กระแสมัลติแพลตฟอร์มกับ Final XIII Fever

แชร์เรื่องนี้:
กระแสมัลติแพลตฟอร์มกับ Final XIII Fever

กระแสมัลติแพลตฟอร์มกับ Final XIII Fever

     เมื่อเกมอาร์พีจีแห่งมวลมนุษยชาติ (หรือเปล่า) อย่าง Final Fantasy XIII ไม่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟอีกต่อไป หลังจากที่ค่าย Square Enix แถลงข่าวในงาน E3 ครั้งล่าสุดว่า FFXIII จะลงให้เครื่อง Xbox 360 ด้วย ผมเชื่อว่าแฟนบอย PS3 หลายคนคงถึงกับตะลึงพรึงเพริดไปตามๆ กัน และอีกหลายล้านคนที่ซื้อเครื่องนี้เพื่อรอเล่นเกมนี้โดยเฉพาะก็ต้องกระอักเลือดไปตามๆ กันด้วย (รวมถึงตัวผมด้วย) จริงๆ ผมมีทั้งสองเครื่องแหละครับ จะเล่นเครื่องไหนก็ได้แต่มันเป็นแง่ของความรู้สึก ผมก็เสียความรู้สึกประมาณนึง เพราะอุตส่าห์ซื้อเครื่อง PS3 มาเพื่อรอเล่นเกมนี้โดยเฉพาะกับเกมภาษาระดับเทพที่คอเกมแนวนี้ต้องเล่นเกือบทุกคน นี่ยังไม่รวมถึงดราก้อนเควสต์ 9 ที่ประกาศลงให้เครื่อง DS ก่อนหน้าอีกนะ นี่ก็... บิ๊กเซอร์ไพรส์เหมือนกัน (ฮา)

 

     จำได้ว่าอย่างเมื่อตอนเด็กๆ สักสิบกว่าปีที่แล้ว เราจะเล่นเกมอย่าง มาริโอ, เซลด้า, ไฟนอลแฟนตาซี หรือดราก้อนเควสต์ เราต้องเล่นในเครื่องฟามิคอม ถ้าอยากเล่นโซนิค แอดเวนเจอร์, แฟนตาซี สตาร์ หรือชายนิ่ง ฟอร์ซ

    นี่ก็ต้องเล่นในเครื่องเมก้าไดรฟ์เท่านั้น หรือเราอาจต้องซื้อพีซีเอนจิ้นเพื่อมาเล่นเกมเกมเดียว จนกระทั่งข้ามมาถึงอีกยุคหนึ่ง ยุคของเพลย์สเตชั่น (ครองโลก) เซก้าแซทเทิร์น และนินเทนโด 64 บุกทำตลาด ก็เริ่มมีเกมมัลติแพลตฟอร์มออกมาให้เห็น (จริงๆ อาจมีมาก่อนหน้านี้แต่ผมนึกไม่ออกจริงๆ ครับ..ง่า...) อย่างค่ายแคปคอมนี่เขามีเกมมัลติมานานแล้วนะครับ เกมอย่าง สตรีทไฟเตอร์ ซีโร่ หรือแวมไพร์ ฮันเตอร์ ก็ลงให้ทั้งเพลย์สเตชั่นและเซก้าแซทเทิร์น

 

      ไหนยังมีเกมตระกูลแส้อย่าง Castlevania ของโคนามิ ก็ออกให้ทั้งเครื่องเกมทั้ง 3 รุ่น ตระกูลคิงออฟไฟท์เตอร์ หรือเมทัลสลั๊ก ของค่าย SNK ก็ออกให้ทั้งเพลย์สเตชั่นและเซก้าแซทเทิร์นเช่นกัน ยังมีเกมอื่นๆ อีกมากมายที่ไม่ได้พูดถึงเพราะหน้ากระดาษคงไม่พอแน่ๆ นั่นแสดงให้เห็นว่าจริงๆ แล้ว เกมมัลติแพลตฟอร์มมีมานานแล้ว แต่ไม่ยักมีกระแสแรงเท่าครั้งนี้ หรือว่าชื่อเกมนี้คือ ไฟนอลแฟนตาซี กระแสเลยแรงกระหึ่มโลกได้ขนาดนี้

      จริงๆ ถ้าทำใจเป็นกลางนิดนึงผมก็พอจะเข้าใจค่ายเกมนะครับว่าทำไมต้องทำแบบนี้ เพราะค่ายเกมต่างๆ ต้องการขยายฐานกลุ่มผู้เล่นให้มากขึ้นใหญ่ขึ้น ไม่จำกัดอยู่แต่ในกลุ่มเกมเมอร์ฮาร์ดคอร์แค่กลุ่มเดียว เพราะปัจจุบันกระแสการเล่นเกมในญี่ปุ่นมันเปลี่ยนไปพอสมควร เด็กญี่ปุ่นยุคใหม่กลับนิยมเล่น DS หรือ Wii ซึ่งทั้งสองเครื่องที่ว่าก็ไม่ต้องใช้ทุนทำเกมที่สูงมากๆ และไม่ต้องใช้เวลาทำเกมนาน เน้นเกมง่ายๆ เล่นเพื่อความบันเทิง ขายได้ง่ายๆ เช่นกัน ไม่เหมือนอย่างเกมของเครื่อง PS3 ที่ใช้ทุนสร้างค่อนข้างสูงต้องทำกราฟิกให้สวยและใช้เวลานานมากๆ กว่าจะได้เล่น (นี่ไม่ได้แขวะนะแค่ประชด ฮา...) แถมเกมหลายๆ เกมเมื่อออกวางขายยอดขายก็สู้เกมของ Wii หรือ DS ไม่ได้ อย่างเมทัลเกียร์ โซลิด ที่หลายๆ คนรอคอย ก็ทำยอดขายเปิดตัวในญี่ปุ่นไปไม่ได้ถล่มทลายมากมายอะไร (ในความคิดสำหรับผมนะครับ) แต่ดูอย่างดราก้อนเควสต์ 5 รีเมคสัปดาห์แรกยอดขายหกแสนกว่า อาทิตย์ต่อๆ ไปคงทำยอดถึงล้านได้ไม่ยาก (อัพเดทเพิ่มตอนนี้ล้านกว่าแล้ว) นี่ขนาดแค่เกมรีเมคที่แทบไม่ได้ใช้ทุนสูงอะไรมากมาย มันจึงเกิดความเสี่ยงในแง่ของนักลงทุนถ้าจะหวังเอาแค่กลุ่มลูกค้าในประเทศหรือกลุ่มเกมเมอร์ฮาร์ดคอร์แค่กลุ่มเดียวมันก็คงจะเสี่ยงต่อยอดขายเกินไป จริงอยู่ที่เครื่อง Xbox 360 อาจทำตลาดได้ไม่ดีในญี่ปุ่น แต่ในอเมริกา เครื่อง Xbox 360 กลับทำผลงานได้อย่างดีทีเดียว อเมริกาเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ลองดูยอดขายของเกมอย่าง Halo 3 หรือ GTA 4 ที่ทุบสถิติถล่มทลายขนาดนั้นทาง Square Enix ย่อมอยากให้ FFXIII เป็นอย่างสองเกมนี้อยู่แล้ว ซึ่ง Square Enix เองก็อยากดันตัวเองจากระดับประเทศสู่ระดับโลกอยู่แล้วด้วย



เกมมัลติชื่อดังจาก SQEN ที่เอาใจคนเล่นทั้ง 2 เครื่อง

      ด้วยเหตุนี้ผมจึงเข้าใจว่าทำไมค่าย Square Enix จึงตัดสินใจเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับไมโครซอฟท์ก่อนหน้านี้ โดยชิมลางส่งดราก้อนเควสต์ 9 ลงให้เครื่อง Nintendo DS ซึ่งสร้างกระแสฮือฮาพอสมควร และตามด้วยการประกาศเกมอาร์พีจีฟอร์มใหญ่น่าเล่นอย่าง The Last Remnant และ Infinite Undiscovery ต่อด้วยภาคต่อของอีกอภิมหาเกมอีกหนึ่งเกม Star Ocean 4 ให้โลกได้ตะลึงกัน ลงให้กับ Xbox 360 และสุดท้ายล่าสุดกับอภิมหาโคตรอภิมหาเกมอาร์พีจี อย่าง Final Fantasy XIII ให้โลกได้ตะลึงกันอีกที และแบรนด์อย่างไฟนอลแฟนตาซีนี่แหละที่เหมาะสมที่สุด ที่จะส่ง Square Enix โกอินเตอร์ไปสู่ค่ายเกมระดับโลก นี่ยังไม่รวมค่ายอื่นๆ ที่บุกอเมริกามาก่อนหน้านี้แล้ว หรืออีกหลายๆ ค่ายที่กำลังจะไปทำตลาดอเมริกา

      ปัจจุบันคนเล่นเกมมีหลายเพศหลายวัย มีรสนิยมการเล่นเกมที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นค่ายเกมหลายๆ ค่ายคงไม่อยากเลือกที่จะจำกัดการเล่นเกมอยู่ที่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และคงยากที่จะหาเกมเอ็กซ์คลูซีฟที่จะลงเฉพาะเครื่องใดเครื่องหนึ่งอีกต่อไปในอนาคต...

ผลงานจากทางบ้าน โดย ARTRAGORN

 


 

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ