Ghostbusters : จะทำไงเมื่อโดนผีหลอกวิญญาณหลอน? หยิบปืนลำแสงจับผีรุ่นใหม่ของคุณขึ้นมาไล่จับมันสิ

แชร์เรื่องนี้:
Ghostbusters : จะทำไงเมื่อโดนผีหลอกวิญญาณหลอน? หยิบปืนลำแสงจับผีรุ่นใหม่ของคุณขึ้นมาไล่จับมันสิ

ประเภท: THIRD-PERSON SHOOTER
ผู้พัฒนา: TERMINAL REALITY
ผู้ผลิต: SIERRA
ผู้จัดจำหน่าย: -
เว็บไซต์:
WWW.GHOSTBUSTERSTHEGAME.COM
กำหนดวางจำหน่าย: ปลายปี 2008

     เมื่อผมก้าวออกจากรถ Ecto-1 มายืนอยู่บนบันไดทางขึ้นสู่หอสมุดสาธารณะนิวยอร์กเคียงข้างกับ Ernie Hudson, Dan Aykroydและ Harold Ramis (Bill Murray ไม่ได้ร่วมในภารกิจพิเศษครั้งนี้ด้วย) หูหนึ่งของผมก็ฟังการสนทนาของทีม ส่วนอีกหูหนึ่งก็ฟัง Ryan French โปรดิวเซอร์ร่วมของเกม Ghostbusters อธิบายว่า อุปกรณ์ Proton Pack ของผมได้รับการประจุอาวุธอย่างเต็มรูปแบบสำหรับเดโมครั้งนี้ ฉากในเดโมถ้าเทียบกับเกมเกมเวอร์ชั่นที่จะออกจำหน่ายแล้วจะเทียบเท่ากับภารกิจที่สามเท่านั้น ดังนั้นคุณจึงจะไม่มีอุปกรณ์ที่เพียบพร้อมเท่าที่ผมได้ลอง ผมจึงควรจะพอใจกับสิ่งที่มีอยู่

     ภายในหอสมุดผมหยิบแว่นแบบพิเศษขึ้นมาสวมและตรวจสอบมาตรวัดบนเครื่อง PKE (อุปกรณ์ที่เป็นหน้าปัดมีแถบแสงกะพริบและมีสายอากาศแบบกางออกได้หนึ่งคู่ที่ทำงานได้ราวกับไม้เท้ากายสิทธิ์) เพื่อตรวจหาร่องรอยที่เหล่าภูตผีทิ้งไว้ มันนำผมไปสู่ห้องโถงอ่านหนังสือขนาดใหญ่และทันทีที่ผมย่างเท้าเข้าไปผมก็ตระหนักว่าเหล่าเพื่อนร่วมทีม Ghostbusters ต่างเรียงแถวรอกันอย่างพร้อมเพรียงกันอยู่ที่ทางเดินด้านข้างของห้อง ทำให้ผมรับรู้ด้วยสัญชาตญาณว่ากำลังจะได้เผชิญหน้ากับภูตผีระดับบอส

     แต่ก่อนที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์นั้นผมได้ทดลองใช้ Slime Blower ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่รูปแบบของ Proton Pack ดู คุณจำปืน Snot Gun (ที่ใช้ยิงก้อนเมือก) ใน Unreal Tournament ได้ใช่ไหมล่ะ? ที่จริงก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียวนักหรอก แต่เป็นสิ่งที่ Snot Gun น่าจะทำได้บ้าง เมื่อคุณลั่นไกยิงครั้งแรกจะเป็นการยิงสายเมือกไปติดที่จุดแรกที่คุณเล็งและเมื่อลั่นไกยิงครั้งที่สองจะเป็นการส่งอีกด้านของสายเมือกไปติดอีกจุดหนึ่ง ผลที่ได้คือแถบเมือกที่โยงระหว่างสองจุดที่คุณเล็งยิงไป

     Ghostbusters คนอื่นในทีมต่างรออย่างอดทนขณะที่ผมกำลังยุ่งกับการทดลองอันแสนเลอะเทอะเพื่อดูการตอบสนองของระบบฟิสิกส์ในเกม อย่างเชื่อมโคมไฟสองอันเข้าด้วยกัน, แขวนเก้าอี้ขึ้นด้วยโครงใยเมือกหลายๆ เส้น, สร้างใยเมือกโยงพาดกันไปทั่วทั้งห้องและโชคไม่ดีที่พบว่ามันมีข้อจำกัดในเรื่องความยาวของแถบเมือก แต่นั่นไม่ได้หยุดผมจากการทำให้ห้องเต็มไปด้วยสายเมือก ถ้าหากมีผีซักตัวอยู่ในนี้ผมคงได้ลองโยงมันไว้กับอะไรบางอย่างด้วยเมือกดู

      ในที่สุดผมทนการเร่งรบเร้าจาก Aykroyd กับ Hudson ให้ไปสบทบกับพวกเขาที่หน้าห้องไม่ไหว ทันทีที่ผมเดินไปถึงก็เกิดปรากฏการณ์ของภูตผีขึ้น เมื่อชั้นหนังสือ, โต๊ะ, เก้าอี้ต่างๆ ปลิวว่อนปะทะด้วยความรุนแรงและแตกกระจายไปทั่วห้อง จากนั้นปีศาจ Book Golem ก็ปรากฏกาย ซึ่งมันมีรูปร่างตามที่คุณคาดไว้นั่นแหละ คือมีรูปร่างใหญ่โตซึ่งประกอบกันขึ้นจากหนังสือจำนวนมากโดยมีโคมไฟเป็นส่วนหัว

     ผมทำการปรับเปลี่ยนการทำงานของ Proton Pack ใหม่ให้เป็นเครื่องกำเนิดพลังด้านมืด ทำงานคล้ายปืนลูกซองที่สามารถยิงทำลายหนังสือที่ก่อเป็นร่างของ Book Golem ได้ (เมื่อยิงจะส่งผลให้เฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ในระยะ แตกกระจายด้วย) และในที่สุดผมปรับเปลี่ยนกลับไปใช้ลำแสงโปรตอนแบบพื้นฐานซึ่งโจมตีได้อย่างต่อเนื่องรุนแรงแต่จะทำให้ความร้อนสะสมเกินขีดจำกัด ซึ่งต้องทิ้งช่วงเพื่อให้ระบบเย็นลง ซึ่งก็เทียบเท่ากับการเติมกระสุนในปืนชนิดอื่นและยังปุ่มให้คุณกดเพื่อระบายความร้อนที่สะสมระหว่างใช้ด้วย หลังจากการต่อสู้อย่างดุเดือดและการยิงไปที่โคมเรืองแสงที่เป็นส่วนหัวเป็นการปิดท้ายเพื่อปราบ Book Golem จากนั้นคุณจะหมดบทบาท เมื่อเข้าสู่ฉากคัทซีนที่แสนคุ้นเคย (ผมควรจะปล่อยให้บทพูดเจ๋งๆ ให้เป็นหน้าที่ของ Aykroyd กับ Ramis ผู้ซึ่งเขียนบทภาพยนตร์ทั้งสองภาคและกลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อเขียนบทเกมนี้)

     จากนั้นเกมจะเข้าสู่เหตุการณ์ภารกิจหลักต่อไปนั่นคือการล่าผีบรรณารักษ์ที่แสนจะจับได้ยากในภาพยนตร์ต้นฉบับ ในคราวนี้เรามาพร้อมด้วยอาวุธที่มีอานุภาพมากขึ้น เราลงไปยังห้องใต้ดินที่ซึ่งเหล่าชั้นวางหนังสือที่เรียงตัวเป็นเขาวงกตและถูกสิงสู่บีบล้อมเราเข้ามา ทันที่เพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งค้นพบเรื่องราวภูมิหลังของผีบรรณารักษ์ตนนี้ ชั้นหนังสือก็ได้เลื่อนเข้ามาและกันผมกับ Aykroyd ไว้ในห้องแคบๆ พร้อมกับผีที่มีรูปร่างแบบเมือกสองตัว

      ถึงตอนนี้ก็เกิดความวุ่นวายขึ้น เพราะวิธีการที่คุณใช้ในการกำจัดผีที่ไม่มีตัวตนก็คือการใช้ลำแสงชนิดต่างๆ ยิงให้มันอ่อนกำลัง จากนั้นใช้ลำแสงเพื่อล้อมจับมันแล้วลากลงสู่เครื่องดัก ซึ่งใกล้เคียงกับเกมตกปลาที่คุณต้องเลือกเหยื่อ, วางเบ็ดขอเกี่ยว, แล้วพยายามรอกเบ็ดเข้ามาเพื่อจับ ผมไม่มีโอกาสได้เล่นภารกิจสำหรับสอนการเล่นและส่วนแสดงข้อมูลต่างๆ บนหน้าจอในเกมก็ยังไม่สมบูรณ์ในเวอร์ชั่นที่ผมลองนี้ แต่หลังจากที่ผมได้ลองสะบัดฟัดเหวี่ยงด้วยอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้ว ผมก็สามารถจับเจ้าผีสองตัวนี้ได้ในที่สุด พร้อมด้วยห้องที่ตกอยู่ในสภาพพังยับเยิน

     เพื่อแสดงให้เห็นว่าเกมทำงานได้ดีแค่ไหน French ได้แสดงการเล่นฉากภารกิจที่ Times Square ซึ่งรถ Ecto-1 ต้องเลื้อยไปตามท้องถนนที่แสนโกลาหลของนิวยอร์ก เพื่อไล่ตาม Stay Puft ปีศาจมาร์ชเมลโลยักษ์ที่แสนดุร้าย คุณ French ยังได้แสดงการจับผีเหวี่ยงสะบัดไปมาและลากมันลงเครื่องดักที่อยู่บนหลังคารถ Ecto-1 ด้วยการเปลี่ยนไปใช้ลำแสงชนิดต่างๆ อย่างชำนาญและกำจัดภูตผีออกไปจากท้องถนนได้ทั้งหมด คุณเองก็จะมีโอกาสได้สะพายอุปกรณ์ Proton Pack เช่นกันในปลายปีนี้และพิสูจน์ด้วยตัวเองว่าคุณจะได้รับประสบการณ์แบบไหน

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ