Dekaron : นักรบผู้ถูกสาป Bagi Warrior

แชร์เรื่องนี้:
Dekaron : นักรบผู้ถูกสาป Bagi Warrior

     ผิวคล้ำ ร่างใหญ่ และรูปร่างคล้ายมนุษย์ พวกเขาถูกค้นพบโดยกลุ่มสำรวจของ Segita แม้จะมีรูปร่างที่น่ารังเกียจ พวกเขามีพละกำลังที่มหาศาล และฝีมือ การต่อสู้ระดับสุดยอด ความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาเทียบชั้นนักรบเผ่าอื่นๆ ใน Trieste สิ่งที่เรียกว่าเวทมนตร์ เผ่า Bagi จะเรียกมันว่า The Calling พวกเขาเรียกพลังแห่งความชั่วร้าย จากภายในร่างกาย เพื่อทำลายล้างศัตรู ความเชี่ยวชาญใน The Calling ระดับสูงสุด จะทำให้เกิดพลังทำลาย ที่สามารถ แยกวิญญาณของศัตรูได้ Karon ได้เรียกเชื้อโรค เพื่อทำให้พวก Bagi กลายพันธุ์เป็นเหล่าสาวกจากนรก แต่เพราะความมุ่งมั่นและวินัยของเผ่า Bagi ทำให้ แผนการนี้ต้องล้มเหลว แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นก็ทำให้เผ่า Bagi โดนความชั่วเข้าครอบงำเป็นบางส่วน ร่างกายของพวกเขาจึงถูกสาปด้วยความชั่วร้าย

ข้อมูลอาชีพ Bagi Warrior

     หากคุณกำลังมองหาอาชีพที่ โจมตีรุนแรง และมีพลังป้องกันเป็นเยี่ยม Bagi Warrior คือคำตอบของคุณ
Bagi Warrior เป็นสายอาชีพที่สามารถทำได้ทั้ง Damage Dealer และ Tanker หากเราสังเกตจากสเตตัสเริ่มต้น เราจะรู้ได้ทันทีว่า สเตตัสของ Bagi Warrior เน้นไปที่ความแรงการโจมตีทางกายภาพและการป้องกัน

สเตตัสเริ่มต้นของ Bagi Warrior

     STR 6
     DEX 2
     Heal 5
     SPR 2

ตรงนี้ขออธิบายความหมายของสเตตัส นิดนึงครับ

     STR   คือ สเตตัส ที่เพิ่มความแรงการโจมตีทางกายภาพและการโจมตีระยะประชิดทุกแบบ
     DEX   คือ สเตตัส ที่เพิ่มความแรงการโจมตีทางกายภาพและการโจมตีระยะไกล ทุกแบบ รวมถึงเพิ่มความแม่นยำในการโจมตีด้วย (รวมทั้งการบล็อกและการตั้งการ์ดด้วย)
     Heal   คือ สเตตัส ที่เพิ่มพลังป้องกันและ HP รวมถึงค่า Shield ด้วย
     SPR   คือ สเตตัส ที่เพิ่มความแรงการโจมตีจากเวทมนตร์ทุกชนิด และเพิ่มค่า MP ด้วย
และทุกครั้งที่เลเวลเราเลเวลอัพเราจะได้ค่า Stat Point มา 5 Point

ผลของการอัพสเตตัส  :  Stat Point ของอาชีพนี้ 1 Point เราจะได้ค่าต่างๆ ดังนี้

     STR : +3 Attack Damage และ 0.382% Critical
     DEX : +4 Attack Rate, 0.7% Guard Rate, 0.01% Block Rate และ 0.382% Critical
     Heal : +23.5 HP และ 1.65 Defense

หลักการอัพค่าสเตตัสของ Bagi Warrior

     รูปแบบของการอัพสเตตัสในแต่ละอาชีพของเกมนี้จะสามารถดูแหล่งอ้างอิงได้จากค่าความต้องการของอาวุธที่เรากำลังจะใช้งาน

(รูปที่ 1)

     จากรูปที่ 1 : จะเห็นว่าสเตตัสหลักของอาชีพนี้คือ STR และ DEX เพื่อที่จะให้ใส่อาวุธได้ แต่จากสเตตัสเริ่มต้นของอาชีพนี้มีค่า Heal เยอะเพราะงั้นอาชีพนี้จึงเล่นได้ 3 สาย ซึ่งแบ่งได้จากค่าสเตตัสดังนี้

     1.สายโจมตี (Damage Dealer)

สเตตัสที่จำเป็นต้องอัพคือค่า STR เป็นหลัก ส่วน DEX ให้เราอัพให้พอดีกับอาวุธที่เราจะใส่ก็พอ

     - ข้อดีของสายนี้ คือ โจมตีทางกายภาพได้รุนแรงมาก (แทบจะแรงที่สุดในเกม) เป็น Damage Dealer ที่ดีอาชีพหนึ่งเลย
     - ข้อเสียของสายนี้ คือ ค่า DEX น้อย เพราะงั้นโอกาสโจมตีพลาดหรือโดนศัตรูบล็อกการโจมตีจึงมีสูง อีกทั้งยังมีค่า Heal น้อย ทำให้เลือดและการป้องกันน้อยไปด้วย

     2.สายป้องกัน (Tanker)

สเตตัสที่จำเป็นต้องอัพคือค่า Heal เป็นหลัก ส่วน STR และ DEX อัพแค่พอให้ใส่อาวุธได้ก็พอแล้ว

     - ข้อดีของสายนี้ คือ พลังป้องกันและเลือดที่เยอะมากๆ ประกอบกับชุดเกราะของอาชีพนี้ค่าป้องกันก็เยอะอยู่แล้ว ทำให้สายนี้เป็นสายที่สามารถรับการโจมตีของมอนสเตอร์ระดับสูงและบอสได้สบายที่สุด ความแรงในการโจมตีอาจไม่เท่าสายโจมตี แต่ก็ไม่ได้ด้อยมากนัก จึงทำหน้าที่เป็น Tanker ให้ทีมได้อย่างดีเยี่ยม
     - ข้อเสียของสายนี้ คือ ความแรงในการโจมตีและความแม่นยำจะน้อย ส่งผลต่อการเก็บเลเวลที่ยากลำบาก จำเป็นต้องอาศัยการเข้าปาร์ตี้กับสายอาชีพอื่นอยู่เสมอ

      3.สายสมดุล

สายนี้การอัพสเตตัส จะเป็นในลักษณะสลับกันไป 2 ค่า นั่นคือค่า STR และ Heal ส่วน DEX อัพแค่พอใส่อาวุธ

     - ข้อดีของสายนี้ คือ สามารถเป็นได้ทั้งTanker และ Damage Dealer อาจจะไม่ดีเท่าคนที่เล่นสายใดสายหนึ่งแบบจริงจัง สายนี้จึงเป็นสายที่เหมาะแก่การ PVP มากที่สุด
     - ข้อเสียของสายนี้ คือ หากเราไม่ลงทุนให้มากพอ เราจะเก่งสู้ 2 สายแรกไม่ได้ ในระดับที่เท่ากัน พูดง่ายๆ หากเรามีชุดและอาวุธไม่ดีพอ ผู้เล่นสายนี้ก็จะไม่โดดเด่นเท่าเมื่อเทียบกับ 2 สายการเล่นแรก 

     ทั้งนี้การอัพค่าสเตตัสจริงๆ อาจขึ้นอยู่กับความชอบของผู้เล่นเอง จากข้อมูลที่ให้ไว้ เราสามารถอัพค่า DEX และ Heal เพื่อเล่นสายป้องกันที่สมบูรณ์แบบได้ด้วย (เพราะว่าค่า DEX จะเพิ่มอัตราบล็อกการโจมตีและอัตราการตั้ง Guard ด้วย)

รายละเอียดสกิล

     หลังจากรู้จักกับการอัพค่าสเตตัสกันไปแล้ว ส่วนที่สำคัญไม่แพ้ค่าสเตตัส นั่นคือการอัพสกิล ภายในเกม Dekaron จะมีการอัพสกิลเป็นแบบ Skill Tree นั้นก็คือ หากเราต้องการอัพสกิลไหนเราก็จำเป็นต้องอัพสกิลที่อยู่ก่อนหน้านั้นซะก่อน แบบในรูปที่ 2

(รูปที่ 2)

     อาชีพ Bagi Warrior นั้น มีสกิลให้เรียนเพียงแค่ 2 ประเภท เท่านั้น คือสกิลในหมวด Martial Arts และหมวด Spirit ทุกครั้งที่เลเวลเราอัพจะได้ Skill Point มา 1 Point วิธีการเรียนสกิลคือให้เราไปหา Skill Master (ซึ่งอยู่ในเมืองหลัก) แล้วซื้อคัมภีร์สกิลนั้นๆ มาเรียน และด้วยระบบ Skill Tree ทำให้เราต้องมีแบบแผนและคำนึกถึงค่า Point ที่เหลืออยู่เพื่อประโยชน์ในการนำไปใช้อัพสกิล เนื่องจากทุกสกิลจะจำกัดเลเวลในการอัพ หากเข้าใจแล้วเรามาดูสกิลต่างๆ ของอาชีพ Bagi Warrior กันครับ

Martial Arts Skills


    Wild Bash

ติดตัวมา ให้เราใช้สกิลนี้ไปเรื่อยๆ และไม่ต้องอัพเพิ่มครับ เพราะพลังโจมตีที่ได้นั้นน้อยเกินกว่าจะยอมสละ Point เพื่ออัพมัน

   Martial Arts Mastery

เป็นสกิลแบบติดตัว (Passive) แนะนำว่าให้อัพเต็มเลเวล 10 เลยครับ เพราะเป็นสกิลเพิ่มค่า ATK และ Critical ให้สูงขึ้นซึ่งจำเป็นต่อการเล่นมาก เริ่มต้นอัพได้ตั้งแต่ตอนเลเวล 5

   Double Smash

ให้อัพแค่เลเวล 1 พอครับเพื่อเป็นทางผ่านไปยังสกิลอื่น ซึ่งผลของสกิลนี้เป็นสกิลโจมตี 2ครั้งติดกัน ให้เราใช้แค่เลเวล1 เก็บเลเวลไปก่อนครับ เพื่อที่เราจะได้เก็บแต้มไว้อัพสกิลหลังๆ ที่ดีกว่า

   Instint Speed

เป็นสกิล Buff เพิ่มความเร็วในการโจมตี เราสามารถอัพได้เต็มที่เลเวล 5 ตอนตัวละครของเราเลเวล 38 เป็นอีกหนึ่งสกิลที่แนะนำให้อัพจนเต็มครับ

   Instint Power

เป็นสกิล Buff เพิ่มความแรงในการโจมตี เราสามารถอัพได้เต็มที่เลเวล5 ตัวละครของเราเลเวล 58 แนะนำให้อัพเต็มเลยครับ

   Hard Blow

ให้อัพแค่เลเวล 1 พอครับเพื่อเป็นทางผ่านไปยังสกิลอื่น สกิลนี้เป็นสกิลโจมตี 3 ครั้งติดต่อกัน แนะนำส่ให้เราเรียนแค่เลเวล 1 เอาไว้เป็นทางผ่านของสกิลขั้นสูงต่อไป

   Triple Ravage

เป็นสกิลที่ทำการโจมตี 3 ครั้งติดกันแต่มีรุนแรงมากกว่า Hard Blow โดยเราจะเริ่มอัพสกิลนี้ได้ตอนตัวละครเราเลเวล 50 และแนะนำให้อัพเต็ม 10 เลยครับ

   Bulls Cry

เป็นสกิล Buff ที่เพิ่มความแรงและความเร็วในการโจมตี อัพได้ตอนตัวละครเราเลเวล 60 แนะนำให้อัพเต็มที่เลเวล 5 ไปเลย

   Shock Wave

เป็นสกิลที่โจมตีได้ 2 ครั้งติดกัน อัพได้ตอนตัวละครเราเลเวล 37 ความแรงของสกิลนี้ไม่มากนักครับ แต่อยากแนะนำให้อัพเต็มเลเวล 5 เนื่องจากสกิลนี้มีผลข้างเคียงทำให้มอนเตอร์ที่โดนสกิลนี้ ติดอาการ Stun (เอาไว้ PVP กับผู้เล่นได้ดีมาก)

   Mad Bloods

เป็นการโจมตีอย่างรวดเร็ว 7 ครั้งติดกัน ความแรงไม่ต้องพูดถึงครับแรงมาก เริ่มอัพได้ตอนตัวละครเราเลเวล 67 แนะนำให้อัพเต็ม 10 เลยครับสกิลนี้

   Spirit Shout

เป็นการโจมตีอย่างรวดเร็ว 5 ครั้งติดกัน มีความรุนแรงกว่าสกิล Mad Bloods อีกทั้งยังโจมตีโดนมอนเตอร์ได้พร้อมกันมากถึง 4ตัว แนะนำให้อัพเต็ม 10 เช่นกันครับ แต่เราเริ่มอัพได้ก็ต่อเมื่อตัวละครเราเลเวล 82 ขึ้นไป

   Carnage

นับเป็นสกิลทีเด็ดของอาชีพนี้เลยครับ สกิลนี้จะทำการโจมตี 5 ครั้งติดกัน มีความแรงมากกว่า Mad Bloods และ Spirit Shout เพราะว่านี่ถือเป็นสกิลอันดับสุดท้าย และที่สำคัญสกิลนี้จะทำให้ศัตรูเดินช้าลงครับ (Movement Speed -100%) และส่งผลทำให้ศัตรูเลือดลด ทุกๆ วินาทีอีกด้วย เราเริ่มอัพได้ตอนตัวละครเราเลเวล 92 และคงปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องควรอัพให้เต็มเลเวล 10

Spirit Skills

   Horn Mastery

เป็นสกิลแบบติดตัว (Passive) ที่ช่วยเพิ่มพลังป้องกันการโจมตีจากธาตุทุกชนิดและเพิ่มโอกาสการโจมตีแบบคริติคอลด้วยครับ เราเริ่มอัพได้ตอนเลเวล 25 แนะนำให้อัพเต็มเลเวล 10

   Chain Burst

เป็นสกิลโจมตีขั้นแรกๆ แต่แนะนำให้อัพแค่เลเวล 1 เพื่อเป็นทางผ่านไปสกิลอื่นก็พอครับ

   Defensive

เป็นสกิล Buff เพิ่มพลังป้องกัน ซึ่งเยอะใช้ได้ครับ อัพได้ตอนเราเลเวล 42 แนะนำให้อัพเต็มเลเวล 5 ไปเลย

   Burn Knuckles

   Freezing Knuckles

   Lighting Knuckles

   ทั้ง 3 สกิลนี้ เป็นสกิลเพิ่มธาตุลงในสนับมือ เพื่อที่เราจะได้โจมตีเป็นธาตุนั้นๆ ส่วนจะอัพหรือไม่นั้น จริงๆ อยู่ที่เราต้องการครับ แต่ผมไม่แนะนำ เพราะเราสามารถใส่หินออพชั่นในอาวุธให้โจมตีเป็นธาตุได้อยู่แล้วครับ อีกอย่างทั้ง 3 สกิลนี้ไม่ได้เป็นทางผ่านไปสกิลไหนเลยทั้งนั้น จึงไม่คุ้มที่จะต้องอัพครับ

   Earthquake

เป็นสกิลที่โจมตีได้รุนแรงมากอีกหนึ่งสกิล อีกทั้งยังทำให้ศัตรูติดอาการ Stun ได้ด้วย เริ่มอัพได้ตอนเลเวล 56 แนะนำให้อัพให้เต็มเลเวล 10

   Tornado

เป็นสกิลที่โจมตี 3 ครั้งติดกัน อัพได้ตอนเลเวล 63 แนะนำอัพเต็ม 10 เพื่อใช้เก็บเลเวลในช่วงกลางๆ เกมแล้วค่อยไป Re-skill ตอนเราเลเวลสูงๆ

   Magic Resistance

เป็นสกิล Buff เพิ่มป้องกันการโจมตีจากเวทมนตร์ครับ (เหมาะมากตอน PVP กับ Incar Magician) เริ่มอัพได้ตอนเลเวล 70 ถ้ามี Skill Point เหลือแนะนำให้อัพเต็มเลเวล 5 เลยครับ

   Violent Gale

เป็นสกิลที่โจมตี 3 ครั้งติดกัน แล้วยังทำให้เป้าหมายกระเด็นถอยหลังได้อีกด้วย เริ่มอัพได้ตอนเลเวล 74 แนะนำให้อัพเต็ม 10 ครับ เพื่อใช้เก็บเลเวลในช่วงกลางๆ เกมแล้วค่อยไป Re-skill ตอนเราเลเวลสูงๆ


   Physical Resistance

เป็นสกิล Buff เพิ่มการป้องกันทางกายภาพ (ทั้งการโจมตีใกล้และไกลจากธนู) เริ่มอัพได้ตอนเลเวล 85 แนะนำให้อัพเต็มเลเวล 5 (จำเป็นต้องการ PVP อย่างมาก)

   Outrage

เป็นสกิลที่โจมตี 5 ครั้งติดกันครับ แต่สามารถโจมตีได้รอบตัวและมีระยะการโจมตีไกลขึ้นกว่าสกิลกลุ่มอื่นๆ เริ่มอัพได้ตอนเลเวล 82 แนะนำให้อัพเต็ม 10 ครับ

   Resistance

เป็นสกิล Buff ที่ป้องกันการขัดขวางการใช้สกิลของเราครับ ปกติการใช้สกิลทุกสกิลหากเราโดนโจมตีตอนที่เรากำลังออกสกิล เราจะหยุดใช้สกิลครับ สกิลนี้เป็นสกิลบัฟที่ช่วยให้เราใช้สกิลได้ต่อครับ แต่ในความเป็นจริง โอกาสโดนยกเลิกการใช้สกิลในการต่อสู้มีน้อยครับ เพราะงั้นจะอัพหรือไม่ก็ได้ แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบ PVP เป็นชีวิตจิตใจก็แนะนำให้อัพครับ เพราะฮันเตอร์เป็นอาชีพที่ยิงได้เร็วมาก โอกาสที่เราจะใช้สกิลไม่ออกจึงมีเยอะขึ้น อันนี้แล้วแต่ชอบครับ

   Dead Spark

ทำให้ตัวเรามีออร่าเหมือนไฟอยู่รอบๆ ตัวชั่วระยะเวลาหนึ่งศัตรูที่เข้าใกล้และโดนแสงจากออร่าของเราพลังชีวิตจะค่อยๆ ลดทุกๆ วินาทีเริ่มอัพได้ตอนเลเวล 96 แนะนำให้อัพเต็ม 10 รับรองไม่ผิดหวัง

  

นี่เป็นสกิลที่มีทุกสายอาชีพเป็นสกิลหากินที่ไม่เกี่ยวกับการต่อสู้เลย แต่กลับจำเป็นต้องใช้แต้มในการอัพด้วยสกิลนี้ชื่อ “สกิลตกปลา” ไว้สำหรับหาไอเทมและแร่ต่างๆ ซึ่งสามารถอัพได้เต็มที่เลเวล 4 เพราะงั้นหากเราต้องการสกิลนี้ด้วย เราต้องยอมเสียแต้ม 4 แต้มเพื่อมาอัพสกิลนี้ ผมจึงอยากแนะนำให้เราเล่นอีกตัวดีกว่าครับ เพราะไว้ตกปลาและตั้งร้านขายของ แต่หากไม่ชอบหรือคิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปสนสกิลนี้ก็ได้ครับ

     หลังจากเข้าใจเรื่องสกิลแล้วจะเห็นว่า อาชีพนี้ไม่ได้แบ่งสายการเล่นจาก สกิลเลยครับ แต่แบ่งสายการเล่นจากการอัพสเตตัส ซึ่งบางอาชีพเท่านั้นที่แบ่งสายเล่นจากสกิล เช่น เมจอินคา ซึ่งจะมีสกิลแยกประเภทออกเป็นธาตุเลย

     สกิลที่แนะนำมาทั้งหมด เป็นเพียงแค่แนวทางการอัพสกิล เท่านั้น จริงๆ แล้วผู้เล่นสามารถที่จะเลือกอัพต่างจากนี้ก็ได้ แล้วแต่ความชอบ สังเกตดูดีๆ จะเห็นว่าช่วงแรกเราจะไม่ค่อยมีสกิลโจมตีมากนัก เพราะอาชีพบากิ ถึงไม่ใช้สกิลก็ตีแรงอยู่แล้ว แต่หลังจากเลเวล 50 พอเราได้สกิล Triple Ravage มาแล้ว จะทำให้เราเก็บเลเวลได้รวดเร็วมากขึ้น

     สกิลทั้งหมดที่กล่าวมาเราสามารถอัพได้ทั้งหมดตอนเราเลเวล 150 อย่ากังวลว่าจะอัพผิด เพราะถึงยังไงสกิลแต่ล่ะสกิล ก็ถูกบังคับให้อัพได้ตามเลเวลของเราอยู่ดี ที่สำคัญที่ควรรู้ไว้คือ เราสามารถ Reset สกิลได้ 1 ครั้งต่อ 1 ตัวละคร โดยการไปหาสกิลมาสเตอร์ของอาชีพเราที่อยู่ในเมืองหลัก

     พอมาถึงตรงนี้ บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่า อาชีพ Bagi Warrior เก่งตรงไหน อาชีพบากิ เป็นอาชีพที่เกิดมาเพื่อ เป็น Tanker และ Damage Dealer เพราะมีความสมบูรณ์แบบทั้งการโจมตีและการป้องกัน ยกตัวอย่างเช่น ถึงเราจะเล่นสายโจมตีล้วนๆ แต่อัตราป้องกันของเราก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าอาชีพอื่นเลย หรือกลับกันถ้าเราจะเล่นสายป้องกัน พลังโจมตีเราก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าอาชีพอื่นเช่นกัน จึงเป็นอาชีพที่มีความลงตัวทั้งพลังป้องกันและพลังโจมตีที่ดีเลยทีเดียว

 

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ