Left 4 Dead : มาเดี่ยวตายเดี่ยว มาหมู่ตายหมู่! กับเหล่าซอมบี้นักวิ่งและผองเพื่อนที่พร้อมจะใส่เกียร์หมามารุมจกตับพวกคุณ!!

แชร์เรื่องนี้:
Left 4 Dead : มาเดี่ยวตายเดี่ยว มาหมู่ตายหมู่! กับเหล่าซอมบี้นักวิ่งและผองเพื่อนที่พร้อมจะใส่เกียร์หมามารุมจกตับพวกคุณ!!

    Left 4 Dead เป็นเกมแนว First person shooting (FPS) จากค่าย Valve ที่มีดีกรีรับประกันเป็นเกม Half-Life ที่ทุกคนคงจะคุ้นเคยดีครับ ฉากหลังของเรื่องเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยฝูงซอมบี้ โดยผู้รอดชีวิต (survivor) ทั้ง 4 คนต้องพยายามหาทางหนีออกจากเมืองให้ได้ โดยผู้รอดชีวิตทั้ง 4 คนจะต้องช่วยกันเอาชีวิตรอดจากฝูงซอมบี้ นอกจากจะเล่นแบบ Single player แล้วเกมนี้ยังสามารถเล่นแบบ multiplayer ได้ และมีระบบสนับสนุนการ cooperation (เล่นแบบสามัคคีชุมนุม) เหมาะกับการเล่นออนไลน์พร้อมๆกัน สามารถเล่นได้สูงสุด 2 ทีม (รวม 8 ตัวละคร) และยังสามารถเล่นในมุมมองของซอมบี้ ซึ่งสามารถมองเห็นผู้รอดชีวิตได้ทุกการเคลื่อนไหวแม้จะอยู่ในห้องเซฟ และไล่ตามสังหารพวกเขา

ผู้รอดชีวิต 4 คน vs ฝูงซอมบี้ AI ที่ฉลาดเกินผีดิบโง่ๆตามหนังซอมบี้ดาษๆทั่วไป

     Left 4 Dead เป็นเกมที่ต้องอาศัย 2 อย่าง คือ ความสามัคคีและการเผชิญหน้ากับฝูงซอมบี้อย่างมีสติ ตัวละครทั้ง 4 จะต้องเล่นให้สัมพันธ์กัน มิฉะนั้นอย่าหาว่ายากแล้วไม่เตือน ส่วนการเผชิญหน้ากับฝูงซอมบี้อย่างมีสติหมายถึง เมื่อถูกซอมบี้รุมไม่ควรแตกตื่น คุณอาจจะต้องปล่อยให้ตัวละครตัวหนึ่งถูกซอมบี้รุม แล้วให้ตัวละครอีกตัวหนึ่งจัดการกับฝูงซอมบี้แทน

    ในกรณีนี้ ห้ามถลาเข้าไปช่วยตัวละครอีกตัวโดยไม่ดูตาม้าตาเรือเป็นอันขาด! Left4Dead ไม่เหมือนเกมแนว FPS อื่นๆ ที่อาศัยผู้เล่นฝีมือเจ๋งๆสักคนแล้วจะรอดได้ แต่สำหรับเกมนี้ ต่อให้คุณเก่งมาจากไหน ถ้าเล่นคนเดียวไม่มีวันรอด คุณต้องเล่นเป็นทีม!

น้ำหนองเน่าๆที่ Boomer พ่นใส่ นอกจากคุณจะตาบอดไปชั่วขณะแล้ว
มันยังทำให้ฝูงซอมบี้เข้ามารุมกินตับคุณด้วย

อย่าปล่อยให้เพื่อนถูก Smoker ลากไปกินไส้ แล้วยืนดูอย่างชิวๆ

     ยุทธวิธีที่ดีในการเล่นแบบทีมเวิร์คคือ แบ่งหน้าที่กันให้ดี และอย่าทำอะไรตามใจตัวเองนัก คิดถึงทีมไว้ก่อนเป็นดี

     แน่นอนว่าเกมอื่นอาจจะไม่เป็นแบบนี้ แต่ใน Left4Dead ทีมเวิร์คต้องมาเป็นที่หนึ่ง บางครั้งคุณต้องคอยดูสถานการณ์เพื่อช่วยผู้เล่นอื่นให้มีเวลาเติมพลัง หรือรีโหลดกระสุน และแน่ล่ะ ตัวละครที่ควบคุมโดย AI จะไม่ฉลาดพอที่จะช่วยคุณให้มีเวลาทำสิ่งเหล่านี้ได้

    ตัวเกมเหมือนภาพยนตร์ซอมบี้ทั่วๆไปที่คุ้นตา ซอมบี้อาจจะโผล่มาแบบมัวๆ หรือบางทีก็โผล่มาในแสงไฟอันเจิดจ้า (เห็นหน้าเละๆชัดเจน - -“) มีบางครั้งที่อาจมาเป็นเสียงก่อน และบางครั้งพวกมันก็อาจปรากฏตัวมาเป็นฝูงโดยไร้สัญญาณเตือน กระทั่งเวลาที่คุณกำลังคุยกับเพื่อนในทีมอยู่ ตัวกราฟฟิกซอมบี้นั้นไม่มีที่ติ ทำได้สมจริงและเป็นธรรมชาติมาก ทำให้คุณระทึกขวัญไปกับเกมได้ทุกย่างก้าว

     ฉากในเรื่องค่อนข้างมืด การเคลื่อนไหวของฝูงซอมบี้ก็ทำได้ดีและสมจริงมาก และแม้ว่าบรรยากาศทั้งเรื่องจะออกมืดๆหม่นๆ แต่หลายๆฉากก็มีแสงสว่างพอที่จะโชว์ความเทพและความเนียนของกราฟฟิกอยู่บ้าง จงใช้แสงสว่างนี้ให้เป็นประโยชน์ในการแยกแยะระหว่างเพื่อนของคุณกับซอมบี้ 

    เอาเข้าจริงแล้ว จะบอกว่า Left 4 Dead เป็น Counter-Strike ภาคซอมบี้ก็คงจะไม่แปลกนัก จัดเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมในการสร้างตัวเกมนี้ขึ้นมา ผมเล่นเกมนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกได้ไม่มีเบื่อเลยครับ เพราะนอกจากความสนุกในการเอาชีวิตรอดแล้ว ตัวเกมยังทำการแรนด้อมไอเท็มและตำแหน่งที่ศัตรูปรากฏตัวทุกๆครั้งที่เล่น ทำให้สามารถเล่นซ้ำได้โดยไม่ต้องทนกับฉากเดิมๆ ต่างจากเกมแนว Horror อื่นๆที่ไอเท็มมักจะปรากฏในจุดเดิมที่เราเคยชิน

     แน่นอนมันทำให้เกมยากขึ้น แต่สำหรับผมแล้ว ยิ่งยากก็ยิ่งสนุก

คนบางคนชอบบอกว่าผีในหนังมันน่ากลัวตรงไหนกัน(วะ)

........แต่จริงๆแล้วตัวเองก็กลัวเหมือนกันล่ะน่า!!

     โดยปรกติแล้วสำหรับเกมแนวนี้ คุณจะต้องเล่นมันซ้ำๆเพื่อทำความคุ้นเคยกับเกม และทำให้การเล่นง่ายขึ้น (ซึ่งทำให้ซอมบี้กลายเป็นมอนสเตอร์ที่น่ารำคาญที่สุด เมื่อคุณเล่นจนชินแล้ว) ต้องขอบคุณระบบแรนด้อมที่ช่วยเพิ่มความสนุกให้ทุกครั้งในการเล่น แถมซอมบี้ในเกมนี้ยังคล้ายกับในภาพยนตร์เรื่อง 28 Days Later ที่เคลื่อนไหวเร็วมาก และพร้อมจะทะลวงประตูเข้ามารุมกินตับคุณอย่างรวดเร็ว

    ระบบอย่างหนึ่งที่น่าสนใจที่สุดซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมตัวละครคือ การต่อสู้กับแรงกดดันและความเครียด ด้วยตัวเกมที่สร้างระบบแรนด้อมการปรากฏตัวของซอมบี้ ทำให้บางครั้งคุณอาจตกอยู่ในระดับความยากที่โหดสุดๆ และนั่นหมายถึงการต้องต่อสู้กับแรงกดดันที่ก่อตัวขึ้น (เช่น ต้องพยายามไม่ให้ตัวละครได้รับบาดเจ็บ หรือการต่อสู้ที่โถมเข้ามาแบบไม่มีหยุดหย่อน เป็นต้น)

    ดังนั้น ยิ่งคุณเล่นไปเท่าไร ศัตรูก็จะยิ่งปรากฏตัวมากขึ้นเท่านั้น และมันเป็นหน้าที่ของคุณที่จะต้องต่อสู้ ถ้าไม่อยากให้ซอมบี้จำนวนมากรุมกินตับคุณ นอกจากนั้นยังมีฟีเจอร์ดนตรีประกอบ (BGM) ที่จะเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ต่างๆ (ที่น่าสนุกคือ ถ้าคุณเซ็ทให้มันเป็นไปตามตัวละครแล้ว ดนตรีประกอบจะเปลี่ยนไปตามสภาพและอารมณ์ของตัวละครด้วย)

    ระบบไดนามิคนี้ทำให้ผมชอบเกมมากยิ่งขึ้น ถ้ามีคนบอกว่า ปิดดนตรีประกอบซะเถอะ มันไม่สนุกเลย ผมว่านั่นคิดผิด 

     อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของเกมนี้คือ ในตอนเริ่มต้นเกมอาจมีแผนที่ค่อนข้างน้อย ถึงกระนั้นในโหมด Campaign ก็มีให้เลือกถึง 4 Campaign ด้วยกัน แต่ละ Campaign ยังประกอบด้วยแผนที่ต่างๆอีก 5 รวมทั้งหมดเป็น 20 แผนที่ ซึ่งต้องใช้เวลาเล่นถึงสองชั่วโมงโดยประมาณ

      ระบบแรนด้อมในแต่ละแผนที่ถูกเซ็ทเป็น default เพราะฉะนั้นอาจไม่เหมาะกับผู้เล่นที่ชอบแผนที่แบบตายตัว แต่คุณสามารถดาวโหลดอ๊อพชั่นต่างๆของเกมเพิ่มได้ครับ

     โดยสรุป นี่เป็นเกมที่สนับสนุน Multiplayer อย่างยิ่ง แม้ว่าจะรองรับการเล่นแบบ Single Player บ้างก็ตาม อย่างไรก็ตาม การเล่นแบบสามัคคีชุมนุม (Multiplayer) ก็อาจกลายเป็นผลเสียได้ในสถานการณ์ที่แผนที่นั้นไม่เหมาะแก่การเล่นหลายคน โดยส่วนตัวผมคิดว่าการเล่นฝั่งซอมบี้นั้นได้เปรียบกว่ามาก ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นี่ก็เป็นเกมแห่งปีที่ผมเชียร์ครับ

     เอาชีวิตรอดใน Left4Dead ได้ใน Xbox360 และ PC สำหรับ Demo version นั้นก็สามารถเล่นออนไลน์ได้เช่นกัน ผมแนะนำให้ลองเล่น แล้วจะรู้ว่าการได้เป็นฮีโร่และเป็นซอมบี้นั้นเป็นอย่างไร

ข้อดีของเกม

- สามารถเล่นได้พร้อมกันถึง 4 คน หรือเล่นคนเดียวแล้วปล่อยให้ AI ควบคุมคนที่เหลือก็ได้
- เดินเรื่องเร็ว องค์ประกอบของเกมละเอียดและสมบูรณ์
- ระบบเสียง กราฟฟิก สมจริง
- เร้าอารมณ์ผู้เล่นได้เป็นอย่างยิ่ง ระทึกใจ เหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง

ข้อเสีย

- ทำไมมีแผนที่น้อยอย่างนี้!!

 

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ