วางตลาดก็ช้า สนุกก็ไม่สนุก
GIANCARLO: Too Human ไม่ใช่เกม RPG ชั้นดี ความสามารถในอาชีพของตัวละครที่มีให้เลือกทั้งห้าแบบ (Berserker, Defender, Champion, Commando และ Bioengineer) ให้ยุทธศาสตร์การเล่นที่ต่างกัน แต่พอเล่นผ่านด่านแรกไป ความแตกต่างนั้นกลับไม่ค่อยมีความสำคัญ วิธีการเอาชนะศัตรูของอาชีพต่างๆ ก็เหมือนกันหมดเพราะศัตรูเกือบทุกตัวจะจู่โจมเข้ามาแบบเดียวกัน อีกทั้งมีการจำกัดการพัฒนาสายอาชีพและยังไม่หลากหลายในแง่ของการต่อสู้ แต่สิ่งที่น่าผิดหวังที่สุดคือข้าวของต่างๆ ที่ได้รับหลังจากการต่อสู้ แม้ว่าตัวเกมจะมีอาวุธและชุดป้องกันมากมายแต่ความจริงที่ว่าคุณจะได้เจอยุทโธปกรณ์ที่ดีกว่าอีกเรื่อยๆ ทำให้ไอเทมพิมพ์เขียวการทำอาวุธดูเป็นของธรรมดาไปเลย ไหนจะวิธีการจัดเรียงและการถือไอเทมต่างๆ อีก ต้องขอชื่นชมระบบการจัดของสักหน่อยว่ามันสุดแสนจะโบราณเลย
และ Too Human ก็ไม่ใช่เกมแอ็กชั่นชั้นดีอีกเหมือนกัน แม้มันจะควรค่าแก่การยกย่องที่ตีความการใช้เมาส์ควบคุมแบบเกม Diablo ของพีซีเสียใหม่ ซึ่งต้องพึ่งพาแกนอนาล็อกข้างขวาในการโจมตี แต่มันก็ได้ผลแค่ในขั้นพื้นฐานเท่านั้น หากพยายามจะเล่นท่าอลังการกลางอากาศจะรู้สึกได้ทันทีว่าการควบคุมดูติดขัดและตอบสนองได้ไม่ดีนัก การโจมตีระยะไกลก็ไม่ต่างกัน มุมกล้องเองก็ไม่เอื้ออำนวย ไหนจะต้องเลือกเป้าหมายการโจมตีด้วยตัวเองอีก แต่บทบู๊ในแบบเล่นหลายคนจะดูดีขึ้นมานิดนึงหากคนใดคนหนึ่งเลือกใช้อาวุธประเภทปืนและคนอื่นๆ สู้ด้วยอาวุธประชิดตัว
เกมนี้ออกจะโรคจิตหน่อยๆ ที่มันพยายามเอาใจทุกๆ คนจนท้ายที่สุดกลายเป็นอะไรที่หาแก่นสารสาระไม่ได้เลยครับ
MILKMAN: Too Human อยากจะเป็น Contra, Devil May Cry, Diablo และ Halo แต่กลับลงท้ายที่เทียบชั้นอะไรไม่ได้กับเกมที่กล่าวมาเลย ปัญหาใหญ่ที่สุดของเกมอยู่ที่การบังคับที่ไม่ได้เรื่องได้ราวซึ่งยึดเอาบางส่วนมาจาก Monster Hunter เช่น เอาการบังคับการต่อสู้ไปอยู่ที่แกนอนาล็อกขวา Too Human ให้ความรู้สึกเหมือนจับเกมพีซีมายัดใส่เครื่องคอนโซล พยายามผสมผสานการต่อสู้ด้วยมือเปล่าเข้ากับการยิงแบบมุมมองบุคคลที่สามจนชวนให้นึกถึงเกม MDK2 ในอดีตของค่าย BioWare แต่ต่างกันชนิดฟ้ากับเหว
ในฐานะที่ผมเป็นคอเกมค้นหาของบวกตะลุยดันเจี้ยน มุมกล้องในเกมนี้ถือว่าเลวร้ายมาก ไม่มีแผนที่บอก (เพื่อไว้ติดตามเพื่อนร่วมทีม) แถมพวกระดับสูงที่ดรอปของพื้นๆ ก็ทำให้ผมกลับไปวนหาของซ้ำๆ คิดๆ ดูแล้วมันเห็นได้ชัดว่างานหลักของเกมนี้ไปตกอยู่ที่เนื้อเรื่องและการตีความตำนานเทพยุโรป แทนที่จะไปอยู่ที่ในขั้นตอนการพัฒนา ทำการบังคับให้ลื่นไหลขึ้น กระนั้นแล้ว Diablo II ก็ยังดูมีภาษีกว่าแหละนะ
RAY: Too Human เปิดตัวได้อย่างเหมาะสม ค่อยเป็นค่อยไปในฉากแรก ทำให้รู้สึกว่าการต่อสู้เป็นไปอย่างรวดเร็วและสนุกสนาน แต่หลังจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างแทบจะดูน่าเบื่อหน่ายไปเสียหมด การออกแบบงานศิลป์เริ่มน่าเกลียดขึ้น บทพูดก็ไม่ค่อยเพราะเสนาะหู และตายบ่อยขึ้น ตรงนี้แหละที่เป็นปัญหาใหญ่ ไม่ว่าผมจะลุยแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม หรือค่อยๆ ใช้คอมโบให้ดีที่สุดก็ยังหนีไม่พ้นพายุลูกธนูของเหล่าศัตรูที่ประดังยิงกันเข้ามา พาให้ทั้งตัวละครของผมและตัวผมเองต้องนั่งทนดูสภาพการตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วนิสัยการชอบหาไอเทมของผมก็ไม่ได้ถูกเติมเต็มจากการที่ต้องเจอกับอะไรซ้ำซากเลย ไหนจะชื่อห่วยๆ ที่เมื่อนำสิ่งต่างๆ มารวมกันแล้วกลายเป็นอะไรที่ไม่มีความพิเศษไปเสียเฉยๆ ผมไม่มีปัญหากับความยาวปกติของเกม (ประมาณ 15 ชั่วโมง) และผมก็รับมือกับมุมกล้องได้เสมอ ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ใช่ภาพรวมของตัวเกมทั้งหมดหากมันจะคงทุกอย่างไว้ให้เหมือนกับในด่านแรก
มันเกิดอะไรขึ้นกันล่ะเนี่ย?
Too Human ใช้ตำนานเทพยุโรปในโลกอนาคตเป็นฉากหลัง แต่แทบจะไม่ได้ถูกเปิดเผยหรืออธิบายให้ดีจากในเกม หลายๆ คนอาจจะตามไม่ทันว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่กับสิ่งที่เกิดขึ้น... เรื่องราวจบลงอย่างกะทันหัน ค่อนไปทางไร้สาระ และยังเดาจุดสุดยอดของเรื่องได้อีก ที่เลวร้ายที่สุดคือความรู้สึกที่เหมือนถูกตัดฉับเพียงเพราะทีมพัฒนา Silicon Knights อยากสงวนบางอย่างไว้ใช้ในเกมอื่นๆ ในอนาคตที่อาจจะเป็นไตรภาคของเกมนี้
■ ผู้จัดจำหน่าย: Microsoft Game Studios ■ ผู้พัฒนา: Silicon Knights ■ จำนวนผู้เล่น: 1-2 คน ■ ESRB: 13 ปีขึ้นไป
GIANCARLO
C-
พอใช้
MILKMAN
C-
พอใช้
RAY
D+
แย่
ข้อดี: เนื้อหาน่าตื่นตา
ข้อเสีย: อะไรๆ ดูน่าเบื่อไปหมด
ข้อเสียมากๆ: เหมือนเล่นเกมเมื่อสิบปีก่อน