Vicious Summoner อีกหนึ่งอาชีพที่แฟนๆ ให้ความสนใจเป็นอย่างมากเพราะนอกจากจะเท่อย่างมากมายแล้ว ทักษะสกิลต่างนั้นก็น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะอาชีพนี้นำเอาจุดเด่นมาผสมผสานกัน ไม่ว่าจะความชำนาญในการเชิงดาบหรือความแข็งกร้าวของเวทมนตร์ถูกนำมาหล่อหลอมถ่ายทอดลงสู่อาชีพ Vicious Summoner ได้อย่างลงตัวมากที่สุด
สายการเล่นของ Vicious Summoner
Vicious Summoner ถูกออกแบบการเล่นออกมาแค่ 2 สายหลักเท่านั้นเอง เพราะอาวุธหลักของอาชีพนี้ถูกแบ่งเป็น ดาบกับเวทมนตร์อย่างละ 1 สาย และสกิลในส่วนของซัมมอนสามารถเลือกได้อีก 2 สาย ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับ 2 สายหลักได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนี่คือสายอาวุธของอาชีพ Vicious Summoner
Twin Blade (สาย STR)
สายการต่อสู้แบบระยะประชิด ด้วยทักษะที่สวยงามแต่แฝงไว้ด้วยความรุนแรง จึงไม่แปลกเลยที่ผู้เล่นส่วนใหญ่จะนำสายนี้มาเล่นผสมผสานกับสายซัมมอนเพื่อเพิ่มพลังทำลายขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
Staff (สาย SPR)
สายการโจมตีทางเวทมนตร์แน่นอนค่าพลังทำลายของสายนี้ทั้งหมดนั้น ขึ้นอยู่กับค่าความแรงของไม้เท้า กับค่า SPR ของอาชีพ Vicious Summoner แล้วมักใช้ซัมมอนของตัวเองคอยทำหน้าที่แท้งค์มอนสเตอร์หรือบอสได้อย่างสบายๆ
ค่าสเตตัสพื้นฐาน
STR – ค่าที่ความรุนแรงในการโจมตีแบบ Physical ระยะใกล้
DEX – ค่าที่เพิ่มความรุนแรงในการโจมตีแบบ Physical ระยะไกล
HEAL – ค่าที่เพิ่ม HP สูงสุด และพลังป้องกัน
SPR – ค่าที่เพิ่มความรุนแรงในการโจมตีด้วยเวทมนตร์
และทุกครั้งที่เลเวลอัพเราจะได้ค่า Stat Point มา 5 Point และทุกๆ 1 Point นั้นหากนำมาอัพจะได้ค่าดังในตารางข้างล่าง
การแบ่งสายตามสกิล
ด้วยสไตล์ที่หลากหลายของอาชีพนี้ ทำให้ทักษะสกิลทั้งหมดถูกแบ่งออกมาถึง 4 สายดังต่อนี้
Beast : เป็นสกิลซัมมอนสายสัตว์ป่า ซัมมอนสายนี้เน้นรูปแบบไปทางสายโจมตีที่หนักหน่วง
Libido : เป็นสกิลซัมมอนสายอสูรโดดเด่นเรื่องพลังชีวิตกับพลังป้องกัน ซัมมอนสายนี้เน้นรูปแบบไปทางสายแท้งค์ เนื่องจากพลังชีวิต และป้องกันที่สูงมาก
Cosmos : เป็นสกิลเวทมนตร์ขั้นสูง มีทั้งหมด 4 สกิลโดยแบ่งออกเป็นอย่างละ 2 สกิลตามอาวุธที่ใช้คือ Twin Blade หรือ Staff นี่นับเป็นสกิลท่าไม้ตายของอาชีพนี้เราก็ว่าได้
Combat : เป็นสกิลทั่วไป ภายในนี้มีทั้งสกิลที่เป็นของสายดาบและคทารวมไปถึงสกิลที่ไม่จำกัดการใช้อาวุธซึ่งจำเป็นต่อการเล่นเป็นอย่างมาก
สกิลสาย Beast
เพิ่มอัตราการฟื้น HP และเพิ่มอัตราสำเร็จการบล็อคเป้าหมายเพิ่มขึ้น
ต้องการ : เลเวล15
อัญเชิญปีศาจน้ำแข็ง Grewpain ออกมาจากโลกแห่งความมืด
ต้องการ : เลเวล15, สกิล Beast Mastery
อัญเชิญปีศาจน้ำแข็ง Regulus ออกมาจากโลกแห่งความมืด
ต้องการ : เลเวล36, สกิล Grewpain
อัญเชิญปีศาจเพลิง Selaime ออกมาจากโลกแห่งความมืด
ต้องการ : เลเวล 58, สกิล Regulus
อัญเชิญภูติไฟที่มีพลังโจมตีสูงออกมาจากโลกแห่งความมืด
ต้องการ : เลเวล 83, สกิล Selaime
อสูรไฟ Bregon หนึ่งในอสูรที่เราแนะนำ
ทักษะการโจมตีของภูติไฟ Bregon ที่ใช้พลังโจมตีเป็นวงกว้างสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับศัตรู
ต้องการ : เลเวล 83, สกิล Bregon
อัญเชิญนักบวช Agareth ออกมาจากขุมนรก
ต้องการ : เลเวล 108, สกิล Bregon
สั่งให้ Agareth เรียกดาวตกพิษจากท้องฟ้าโถมใส่เป้าหมาย ศัตรูจะถูกล้อมรอบด้วยแก๊สพิษ และได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงถึง 3 ครั้ง
ต้องการ : เลเวล 108, สกิล Agareth
สกิลสาย Libido
เพิ่มอัตราการฟื้น HP และอัตราการโจมตี Critical ของสาย Libido
ต้องการ : เลเวล 15
เรียกปีศาจ Tarantula ออกมาจากขุมนรก
ต้องการ : เลเวล 15, สกิลl Libido Mastery
อัญเชิญ Aldebaran ออกมาจากขุมนรก
ต้องการ : เลเวล.36, สกิล Tarantula
อัญเชิญทหารปีศาจ Tentator ออกมาจากขุมนรก
ต้องการ : สกิล 58, สกิล Aldebaran
เรียกภูติคำสาป Anadema ออกมาจากขุมนรก
ต้องการ : สกิล 83, สกิล Tentator
เจ้านายเลี้ยงไม่ดีแน่เลยผอมแบบนี้
เป็นสกิลการโจมตีแบบกลุ่มที่สั่งให้ Anadema โจมตีเป้าหมายด้วยการยิงพลังวิญญาณใส่ศัตรู เป้าหมายจะได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง
ต้องการ : สกิล 83, สกิล Anadema
อัญเชิญเทพปีศาจ Musfel ออกมาจากขุมนรก
ต้องการ : สกิล 108, สกิล Anadema
สั่งให้ Musfel เข้าสู่สถานะ Berserk ซึ่งสถานะนี้ส่งผลให้ Musfel จะมีพลังป้องกันสูงสุด อีกทั้งทำให้ Musfel มีโอกาศบล็อคการโจมตีศัตรูมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ต้องการ : สกิล 108, สกิล Musfel
สกิลสาย Cosmos
เรียกผู้ส่งสารจากนรกออกมาพร้อมกับการโจมตี 5 ครั้ง
ต้องการ : เลเวล 87, อาวุธ Staff
เรียกปีศาจพิษ Palpus ออกมาโจมตีด้วยธาตุพิษ 3 ครั้ง ศัตรูที่ถูกพิษจะไม่สามารถโจมตีกลับได้ชั่วคราว และสูญเสียความต้านทานพิษทั้งหมด
ต้องการ : เลเวล 97, สกิล Hell Burst, อาวุธ Staff
ใช้เงาจู่โจมศัตรูด้วยความรุนแรงถึง 5 ครั้ง
ต้องการ : เลเวล 87, อาวุธ Twin Sword
สกิลแต่ละท่าของสาย Cosmos นั้นสวยงามจริงๆ
อัญเชิญกองทหารปีศาจ ออกมาโจมตีเป้าหมายด้วยการแทงดาบลงพื้น ทำให้ศัตรูเกิดความเสียหายอย่างรุนแรง 9 ครั้งติดต่อกัน
ต้องการ : เลเวล 97, สกิล Vicious Mirror, อาวุธ Twin Sword
แรงสุดๆ สำหรับสกิล Dark Avatar
สกิลสาย Combat
ทักษะการโจมตีขั้นพื้นฐาน
ต้องการ : เลเวล 1
เพิ่มความสามารถในการโจมตีด้วยเวทย์มนตร์และความต้านทานพิษ
ต้องการ : เลเวล 5, อาวุธ Staff
เพิ่มพลังโจมตีของอาชีพ Summonner
ต้องการ : เลเวล 5
สกิลโจมตีที่ใช้พลังวิญญาณของซัมม่อน เปลี่ยนเป็นพลังจิตแล้วบังคับพลังโจมตีใส่เป้าหมาย
ต้องการ : เลเวล 7
สกิลโจมตีที่หยิบดาบคู่โจมตีใส่เป้าหมายถึง 3 จังหวะ
ต้องการ : เลเวล 7, สกิล Twin Mastery, อาวุธ Twin Sword
เรียกหนามออกมาจู่โจมสร้างความเสียหาย และทำให้เป้าหมายช้าลงอีกด้วย
ต้องการ : เลเวล 12, สกิล Vicious Mastery, อาวุธ Staff
สกิลโจมตีที่เรียกดาบจากดินแดนแห่งความมืด ออกมาโจมตีใส่ศัตรู
ต้องการ : เลเวล 21, สกิล Evolt Shot, อาวุธ Twin Sword หรือ Staff
ทักษะ Buff สายป้องกันที่ขาดไม่ได้ เพราะเกราะป้องกันนี้นอกจากสะท้อนค่าความเสียหายแล้ว ผลพวงของสกิลนี้ยังบวกค่า Def อีกด้วย
ต้องการ : เลเวล 30
สกิลโจมตีที่อาศัยความรวดเร็วเข้าจู่โจมเป้าหมายถึง 7 จังหวะ
ต้องการ : เลเวล 32, สกิล Blade Spin, อาวุธ Twin Sword
โจมตีศัตรูด้วยลูกบอลพิษ 2 ครั้ง
ต้องการ : เลเวล 34, สกิล Spirit Dagger, อาวุธ Staff
เรียกค้างคาวปีศาจออกมาโจมตีเป้าหมาย
ต้องการ : เลเวล 41, สกิล Spirit Dagger
Ghost เรียกวิญญาณที่ชั่วร้ายออกจากขุมนรก แล้วจู่โจมใส่เป้าหมายเป็นรัศมีวงกว้าง
ต้องการ : เลเวล 52, สกิล Vicious Thorn – Blood Bats, อาวุธ Staff
ทักษะโจมตีที่หยิบดาบคู่ มาหมุนรอบตัวด้วยความรวดเร็วเพื่อโจมตีศัตรูรอบๆ ตัวเรา
ต้องการ : เลเวล 52, สกิล Blood Bats – Devil Swing, อาวุธ Twin Sword
สกิลที่จู่โจมด้วยการวางระเบิดพิษลงในพื้นที่เป้าหมาย ส่งผลให้เป้าหมายที่อยู่ในบริเวณทั้งหมดติดพิษ
ต้องการ : เลเวล 74, สกิล Summon Ghost, อาวุธ Staff
ทักษะการโจมตีที่ถ่ายทอดพิษที่รุนแรงลงสู่อาวุธ แล้วเข้าจู่โจมเป้าหมายรวดเดียว 3 ครั้ง
ต้องการ : เลเวล 74, สกิล Blade Dance, อาวุธ Twin Sword
สวยงามแต่แฝงไว้ด้วยความรุนแรง
Hybrid Summoner
มาต่อกันด้วยแนวทางการเล่นของ Vicious Summoner เลยดีกว่า การเล่นของอาชีพนี้นั้นถูกวางไว้หลากหลายมาก เพราะเนื่องจากสไตล์การเล่นทั้งการต่อสู้ในระยะประชิด และการต่อสู้ด้วยเวทย์มนต์ รวมไปถึงการใช้สัตว์อสูรซัมมอน จึงไม่แปลกที่ใครต่อใครหลายคนอยากสัมผัสความหลายหลากของอาชีพนี้ สายที่เรากำลังจะแนะนำในที่นี้ก็คือ สาย Mix หรือสายผสมนั่นเอง สายนี้ฮิตแพร่หลายเป็นอย่างมากครับทั้งเซิร์ฟเวอร์ SEA และอินเตอร์ฯ เพราะอาชีพนี้เมื่อเทียบกับอาชีพอื่นๆ แล้วนั้นสกิลโจมตีประเภทกลุ่มที่หวังผลได้นั้น จะมาช้ากว่าอาชีพอื่นๆ มาก แต่ว่ามาแล้วนั้นหวังผลได้ยาวครับไม่ว่าจะเป็นการ PVP หรือว่าการเก็บเลเวลก็ทำได้ง่ายดาย ดังนั้นการเก็บเลเวลในช่วงแรก เราจึงแนะนำให้เน้นทิศทางไปทางสายดาบคู่ก่อนในการเก็บเบื้องต้น
รูปแบบการอัพค่าสเตตัส
สเตตัสที่แนะนำนั้นในช่วงแรก ให้ตรงไปยังสาย STR หรือดาบคู่ก่อนเพราะ สายดาบคู่ล้วนนั้นในช่วงแรกสามารถเก็บเลเวลได้รวดเร็วกว่า เพราะสกิลแบบกลุ่มของสายไม้เท้านั้น กว่าจะได้มาก็ใช้เวลาพอสมควร แล้วค่อยมาทำการรีสกิลกับเสตตัส เพื่อสลับเป็นสาย Hybrid (สายผสม) เพราะสายนี้นั้นเก็บเวลก็ดี PVP ก็เด่นแต่ข้อเสียเดียวก็คือ ทักษะสกิลสาย Cosmos นั้นรุนแรงจริง แต่กว่าจะมาก็ปาเข้าไปเลเวล 87 นู่นเลย รักจะเก่งก็ต้องอดทนหน่อยนะครับ
มาช้ายังดีกว่าไม่มาครับ
ค่าสเตตัสที่เหมาะสม
STR 3 หน่วย / Heal 2 หน่วย และ SPR อัพแค่ให้ใส่อาวุธที่ต้องการได้เป็นพอที่สำคัญอย่าไปกดอัพค่า DEX เด็ดขาดเพราะมันไม่จำเป็นกับเราเลยสักนิด
และก่อนที่จะไปดูแนวทางการอัพสกิลของสาย Hybrid นั้นเราอยากขอแนะนำให้ผู้เล่นนั้นทำความรู้จักกับ อสูรซัมม่อนที่มีอยู่ 2 สาย แต่ละตัวมีความสามารถอะไรเราไปดูกันก่อน เพราะเวลาเล่นจริงจะได้เลือกถูก
สัตว์อสูรซัมม่อน
เลเวล 15
สาย Beast “Grewpain” ที่ระดับสูงสุดจะมีค่าความสามารถดังนี้ HP = 8,860 / ATK = 606~895 มีโอกาสติดสถานะ Ice ลดความเร็ว ATK ของศัตรู 90%
สาย Libido “Tarantula” ที่ระดับสูงสุดจะมีค่าความสามารถดังนี้ HP = 12,068 / ATK = 481~530 มีโอกาสติดสถานะพิษ 35% ทำให้ลด HP ศัตรู 145/วินาที
เลเวล 36
สาย Beast “Regulus” ที่ระดับสูงสุดจะมีค่าความสามารถดังนี้ HP = 23,594 / ATK = 1,459~1,827 มีโอกาสติดไฟฟ้า 35% ลดความเร็ว ATK ของศัตรู 100% และ ความเร็วในการเคลื่อนที่ศัตรูลดลง 50%
สาย Libido “Aldebaran” ที่ระดับสูงสุดจะมีค่าความสามารถดังนี้ HP = 29,668 / ATK = 1,458~1,609 มีโอกาสติดตาบอด35% ลดความเร็วATKของศัตรู 100% และ ความเร็วในการเคลื่อนที่ศัตรูลดลง 50% ค่าโจมตีจะเพิ่มเป็น 1,465-1,769
เลเวล 58
สาย Beast “Selaime” ที่ระดับสูงสุดจะมีค่าความสามารถดังนี้ HP = 46,712 / ATK = 2,777~3,672 มีโอกาสติดไฟ 35% ทำให้ลด HP ศัตรู 180/วินาที
สาย Libido “Tentator” ที่ระดับสูงสุดจะมีค่าความสามารถดังนี้ HP = 59,598 / ATK = 2,153~2,598 มีโอกาสติดสถานะพิษ 35% ทำให้ Posion Resist ศัตรูลด 140/วินาที
เลเวล 83
สาย Beast “Bregon” ที่ระดับสูงสุดจะมีค่าความสามารถดังนี้ HP = 65,085 / ATK = 3,671~4,870 มีโอกาสติดไฟ 35% ทำให้พลังป้องกันของเป้าหมายลด 21% เป็นเวลา 6 วินาที
สาย Libido “Anadema” ที่ระดับสูงสุดจะมีค่าความสามารถดังนี้ HP = 90,412 / ATK = 34,925~6,623 มีโอกาสติดคำสาป 35% ทำให้ All Resist ของเป้าหมายลด 21% เป็นเวลา 6 วินาที
เลเวล 108
สาย Beast “Argareth” ที่ระดับสูงสุดจะมีค่าความสามารถดังนี้ HP = 65,085 / ATK = 3,671~4,870 มีโอกาส 40% ทำให้ Max HP ของเป้าหมายลด 20% เป็นเวลา 8 วินาที และทำให้ HP ศัตรูลด 360/วินาที
สาย Libido “Musfel” ที่ระดับสูงสุดจะมีค่าความสามารถดังนี้ HP = 153,240 / ATK = 3,633~4,710โอกาสติดคำสาป 35% ทำให้พลังป้องกันของเป้าหมายลด 35% และพลังป้องกันเพิ่มขึ้นอีกถึง 80% เป็นเวลา 10 วินาที
รักตัวไหนสายไหนก็เล็งกันเอาให้ดีๆ นะครับเพราะการรีสกิลนั้นมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับการเล่นอาชีพ Vicious Summoner วางแผนไว้แต่เนิ่นๆ จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายทีหลังครับ
แผนผังการอัพสกิลของสาย Hybrid
Step To Step ของสาย Hybrid นั้นเราเริ่มต้นจากการเลือกใช้ดาบคู่เป็นหลักตั้งแต่เริ่มแรกก็เพราะสกิลแบบกลุ่มที่หวังผลได้ของสายไม้เท้านั่นกว่าจะมาก็ปาไปถึงเลเวล 52 และที่สำคัญคือหากเราเลือกเล่นสายคทาเป็นหลักจะมักเกิดคำถามว่า “ทำไมไม่เล่น Incar Magician ไปเลยล่ะ โจมตีได้แรงกว่าอีก?” นี่แหละคือเหตุผลที่ทำให้เราต้องเล่น Twin Blade และเก็บสกิลสาย Staff ไว้คอยยิงสนับสนุนถึงจะสมบูรณ์แบบที่สุด
แนวทางการอัพสกิลเลเวล 1-15
แนวทางการอัพสกิลเลเวล 15-32
แนวทางการอัพสกิลเลเวล 32-43
แนวทางการอัพสกิลเลเวล 43-52
แนวทางการอัพสกิลเลเวล 52-60
แนวทางการอัพสกิลเลเวล 60-74
แนวทางการอัพสกิลเลเวล 74-83 (รีสกิล)
พอถึงเลเวล 83 แล้วทำการรีสกิลกับสเตตัสได้เลยครับเพราะสกิล Cosmos ที่จะมานั้นทั้ง 2 สายนั้น จะช่วยทำให้เราเบาแรงได้อย่างมาก ทั้งการเก็บเลเวลหรือสนุกกับการ PVP ก็ตาม สกิลที่เบาๆ ขั้นแรกๆ อย่าง Tarantula, Aldebaran, Tentator, Blood Bat นั้นลบทิ้งออกไปได้เลยครับ
แนวทางการอัพสกิลเลเวล 150
จะเห็นว่าการเล่นสายนี้จะค่อนข้างลำบากในการจัดการสกิลในช่วงต้นของเกมเพราะเราจำเป็นต้องกักตุนสกิลพ้อยน์ไว้ให้เยอะๆ เพื่ออัพสกิลขั้นสูงในช่วงเลเวลกลางประมาณเลเวล 60–83 แต่พอหลังจากได้รีสกิลแล้วรูปแบบการเล่นจะเหมือนกับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ตรงจุดนี้เองผลของการเล่นสาย Hybrid จะปรากฎขึ้นทันทีหลังจากนี้เราจะสามารถใช้สกิลได้ทั้งของ Twin Blade และ Staff ไปพร้อมๆ กันโดยที่ไม่ต้องเสียเวลารอ Cool Down จากสกิลสายใดสายหนึ่ง เพราะเรามีสกิลทั้ง 2 สายแล้วในตอนนี้