Indiana Jones: The Original Adventures : แนะนำก่อนออกผจญภัย [ตอนที่ 1]

แชร์เรื่องนี้:
Indiana Jones: The Original Adventures : แนะนำก่อนออกผจญภัย [ตอนที่ 1]

      กลับมาผจญภัยค้นหาขุมทรัพย์สุดขอบฟ้ากันอีกครั้งสำหรับเกม Indiana Jones แต่คราวนี้มาในรูปแบบตัวต่อเลโก้ที่มีหน้าตาน่ารักๆ มาร่วมผจญภัยในป่าประเทศแอฟริกาใต้และดินแดนที่เต็มไปด้วยอารยธรรมโบราณและประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน

     สำหรับเกม Indiana Jones: The Original Adventures นั้น จะแบ่งออกเป็นสามฉากใหญ่ๆ คือ Raiders of the Lost Ark, Temple of Doom และ The Last Crusade ซึ่งภายในสามฉากนี้ก็จะมีเป็นฉากย่อยๆ แยกลงไปอีก คุณสามารถเลือกเล่นฉากใดก่อนก็ได้ โดยเนื้อเรื่องของทั้งสามฉากนี้จะไม่เกี่ยวพันกัน

     ในเกมนี้นอกจากคุณจะได้รับบทเป็น Dr. Jones แล้ว ยังสามารถควบคุมเพื่อนผู้เล่นอีกคนได้ด้วย สลับการเล่นกันได้ สำหรับการควบคุมสามารถใช้การบังคับผ่านคีย์บอร์ด เช่น กดปุ่ม K เพื่อเปลี่ยนตัว, ปุ่ม U เพื่อกระโดด, ปุ่ม J ใช้อาวุธ (แส้, ปืน, ไขควง) หรือกดปุ่ม H เพื่อต่อสู้แบบประชิดตัว เป็นต้น

      หลังจากเล่นผ่านฉากนั้นๆ มาได้ สามารถกลับไปเล่นฉากนั้นใหม่ได้อีกครั้ง เพื่อเก็บไอเทมลับหรือหีบสมบัติที่ยังตามหาไม่เจอให้ครบ คุณเรียกรูปแบบการเล่นนี้ว่า Free Play

     ใน Barnett College จะแบ่งเป็นห้องๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันออกไป เช่น Main Hall เป็นห้องส่วนกลางใช้สำหรับเลือกแผนที่สำหรับการเล่นฉากต่างๆ Library เป็นห้องสมุดที่ใช้ในการปลดล็อกตัวละคร เมื่อคุณถูกใจตัวละครคนไหนสามารถเลือกซื้อตัวละครเหล่านั้นได้เลย Mail Hall เป็นห้องปลดล็อกไอเทมพิเศษ หรือห้อง Classroom เป็นห้องใช้รหัสลับในการปลดล็อกใส่รหัสปลดล็อกตัวละครและไอเทมพิเศษ (คุณสามารถดูรายละเอียดการปลดล็อกใส่รหัสปลดล็อกตัวละครและไอเทมพิเศษได้ในแผ่นดีวีดี ในหมวด Extra) กลับมาที่ Main Hall ในมหาวิทยาลัย Barnett College เลือกฉากที่ต้องการเล่น โดยในที่นี้ผมขอเลือกเล่นฉาก Raiders of the Lost Ark ก่อน มาร่วมผจญภัยพร้อมกันได้เลยครับ

Raiders of the Lost Ark

Chapter 1: Lost Temple

      คุณจะได้รับภารกิจในการเสาะหาหน้ากากทองคำที่อยู่ในป่าลึกร่วมกับเพื่อนเดินทางของคุณ เริ่มจากคุณจะอยู่ในฉากที่เป็นป่าลึก พยายามเก็บไอเทมอย่างไขควงและหัวใจเพื่อช่วยให้เพิ่มพลังและช่วยฟื้นคืนชีพ ข้ามเถาวัลย์ไปอีกฝั่งหนึ่ง เมื่อมาถึงกำแพงหิน เปลี่ยนตัวมาเป็นเพื่อนคู่หู ขุดแท่นที่ฝังอยู่ใต้ดินเพื่อใช้ในการเปิดประตู จากนั้นนำไปวางตรงข้างกำแพงหินเพื่อเปิดเข้าไปยังด้านใน ต่อเลโก้ให้เป็นเรือ ขึ้นเรือเพื่อข้ามไปยังอีกฝั่ง ระวังจระเข้เอาไว้ด้วย เดินมาถึงกำแพงหินอีกครั้ง วิธีผ่านไม่ยากครับ ให้โหนเถาวัลย์พร้อมกันกับเพื่อน กำแพงหินก็จะเปิดขึ้น (คอยระวังเจ้าแมงมุมเอาไว้ด้วยล่ะ) เข้าไปยังถ้ำด้านในแล้วให้ยกลังไม้ไปวางทับปุ่มสีเขียว จากนั้นให้คุณไปยืนทับปุ่มสีส้ม เพื่อเปิดทางให้คู่หูไปหมุนกลไกตรงด้านล่าง ต่อเลโก้เป็นสะพานไม้เพื่อขึ้นไปด้านบน เดินทับพื้นตัวต่อสีเขียวเพื่อเปิดประตูเข้ามายังด้านใน ดึงเถาวัลย์และเก็บแม่กุญแจที่หล่นอยู่บนพื้นไปใส่ในฟันเฟืองที่อยู่ติดกับกำแพงหิน หมุนกลไกเพื่อเปิดทางไปเก็บตุ๊กตาทองคำที่อยู่ตรงแท่นด้านหน้า เมื่อหยิบตุ๊กตาทองคำก็ให้วิ่งหน้าตั้งกลับออกมาได้เลยครับ เนื่องจากถ้ำกำลังจะถล่มลงมาแล้ว หลังจากนั้นคุณจะเจอกับพวกคนป่า ตรงไปยังแม่น้ำด้านล่างทันที ประกอบชิ้นส่วนของเครื่องบินให้ครบ ระวังพวกคนป่าเอาไว้ด้วย เมื่อประกอบชิ้นส่วนต่างๆ ได้ครบพร้อมซ่อมแซมเสร็จแล้ว กระโดดขึ้นไปบนเครื่องบินหนีไปในทันที เพียงเท่านี้คุณก็จะรอดพ้นจากเงื้อมมือพวกคนป่า

Chapter 2: Into the Mountains

      เริ่มต้นในฉากนี้คุณจะอยู่ที่บาร์เบียร์แห่งหนึ่งและมี Marion เพื่อนสาวมาร่วมในการผจญภัยด้วย (เธอจะกระโดดได้สูงกว่า Indiana Jones) พยายามหาทางเก็บหีบสมบัติที่อยู่ในห้องนี้ก่อนครับ ไม่ยาก ประกอบตัวต่อเลโก้ให้เป็นเปียโน เก็บไขควงสีทองและสีเงินเพื่อสะสมไว้ซื้อไอเทมพิเศษหรือใช้ปลดล็อกตัวละคร ให้ Marion กระโดดเกาะสะพานไม้ที่ห้อยอยู่ด้านบน จะปรากฏกุญแจสีทองหล่นลงมา ให้ Indiana Jones เป็นคนเก็บกุญแจก็ได้ นำกุญแจไปเปิดประตู หลังจากนั้นจะมีบอสเป็นชายชุดดำถือปืน (เขาเป็นคนที่แอบติดตามคุณในตอนอยู่บนเครื่องบินโดยสารแล้ว) จัดการเขาซะ

     หลังจากออกมาจากบาร์เบียร์ที่กำลังไฟไหม้พร้อมกับ Marion เพื่อนสาวของคุณแล้ว ซ่อมเครื่องจักรที่อยู่ด้านข้าง เมื่อเครื่องจักรทำงานแล้ว นำคบไฟไปจุดระเบิดที่หน้าถ้ำ ประกอบตัวต่อเลโก้สีขาวให้เป็นแผ่น จากนั้นยกแผ่นเลโก้แล้วนำไปวางตรงฐานสีเขียว ให้เกาะที่จับไต่ตามหน้าผามาเรื่อยๆ ลงมายังอีกฝั่งหนึ่ง เก็บคบไฟเอาไว้ก่อน คุณจำเป็นต้องใช้มันในภายในหลัง ให้คุณมายืนอยู่ตรงแผ่นเลโก้สีน้ำตาล Indiana Jones จะใช้แส้โหนเถาวัลย์เพื่อเป็นแรงผลักให้ไปยังฝั่งถัดไป ใช้คบเพลิงจุดชนวนเพื่อให้วัตถุไวไฟระเบิด ช่วงนี้คอยระวังพวกศัตรูเอาไว้ด้วย

      ต่อตัวเลโก้ให้กลายเป็นสะพาน หลังจากนั้นเลื่อนสะพานไม้กลับไปรับ Marion ที่อยู่อีกฝั่ง ขึ้นไปดันวัตถุไวไฟที่อยู่ทางด้านบนให้ตกลงมาด้านล่าง เรียงวัตถุไวไฟให้เรียบร้อยก่อนจนมันกลายเป็นแท่งระเบิดขนาดใหญ่ จุดชนวนระเบิดเพื่อเปิดทางเข้าไปยังถ้ำด้านใน

      ค้นหากุญแจทองแล้วนำมาหมุนเข้ากับฟันเฟือง เชือกสีขาวจะหย่อนลงมา หาทางไปทางฝั่งขวามือให้ได้ ใช้รูปปั้นยักษ์ให้เป็นประโยชน์ เมื่อออกมาทางด้านนอกถ้ำแล้ว หาทางเชื่อมต่อสะพานให้ได้ ยิงรถบรรทุกด้วยเครื่องยิงจรวดเพื่อเปิดทางไปยังฉากถัดไป

Chapter 3: City of Danger

      โยนกล้วยหอมไปให้เจ้าลิงน้อยเพื่อแลกกับไขควง (จำทริกนี้ไว้เพราะต้องใช้บ่อยมาก) ช่วงนี้จะมีศัตรูเข้ามาก็จัดการให้เรียบ ใช้หมัดต่อยระยะประชิดจะดีมาก แล้วค้นหากุญแจสองดอกมาเสียบไว้ที่ประตูก็จะผ่านไปได้

      เมื่อเข้ามาด้านในแล้ว ให้เดินตรงไปตามทางเรื่อยๆ เมื่อเจอรถม้า ประกอบอุปกรณ์ด้านหน้าให้เสร็จแล้วจัดการลากรถม้าออกมา คุณจะพบทางเข้าสู่ฉากฉัดไป

      หลังจากนั้นเดินจัดการกับศัตรูมาเรื่อยๆ แล้วให้เดินขึ้นบันไดทางด้านบน เมื่อมาถึงด้านบนแล้วจะเห็นเจ้าลิงน้อยถือระเบิดอยู่ ใช้แส้เกี่ยวไปยังเหล็กกั้นเจ้าลิงน้อย เมื่อเหล็กกั้นพังลงมาแล้ว เดินไปเก็บกล้วยหอมทางด้านขวามือแล้วโยนขึ้นไปแลกระเบิดมาจากเจ้าลิงน้อยพร้อมกับแก้ปริศนาอีกเล็กน้อย ไม่ยากครับ

      เมื่อเดินขึ้นมาถึงดาดฟ้า หาไขควงไปซ่อมเครื่องจักร ค้นหากล่องเครื่องมือสองกล่อง เพื่อสร้างเป็นคานยกเพื่อเปิดช่องทางเข้าสู่ฉากถัดไป

       ปลอมตัวโดยการหาหมวกของตำรวจมาใส่ เดินกลับไปยังสถานีตำรวจ เดินไปเคาะหน้าต่างที่อยู่ตรงกำแพง จากนั้นจะมีการสำรวจตรวจตราสักพัก เขาจะเห็นว่าเป็นตำรวจเหมือนกันก็ให้ผ่านเข้าไปได้ คอยระวังระเบิดเอาไว้ด้วย ตรงไปด้านในประกอบชิ้นส่วนเลโก้ให้กลายเป็นรถบรรทุก จากนั้นขับออกมาด้านหน้าอีกครั้ง เลี้ยวเข้าสู่อีกประตูหนึ่งแล้วเข้าไปยังประตูด้านในก็จะผ่านฉากนี้แล้วครับ

Chapter 4: Well of Souls

       สำหรับในฉากนี้คุณจะตกไปในอุโมงค์แห่งหนึ่ง ซึ่งข้างในนั้นจะมีสมบัติและมีกลไกมากมาย และที่สำคัญในฉากนี้มีงู (Indiana Jones เป็นคนกลัวงูด้วย) มี Sallah คู่หูของคุณ (หมอนี่ไม่กลัวงูครับ...) เริ่มแรกให้คุณเดินไปเก็บสมุดสีฟ้าที่ตกอยู่ตกเสา (เป็นสมุดแปลสัญลักษณ์ ใช้ปริศนารูปภาพโบราณที่ติดอยู่ตามฝาผนัง) ใช้แส้ดึงสะพานเพื่อข้ามไปยังฝั่งถัดไป หาทางเปิดประตูหินเพื่อเข้าไปด้านใน ใช้ Sallah ให้เป็นประโยชน์

      แก้ปริศนารูปภาพโบราณ ค้นหาดวงตาสฟิงซ์ให้ให้ครบสองดวงและนำไปใส่คืนที่รูปปั้นสฟิงซ์ที่อยู่ด้านบน คอยแก้ปริศนาบางอย่าง เช่น การค้นหาลูกกุญแจ การการหมุนเสา หรือค้นหาไอเทมที่ซ่อนอยู่ในกำแพง

       เมื่อเข้ามาด้านในได้แล้ว ภายในฉากนี้จะเป็นห้องโถงใต้ดินขนาดใหญ่ ซึ่งมีสมบัติล้ำค่าซุกซ่อนไว้ ค้นหาลูกบอลสีทองให้ครบแล้วนำไปติดตรงผนังถ้ำ หลังจากนั้นจะมีแสงพุ่งตรงไปยังแท่นที่อยู่ตรงกลาง และสมบัติก็จะปรากฏออกมา หลังจากนั้นคุณจะถูกศัตรูจับและขโมยสมบัติไป หลังจากนั้นจะมีการแก้ปริศนาอีกเล็กน้อยก็จะผ่านฉากนี้แล้วครับ

แก้ปริศนารูปภาพโบราณ

ค้นหาดวงตาสฟิงซ์ให้ครบสองดวงและนำไปใส่คืนที่รูปปั้นสฟิงซ์

Chapter 5: Pursuing the Ark

        สำหรับฉากนี้จะค่อนข้างกว้างอยู่พอสมควร และมีภารกิจที่ต้องทำอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการต่อเลโก้เครื่องยกของหรือการเชื่อมต่อรางรถลาก เริ่มจากหากล่องเครื่องมือจำนวนสองกล่องเพื่อนำไปสร้างเป็นตะขอสำหรับยกของ บังคับให้เครนมายกแท่งเหล็กทางด้านซ้าย เพื่อใช้เป็นทางเดินข้ามไปยังสะพานไม้ เชื่อมต่อรางรถลาก (ค้นหาได้ภายในฉาก) กลับไปยังบริเวณที่มีเครนอีกครั้ง ปีนขึ้นบันไดมาด้านบน เดินตามทางมาเรื่อยๆ แก้ไขสถานการณ์ให้ผ่านไปยังฉากถัดไป ต้องร่วมมือกันหน่อยนะจึงจะผ่านไปได้

       หลังจากเข้ามาในฉากนี้แล้ว คุณจะพบกับศัตรูเป็นจำนวนมาก ทั้งยิงปืนแล้วขว้างระเบิดต้องคอยหลบให้ดีๆ

        ปลอมตัวในรูปแบบเดิมเพื่อเปิดประตูให้เข้าไปยังค่ายทหารเมื่อเข้ามาในค่ายทหารแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำคือให้กำจัดศัตรูให้หมดก่อน เพื่อจะได้เก็บไอเทมต่างๆ พร้อมกับกระโดดไปเก็บของได้อย่างสะดวก ค้นหามอเตอร์สองอันมาเสียบไว้ที่หน้าทางเข้า ประตูก็จะถูกเปิดออก

       มาเจอบอสที่ค่อนข้างบ้าพลังเอามากๆ วิธีการกำจัดไม่ยากครับ เพียงหลอกให้เจ้าบอสตัวนี้ชกแท่งเหล็กจนมือปูดก็จะหมดฤทธิ์แล้ว หลังจากนั้นจะมีการต่อสู้อีกเล็กน้อย เอาตัวรอดให้ได้ครับ

 

บังคับให้เครนมายกแท่งเหล็ก

Chapter 6: Opening the Ark

       ค้นหากล่องเครื่องมือเลโก้สองกล่องมาวางไว้ตรงเรือรบ ต้องร่วมมือกันอีกเช่นเคย เช่น เลื่อนสลิงหรือหมุนสวิตช์เพื่อส่งให้อีกคนหนึ่งข้ามฝั่ง เป็นต้น ประกอบกล่องเครื่องมือเลโก้เป็นปืนใหญ่ หาทางสร้างบันไดเพื่อขึ้นไปยังชั้นบน

     เมื่อออกมาสู่ด้านนอกแล้วหาทางข้ามมายังอีกฝั่ง จัดการทหารที่อยู่บนตึกและบริเวณด้านล่าง ซ่อมรถบรรทุกและขับมาพุ่งชนรั้วเหล็ก ขึ้นไปยังบนอาคาร แก้ปริศนาตัวเลข หยิบเครื่องยิงจรวดบริเวณด้านล่าง ยิงไปที่รั้วเหล็กด้านบนเพื่อไปยังฉากต่อไป

     หีบทรัพย์กำลังถูกลำเลียงไปแล้ว นำกลับมาให้ได้ จัดการกับบอสที่อยู่ในฉากนี้ให้ได้ มันจะอยู่บนหน้าผา หาทางขึ้นไปจัดการให้ได้ จากนั้นก็จะผ่านฉาก Raiders of the Lost Ark ได้แล้วครับ

Temple of Doom

Chapter 1: Shanghai Showdown

      สำหรับเหตุการณ์ในภาคนี้จะเกิดขึ้นที่เซี่ยงไฮ้ คุณจะอยู่ที่ภัตตาคารแห่งหนึ่งและโดนลอบวางยาพิษ และในเกมนี้คุณจะมีเพื่อนที่ชื่อ Willie เป็นคู่หูอีกด้วย เริ่มจากให้จัดการเหล่ามาเฟียก่อน คอยระวังปืนกลเอาไว้ให้ดี แล้วหายาแก้พิษจากศัตรูที่อยู่ทั้งสี่ด้านภายในห้อง หยิบดาบที่อยู่ในปากมังกร ขว้างดาบไปยังโล่สีทอง แล้วขึ้นไปยังโล่จัดการกับศัตรู

      คราวนี้คุณจะมีเพื่อนร่วมทางที่ชื่อว่า Short Round เป็นเด็กน้อยตัวเล็ก เขาจะช่วยเหลือคุณได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เริ่มจากคุณต้องหาชิ้นส่วนเพื่อประกอบเป็นรถเลโก้ขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง หาได้ไม่ยากครับ พยายามใช้ Short Round ให้เป็นประโยชน์ เมื่อหาชิ้นส่วนครบแล้ว ให้หาไขควงมาซ่อมรถ คอยระวังพวกศัตรูเอาไว้ด้วย หลังจากนั้นขับรถพุ่งออกไปทางประตู เพื่อเข้าสู่ฉากถัดไป

      ให้ Willie เลื่อนกล่องไม้ที่อยู่ทางด้านบนลงมา ประกอบให้เรียบร้อย เรียกใช้บริการของ Short Round แล้วขึ้นไปเก็บกล่องที่ใส่ชิ้นส่วนใบพัดเครื่องบิน แล้วนำลังไปวางไว้บนพื้นเลโก้สีเขียวในโรงเก็บเครื่องบิน หาอีกหนึ่งกล่องให้ครบ แล้วประกอบให้เป็นใบพัดเครื่องบิน แล้วหาทางให้ใบพัดด้านข้างของเครื่องบินทำงานให้ได้ คราวนี้คุณสามารถผ่านฉากนี้ไปได้แล้วครับ

หยิบดาบที่อยู่ในปากมังกร

Chapter 2: Pankot Secrets

      หลังจากเครื่องบินที่คุณโดยสารร่วงลงมาในป่าแห่งหนึ่ง เก็บไขควงทางด้านขวามือ ระวังโคลนดูด ให้ขึ้นหลังช้างเก็บลังไม้จำนวนสองลังเพื่อนำไปสร้างสะพาน เมื่อข้ามมายังอีกฝั่งหนึ่งได้แล้ว ค้นหากุญแจสีทองเพื่อเปิดประตู อย่าลืมเก็บกล้วยหอมติดมือมาด้วย แลกกล้วยกับเจ้าลิงน้อยเพื่อให้ได้กุญแจเปิดประตู ขึ้นไปแก้ปริศนาอีกนิดหน่อยตรงประตูทางเข้า เสร็จแล้วก็จะผ่านเข้าไปด้านในปราสาทได้แล้ว

     เก็บกุญแจที่ซ่อนอยู่ในระฆังทางด้านขวามือก่อนแล้วหาทางเปิดประตูให้ได้ เดินตามทางมาเรื่อยๆ แล้วให้ Willie เก็บสมุดสีฟ้าเพื่อใช้ในการแก้ปริศนารูปภาพโบราณ กลับออกมาด้านนอกอีกครั้ง ดันกระถางต้นไม้ให้ชิดด้านใน หลังจากนั้นแก้ปริศนารูปภาพที่อยู่บนผนัง ปรากฏประตูลับ พุ่งเข้าไปด้านในเลย

      จัดการศัตรู เลื่อนเตียงนอนไปทางด้านขวามือ สับคันโยก กลับมาต่อเลโก้ให้เป็นหุ่นพร้อมดึงออกมาทางด้านหน้า แล้ววิ่งเข้าประตูลับที่เปิดออกมา สับคันโยกจะปรากฏบันไดลับ หาทางผ่านไปให้ได้ จนเดินมาพบกับแมงมุม วิธีจัดการคือหาไฟคอยไล่พวกมันไป หลังจากนั้นเหยียบปุ่มสามปุ่มพร้อมกัน ประตูก็จะเปิด

Chapter 3: Kail’s Temple

     Willie ก็ถูกจับตัวไป คุณต้องช่วยเธอให้รอดจากการบูชายัญให้ได้ เริ่มจากใช้แส้กระโดดข้ามไปยังอีกฝั่ง นำคบไฟมาติดตรงสะพานเพื่อให้ Short Round ข้ามตามมาได้ แล้วไปเก็บลังเครื่องมือ นำมาวางตรงหน้ารูปปั้นที่เป็นคนนั่ง ช่วงนี้จะมีการแก้ปริศนาเล็กน้อย เพื่อหาทางไปช่วย Willie ให้ได้
ในฉากนี้คุณต้องหาทางสับคันโยกสองตัวที่อยู่ทางด้านขวามือและซ้ายมือ ตรงบริเวณรูปปั้นยักษ์ให้ได้ เมื่อสับคันโยกได้แล้วจะมีบอสปรากฎตัวออกมา ให้จัดการด้วยไฟ โดยการสวมผมปลอมแล้วไปยืนอ้อนวอนต่อหน้ารูปปั้น สักพักไฟก็จะจัดการเจ้าบอสตัวนี้ได้ หลังจากนั้นคุณก็จะสามารถช่วย Willie ให้รอดพ้นจากการบูชายัญได้

Chapter 4: Free the Slaves

      ในขณะที่กำลังจะช่วยเหลือเด็กน้อยที่ทำงานในเหมืองนั้น Short Round ก็จะถูกจับตัวไปอีก ภารกิจในฉากนี้คือต้องช่วย Short Round กลับมาให้ได้ เริ่มต้นคุณจะอยู่ในฉากที่เป็นเหมืองใต้ดิน หาทางซ่อมรถรางเพื่อใช้ในการเปิดประตู ช่วยเหลือเด็กน้อยที่ถูกขังอยู่ในกรง เขาจะช่วยเปิดประตูหาทางออกให้คุณ

      เก็บกล่องเครื่องมือที่อยู่ด้านในก่อน เมื่อเก็บได้แล้ว คุณจะไม่สามารถกระโดดข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามได้ เนื่องจากถือเจ้ากล่องเครื่องมืออยู่นั่นเอง วิธีการผ่านคือ ให้คุณวางกล่องเครื่องมือไว้ตรงขอบหิน จากนั้นกระโดดไปยังอีกฝั่งหนึ่งก่อน กลับมาใช้แส้ดึงกล่องเครื่องมือมาถือไว้ ทำอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ก็จะผ่านได้ครับ นำกล่องเครื่องมือมาใส่ไว้ในเครื่องกลสีน้ำเงิน แล้วเดินตรงไปทางขวามือสุดของฉากหาพลั่วและไขควงพร้อมกับแก้ปริศนาเพื่อหาทางออกให้ได้ (ช่วยเด็กเหมือนเดิม)

     ใช้ไดนาไมท์ระเบิดแท่งเหล็กเพื่อเปิดทางเข้า เดินเข้ามาด้านใน หาทางเปิดบันไดกลเพื่อขึ้นไปด้านบน หาทางปล่อยเด็กน้อยจากกรงขังให้ได้ หาทางลับเพื่อเข้าสู่ฉากถัดไป

      คราวนี้คุณจะได้เจอบอสอีกตัวหนึ่ง เจ้านี่แข็งแรงมาก แถมเมื่อถูกทำร้ายยังสามารถฟื้นคืนชีพได้จากน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้อีกด้วย ไม่ต้องกลัวครับ ก่อนอื่นให้ช่วย Short Round ออกจากห้องขังก่อน แยกน้ำศักดิ์สิทธิ์มาให้ได้ โดยการไล่องค์ราชาตัวน้อยผู้อยู่เบื้องหลังไปให้จนมุม หลังจากนั้นค่อยใช้ไดนาไมท์มาจัดการเจ้าบอสตัวนี้ครับ

 

ใช้แส้ดึงกล่องเครื่องมือ

 

เอาไดนาไมท์ไปชิมหน่อยมั้ย...

Chapter 5: Escape the Mines

      คุณยังอยู่ในฉากเหมืองใต้ดินเหมือนเดิม จัดการเหล่าศัตรูที่ออกมาต้อนรับให้เรียบร้อย หาทางซ่อมรางและรถเลื่อนให้ทำงานได้อีกครั้ง เลื่อนรถรางให้ไปจอดจนสุดราง แล้วค้นหากลไกที่จะสามารถนำรถรางขึ้นมาด้านบนให้ได้ จากนั้นให้ขึ้นรถเลื่อนเพื่อหลบหนีศัตรู ช่วงนี้คุณจะได้นั่งอยู่บนรถรางและพยายามตีเครื่องหมายบอกทางให้ครบตามจำนวนที่กำหนดไว้ก็จะหาทางออกได้แล้วครับ

Chapter 6: Battle on the Bridge

      โอ้...น้ำท่วมแล้ว ไม่ต้องคิดอะไรมากครับ ให้วิ่งหนีอย่างเดียวเลย ออกมาด้านนอกได้แล้วหาทางขึ้นมาด้านบนให้ได้ เดินไปตามทางเรื่อยๆ คอยระวังหลุมกับดักและเหล่าศัตรูตัวร้ายด้วย หากต้องการพรางตัวสามารถหลบอยู่หลังกอไม้ได้ครับ หาทางเปิดประตูกลรูปหัวกะโหลก โดยการค้นหาชิ้นส่วนเลโก้ให้ครบสามสี

      เดินตามแท่งหินมาทางด้านล่าง ใช้แส้ทำลายจุดยืนชมวิว ช่วงนี้จะต้องเดินผ่านหน้าผาและโขนหินตลอดทาง กะจังหวะกระโดดให้ดี รวมถึงการแก้ปริศนาเล็กน้อย คุณผ่านได้แน่นอนครับ (ใช้ Short Round ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด)

     คุณจะได้พบกับบอสที่เป็นหัวหน้าเผ่าคนป่า เขาจะอยู่บนหน้าผา วิธีกำจัดเจ้าบอสตัวนี้ไม่มีอะไรมาก แค่คอยจัดการลูกน้องมันก่อน แล้วหยิบอาวุธ เช่น ดาบหรือหน้าไม้ ยิงไปที่ห่วงสีทองตรงสะพานไม้ หลังจากนั้นบอสจะลงมาต่อสู้ด้วย ให้ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะผ่านได้แล้ว

นำชิ้นเลโก้มาไว้ตรงหัวกะโหลกให้ครบ ประตูก็จะเปิด

ติดตามต่อได้ที่ >> Indiana Jones: The Original Adventures : แนะนำก่อนออกผจญภัย [ตอนที่ 2]

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ