โอตากุบุก! คู่มือท่องโตเกียวสำหรับเกมเมอร์ !!!

แชร์เรื่องนี้:
โอตากุบุก! คู่มือท่องโตเกียวสำหรับเกมเมอร์ !!!

โอตากุบุก!

คู่มือท่องโตเกียวสำหรับเกมเมอร์

อยากไปซื้อเกมที่ญี่ปุ่นใช่มั้ย?

งั้นเราขอแนะนำแหล่งเกมให้คุณๆ ได้รู้จักกัน

 

ชินจุกุ

      เป็นสถานที่คุ้นตาจาก เกมหลายๆ เกมอย่าง Yakuza (PS2) ของเซก้าหรืออาจจะเคยผ่านตาอีกครั้งสองครั้งในหนังบางเรื่อง แต่ชินจุกุซึ่งเป็นย่านที่มีชื่อเสียงในแง่ไม่ค่อยจะดีนักของโตเกียวนั้น ถึงจะเป็นย่านที่เด่นเรื่องสถานที่เที่ยวกลางคืน แต่ย่านนี้ก็ยังมีอะไรให้นักเล่นเกมได้จับจ่ายซื้อหากันมากไม่แพ้ย่านที่เด่นในเรื่องเกมมากกว่าอย่างอากิบาฮาระเลยด้วยซ้ำครับ

     ไม่ว่าจะเป็นร้านอย่าง Sofmap, Bic Camera, Sakuraya หรือ Yodobashi Camera ในย่านนี้ต่างก็มีทั้งเกม เครื่องเกม คู่มือเกม และอุปกรณ์เสริมให้คุณเลือกซื้อกันเพียบจนถือได้ว่าชินจุกุนั้นเป็นย่านที่ถูกมองข้ามในแง่การเป็นแหล่งช้อปปิ้งของวิดีโอเกมที่ดีไปเหมือนกัน

      โดยร้านดังต่างๆ ที่เอ่ยชื่อมานั้นต่างก็เป็นตึกหลายชั้นที่มีสินค้าหลากชนิดไล่เรียงมาตั้งแต่ กาชาปอง (ของเล่นที่มาในแคปซูลที่บรรจุในตู้หยอดเหรียญให้บิดลุ้น) หนังสือการ์ตูน โมเดลตัวละครอนิเมะ (ดังไม่ดัง โป๊ไม่โป๊มีหมด) และยังรวมไปถึงของเล่นชนิดอื่นๆ รวมทั้งเสื้อผ้า ทั้งหมดนี้ทำให้ชินจุกุเป็นเหมือนศูนย์กลางของแหล่งช้อปปิ้งสำหรับเกมขนาดย่อมๆ ได้เลย แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งหนึ่งที่ชินจุกุยังขาดอยู่ นั่นก็คือ ร้านที่ขายเกมย้อนยุคเก่าๆ คือจริงๆ แถวนี้ก็มีเกมเก่าๆ ขายนะครับ แต่จะย้อนไปเก่าสุดถึงยุคของเซก้าแซทเทิร์นเท่านั้น ดังนั้นถ้าใครอยากได้เกมเก่าที่คลาสสิกจริงๆ คงต้องไปที่ย่านอากิฮาบาระจะดีกว่า

ห้ามพลาด: ร้าน Trader (เกมมือสองคุณภาพเหมือนใหม่) ร้าน Sofmap (เกมใหม่ๆ ในราคามิตรภาพ) ร้าน Sakuraya และร้าน Yodobashi Camera (เด่นในทุกด้าน) ร้านหนังสือคิโนะคุนิยะ (แหล่งรวมหนังสือคู่มือเกมที่ครบครัน)

เดินทางไปได้โดย: รถไฟสาย Yamanote Line, Odakyu Odawara Line, Keio Line, Marunouchi Line และ Toei Shinjuku Line


ชิบุยะ

     ฮะจิโกะรักคุณนะครับ ฮ่ง! ใช่แล้วครับ นี่คือสถานที่นัดพบสุดคลาสสิกที่มาโด่งดังถึงอเมริกาในฐานะ “อนุสาวรีย์สุนัขตัวนั้นในเกม The World Ends With You” ซึ่งก็ยังเป็นสิ่งที่ยืนยันอย่างแท้จริงด้วยว่าคุณได้มาถึงชิบุยะแล้ว ที่ซึ่งมีถนนห้าแยกอันโด่งดังและได้ไปโผล่อยู่ในเกม Action RPG บนเครื่อง DS ของค่าย Square Enix จริงๆ แล้วที่ย่านชิบุยะเข้ามาติดอันดับที่เราเลือกมานั้น ส่วนหนึ่งก็เพราะความเป็นแยกถนนที่คอเกมทุกคนควรจะได้ไปสัมผัสด้วยตาตนเองกันให้ได้สักครั้งนึงในชีวิต โดยจะว่าไปในแง่ความเป็นย่านเกมนั้นอาจจะไม่โดดเด่นอะไรเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามครับร้านขนาดใหญ่อย่าง ชิบุยะ ซึทาญ่า ก็เป็นร้านขนาด 8 ชั้นที่อัดแน่นไปด้วย ดีวีดี ซีดี หนังสือ เกมทั้งใหม่และมือสอง ให้คุณได้เลือกซื้อกัน และในย่านติดๆ กันก็ยังเป็นย่านแฟชั่นทันสมัยที่วัยรุ่นวัยจ๊าบชอบมาช้อปปิ้งกันทั้งย่านฮาราจุกุ และ อาโอยามะ โดยรวมแล้วแม้ว่าชิบุยะอาจจะไม่ใช่ย่านเกมที่โดดเด่นแต่ก็ยังเป็นย่านที่คุณๆ ควรจะแวะไปเยี่ยมชมอยู่ดีครับ

ห้ามพลาด: ร้านชิบุยะ ซึทาญ่า (พร้อมสรรพทั้งเกม เพลง หนัง และยังมีร้านสตาร์บัคส์ที่ชั้นล่างสุดอีกด้วย) ร้าน ทาวเวอร์ เร็คคอร์ด (ไม่มีเกมนะครับ แต่เป็นแหล่งรวมซีดีเพลงและดีวีดีหนังที่ครบถ้วนมากมายสุดๆ)

เดินทางไปได้โดย: รถไฟสาย Tokyu Toyoko Line, Yamanote Line และ Tokyo Metro Ginza Line

 อากิฮาบาระ

      ลองนึกภาพ ถนนสายหนึ่งที่สองข้างทางทุกตึกเป็นร้านขายเกมดังๆ ดูนะครับ นั่นล่ะครับสิ่งที่ย่านอากิฮาบาาระเป็น เรียกว่าเป็นเหมือนย่านไทม์ สแควร์ ของร้านเกมเลยก็ว่าได้ แต่ร้านเกมแต่ละร้านในย่านนี้ (ซึ่งมีมากร้านมากชื่อจนยกมาบอกไม่ไหวแน่ๆ) ต่างก็มีจุดเด่นเฉพาะตัวและการตั้งราคาของสินค้าเกมที่แตกต่างกันไปครับ ดังนั้นถ้าใครจะหาของที่ราคาดีราคาถูกจริงๆ คงต้องลงแรงเดินสำรวจให้ทั่วถึงก่อนจะซื้อนะครับ และแม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาย่านอากิบาฮาระอันเป็นเสมือนนครเม็กกะของโลกวิดีโอเกมจะมีการเสื่อมถอยลดขนาดลงไปบ้าง แต่ก็ยังมีของดีที่ซ่อนอยู่อย่างร้าน Super Potato (ไม่อยู่ในภาพประกอบ) ที่เป็นอาคารขนาด 5 ชั้นที่รวบรวมเครื่องเกมสุดคลาสสิกทุกเครื่องที่เคยมีมา และเกมญี่ปุ่นทุกเกมที่คุณไม่นึกฝันว่าจะได้เห็น ไว้อยู่ภายในร้านเดียว เรียกว่าร้านนี้อาจจะเป็นร้านที่เจ๋งที่สุดที่คุณห้ามพลาดแบบสุดๆ เลยก็ว่าได้ แต่ก็อย่าลืมพกเงินไปด้วยเยอะๆ นะครับ เพราะรับรองว่าได้ควักจ่ายกันสนุกสนานแน่นอน

ห้ามพลาด: ห้าง Yodobashi Camera ขนาดใหญ่ยักษ์ (ตึกใหญ่ขนาด 6 ชั้นที่มีครบทั้งเกม ซีดี ดีวีดี เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฮเทค และอีกสารพัดมากมาย) ร้าน Super Potato (ร้านเกมเก่าคลาสสิกที่เจ๋งที่สุดในจักรวาล)

เดินทางไปได้โดย: รถไฟสาย Keihin-Tohoku Line, Yamanote Line, Chuo-Sobu Line, Tokyo Metro และ Hibiya Line

 โปเกมอน เซ็นเตอร์

      อาจจะดูเฉพาะกลุ่มเฉพาะทางไปหน่อย แต่สำหรับ โปเกมอน เซ็นเตอร์ ของค่ายนินเทนโดแห่งนี้ก็ยังถือเป็นที่ที่คอเกมที่ไปญี่ปุ่นแล้วก็ควรจะไปแวะชมเสียหน่อย ไม่ว่าคุณจะรักหรือเกลียดเจ้าตัวประหลาดเล็กๆ เหล่านี้ก็ตาม อย่างน้อยก็อาจจะคิดเสียว่าไปเพื่อที่จะได้พบกับประสบการณ์แบบ... เจอกับฝูงเด็กเล็กที่วิ่งกรูผ่านคุณไปเพื่อไปรุมหุ่นปิกาจู หรือรุมกันแย่งซื้อเสื้อยืดเจ้า Bulbasaur แค่นี้ก็ถือว่าพิเศษแปลกใหม่เป็นประสบการณ์ (กึ่งสยอง) ที่หาที่ไหนไม่ได้แล้วใช่ไหมล่ะ...

ห้ามพลาด: ก็โปเกมอน เซ็นเตอร์นี่แหละครับ มีอยู่ที่เดียวจริงๆ เพราะรอบๆ แถวนั้นไม่มีอะไรอย่างอื่นอีกเลย

เดินทางไปได้โดย: ไปลงสถานีโตเกียวด้วยรถไฟสาย Chuo Main Line, Keiyo Line, Sobu Main Line, Yamanote Line, Yokosuka Line หรือ Marunouchi Line


การเดินทางในโตเกียว

       ที่โตเกียวนั้นไม่เหมือนกับมหานครดังๆ อย่าง นิวยอร์ค, ลอนดอน หรือปารีส ก็คือ  รถไฟทั้งบนดินและใต้ดินของโตเกียวนั้นแต่ละสายเป็นของบริษัทที่ต่างกันไป ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่งเคยไปต้องถือว่าเป็นเรื่องที่สับสนชวนมึนได้ไม่น้อยครับ เพราะแต่ละบริษัทนั้นดันมีตั๋วของใครของมันที่ใช้ด้วยกันไม่ได้และมีค่าโดยสารที่ไม่เท่ากันอีกด้วย (แถมตั๋วส่วนใหญ่ไม่มีภาษาอังกฤษกำกับ) ซึ่งคุณเองจะต้องใช้ตั๋วทั้งตอนเข้าและออกจากสถานีรถไฟ ดังนั้นเราจึงขอแนะนำให้คุณซื้อบัตรเติมเงินยี่ห้อ Suica (Super Urban Intelligent Card) หรือ Pasmo Card ติดตัวไว้จะดีมากครับ เพราะทั้งสองบัตรนี้ใช้ได้กับรถไฟทุกสายและยังตัดเงินแบบอัตโนมัติในทุกสถานีอีกด้วย และถ้าคุณเติมเงินไว้ในบัตร Suica ในจำนวนที่มากพอ คุณยังสามารถนำบัตรนี้ไปใช้แทนเงินซื้อของตามร้านมินิมาร์ทหรือร้านเครื่องไฟฟ้าบางร้านได้ด้วยเช่นกันครับ
 

เรื่องโดย James Mielke แปลและเรียบเรียง ขุนช้าง

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ