Star Wars: The Force Unleashed : พลังฟอร์ซที่มี ท่าจะยังไม่มากพอ

แชร์เรื่องนี้:
Star Wars: The Force Unleashed : พลังฟอร์ซที่มี ท่าจะยังไม่มากพอ

Star Wars: The Force Unleashed 

พลังฟอร์ซที่มี ท่าจะยังไม่มากพอ

Giancarlo: น่าเสียดายมากที่เราไม่ได้เห็นพลังฟอร์ซเหมือนกับที่ถูกสัญญาเอาไว้ใน The Force Unleashed ที่มีเนื้อเรื่องอยู่ในช่วงระหว่าง Episode III และ Episode IV จริงๆ แล้วเกมนี้น่าจะเปลี่ยนจากชื่อภาคปลดปล่อยพลังฟอร์ซ ไปเป็นเก็บกักพลังฟอร์ซไว้มากกว่า เพราะจะมีแค่ฉากแรกๆ เท่านั้นที่คุณจะสามารถใช้ฟอร์ซในการจัดการกับเหล่าศัตรูที่ดาหน้ากันเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นพวก Stormtrooper, Rodian หรือ Felucian ก็ตาม แต่หลังจากนั้นไม่นาน พวกศัตรูก็จะคิดค้นกลเม็ดต่างๆ มาคอยดักไม่ให้คุณสามารถใช้พลังฟอร์ซใส่มันได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการกางม่านพลัง ไปจนถึงอะไรก็ไม่รู้ที่เราไม่สามารถอธิบายได้ ซึ่งมันทำให้จุดเด่นของเกมนหายไปแบบไร้ร่องรอย

     แน่นอนว่าการทำเช่นนั้นทำให้คุณไม่เก่งถึงขนาดซัดพลังฟอร์ซใส่ศัตรูทุกตัวที่บุกเข้ามาได้ เพราะมันคงจะง่ายเกินไปหน่อย ดังนั้นคุณจึงต้องหาวิธีอื่นในการกำจัดศัตรูที่งี่เง่ามากๆ ในเกมนี้แทน อย่างไรก็ตามมันไม่สนุกเลยที่เกมนี้กลับมีระบบการต่อสู้ที่แย่มาก โดยเฉพาะการควบคุมที่ตอบสนองไม่ทันการบังคับของผู้เล่น (คิดซะว่าคุณกำลังเล่นเกมแอ็กชั่นแบบออนไลน์ที่มันจะกระตุกไปตลอดเกม) ทำให้การใช้คอมโบต่างๆ นั้นยากขึ้นเป็นเงาตามตัว

      แต่ถึงอย่างไร เกมนี้ก็ยังเป็นเกมที่ดูดีพอสมควร และคงทำให้พวกสาวก Star Wars ได้สนุกกับเนื้อเรื่องของเกม ถ้าหากพวกเขามองข้ามบทที่ซ้ำซากจำเจนิดหน่อยนี้ไปได้ แต่อย่าหวังว่าจะให้ระบบการเล่นมาเสริมแทนในกรณีที่คุณไม่ชอบเนื้อเรื่องเลย เพราะหาส่วนดีไม่ได้จริงๆ

Milkman: ผมรู้สึกสับสนกับเกมนี้พอสมควร ในมุมหนึ่ง ความใส่ใจของผู้พัฒนาแสดงออกมาให้เห็นในเรื่องราวของเกม (ที่ผมว่าดีพอๆ กับเนื้อเรื่องของ Star Wars จริงๆ และของในเกม Knights of the Old Republic เลย) รายละเอียดของกราฟิก และการใช้ฟอร์ซที่เป็นแกนหลักของเกม ทำให้เกมนี้น่าจะเหมาะสมกับชื่อของ Star Wars แต่ในอีกมุมหนึ่ง มันยากมากที่เราจะมองข้ามระบบของเกมไปได้ ฉากแต่ละฉากใหญ่มาก แน่นอนว่าทำให้คุณได้สนุกและสำรวจมากกว่าเดิม แต่บางครั้งก็ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า เมื่อไหร่จะถึงตอนจบของฉากนี้เสียที มุมกล้องก็บังคับให้คุณต้องคอยปรับไปปรับมาเอง (ยังดีที่มีให้ปรับ) ทำให้การผจญภัยครั้งนี้ คุณต้องไปออกแรงและเสียเวลากับเรื่องไม่จำเป็นมาก สุดท้ายแล้ว ท่าทางการเคลื่อนไหวของตัวละคร และ AI ของศัตรูนั้นมันดูแย่มาก ทำให้เกมนี้ดูเหมือนกับเกมแอ็กชั่นมุมมองบุคคลที่สามธรรมดาจากปี 2542 เพียงแต่ปัญหามันอยู่ที่ปีนี้คือปี 2551 นะครับ ก็ต้องนับว่าทีมพัฒนานั้นมีความทะเยอะทะยานสูง แต่สุดท้ายแล้วกลับล้มเหลวไม่เป็นท่า

Andrew P: เพื่อที่จะขยายจากที่ Giancarlo กล่าวมานะครับ เกมนี้เป็นเหมือนกับการล่อให้เราติดเกม ด้วยการเอาพลังฟอร์ซที่น่าสนใจอย่าง Force Grip หรือ Force Push ในช่วงต้น ก่อนที่จะโดนเหล่าศัตรูขนม่านพลังมาต่อต้านกันยกใหญ่จนฟอร์ซแทบจะไร้ประโยชน์ไปเลย จริงอยู่ที่มันทำให้ผู้เล่นจะต้องคิดแผนใหม่มาสู้บ้างนอกจากใช้ฟอร์ซอย่างเดียว แต่ถ้าหากเหล่าศัตรูมากหน้าหลายตาทั้งหลายรุมยำคุณจนเละ (ล้มลงไปยังโดนอัดซ้ำเลยครับ) นั่นน่าจะเป็นช่วงเวลาที่คุณจะต้องปลดปล่อยพลังฟอร์ซให้ออกมาอาละวาดจนสะใจ แต่จริงๆ แล้ว ผมกลับต้องรีบหาที่กำบังเพื่อจะชาร์จพลังฟอร์ซใหม่ และมองหาพวกลูกกระจ๊อก Stormtrooper เพื่อกำจัดแล้วเอายาเพิ่มพลังชีวิตมาใช้ อืม... ตัวผมช่างเป็นพวกซิธที่น่าเกรงขามจริงๆ นะเนี่ย

      แม้ว่าระบบการต่อสู้ที่ดูเหมือนจะดีแต่กลับทำออกมาแย่ แต่เกมก็มีข้อดีเบียดเข้ามาด้วย เช่น ฉากรอบตัวนั้นถูกเรนเดอร์มาได้อย่างสวยงามตลอดทั้งเกม ในส่วนของเนื้อเรื่อง ถึงแม้ความเป็นแฟนตัวยงของ Star Wars ภายในตัวผมยังไม่ยอบรับเนื้อเรื่องภาคนี้ว่าเกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลักของ Star Wars แต่แค่เนื้อเรื่องของเกมนี้ก็ชวนให้น่าติดตามไปจนจบเกมแล้ว โดยเฉพาะฉากไคลแมกซ์ที่เกิดขึ้นบนสถานที่อันคุ้นหูคุ้นตากันดีสำหรับแฟนๆ Star Wars

PS3/XB360

ผู้จัดจำหน่าย: LucasArts
ผู้พัฒนา: LucasArts
จำนวนผู้เล่น: 1 คน
ESRB: 13 ปีขึ้นไป

การให้คะแนน
Giancarlo C ปานกลาง
Milkman C ปานกลาง
Andrew P. B- ดี

ข้อดี: พลังฟอร์ซไงล่ะ
ข้อเสีย: ระบบต่อสู้
สิ่งที่น่ากลัว: บั๊กเสียงในเวอร์ชั่น PS3 และการเข้าไปติดในกำแพงทั้งสองเวอร์ชั่น
 

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ