk ได้ถึง 30% เป็นต้น
ก็จบกันไปแล้วนะครับ สำหรับการวิเคราะห์ของสาย Dual สกิลไหนไม่ดี ไม่โดนใจเพื่อนๆ ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบนะครับ แต่ผมก็อยากให้เพื่อนๆ อย่าคำนึงแต่ความแรงของ Damage อย่างเดียว เพราะไม่ว่าจะเป็นการ PVP ก็ดี จะเก็บเลเวลก็ดี ก็ควรจะคำนึงถึงผลของค่าดีเลย์ที่จะตามมาด้วย บางทีก็ต้องหันไปพึ่งสกิล Cool Time น้อย ในช่วงเลเวลกลางๆ เพื่อให้ใช้สกิลต่อเนื่องยิ่งขึ้นด้วย สำหรับข้อมูลดีๆ แบบเจาะลึกแบบนี้ ก็คงต้องขอขอบคุณผ่านไมค์อีกครั้งครับ สำหรับแก๊ง Zombie Twilight อย่าง Kenjipu และ Argasa 2 Knight หนุ่มแห่ง Guild Issue~Master ที่เต็มใจช่วยในทุกเรื่องครับ