ผู้จัดจำหน่าย: Nintendo ผู้พัฒนา: Tecmo / Grasshopper Manufacture จำนวนผู้เล่น: 1 คน CERO: 15 ปีขึ้นไป
Fatal Frame 4 หลอนกันจะๆ ถ่ายกันจะๆ ติดผีแบบจะๆ
AYANAMI: ความคาดหวังในภาคใหม่ที่ระบบการเล่นที่เปลี่ยนไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง ในฐานะแฟนตัวยงของเกม Zero อย่างผมต้องยอมรับว่าทำได้ไม่เลวทีเดียว ในภาคนี้ผมคิดว่าเป็นภาคที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดด้วยระบบที่ใช้กับวีโมท และผลลัพธ์ก็ออกมาดีซึ่งผมก็เคยกลัวอยู่ว่าการบังคับจะทำมายุ่งยากทำให้เกมหมดสนุก ในส่วนระบบการบังคับของภาคนี้จะเน้นการใช้ไฟฉายที่มากขึ้นกว่าภาคเก่าๆ แต่ที่ผมชอบมากกว่าคือการใช้มุมกล้องผ่านไหล่ซึ่งของเดิมใช้มุมกล้องบุคคลที่สามแบบตายตัว ด้วยมุมกล้องแบบนี้เองทำให้การใช้ไฟฉายได้อิสระมากขึ้นบวกกับมุมกล้องผ่านไหล่ทำให้เกมชวนดูระทึกใจและดูน่ากลัวขึ้นกว่าเดิม การควบคุมกล้องก็ไม่ยากมากนัก แต่สิ่งที่ขัดใจผมสุดๆ เลยคือการควบคุมตัวละครขณะที่ถือกล้องไม่สามารถเดินแบบ Side Step ได้ ทำให้รู้สึกว่าเคลื่อนไหวได้ไม่อิสระเอามากๆ จุดนี้ทำมาไม่ปลื้มเลยสักนิด ยังดีหน่อยที่มีปุ่มที่ใช้ล็อกเป้าเพิ่มขึ้นมา (แต่ถ้าได้การบังคับ Side Step ขณะถือกล้องกลับคืนมาจะดีกว่านะ) ระบบอีกอย่างที่เพิ่มขึ้นมาคือการนำคะแนนที่ได้นั้นไปใช้ซื้อไอเทมระหว่างเล่น ทั้งฟิล์มและน้ำยาเติมพลัง การอัพเกรดกล้องนั้นจะเปลี่ยนไปใช้พลอยแทน ระบบนี้ทำให้รู้สึกขาดความกดดันในการเล่นลงไปพอควร (ก็เล่นมีไอเทมให้ตุนได้นี่นา) เรื่องความน่ากลัวก็ยังทำได้ดีเช่นเคย แม้ว่าจะมีมุขเก่าๆบ้างแต่ก็ไม่ได้จำเจเกินไปนัก มีหลายๆ จุดชวนให้ตกใจได้เป็นระยะ ตัวเกมมีเนื้อหาที่เข้มข้นสนุกและน่าติดตามซึ่งซีรีส์นี้ทำเนื้อเรื่องมาได้ดีทุกภาค จุดเด่นอีกอย่างของเกมนี้คือมีความแตกต่างจากเกมสยองขวัญอื่นตรงที่ศัตรูเป็นผีจริงๆไม่ใช่ซอมบี้หรือสัตว์ประหลาด ได้อารมณ์ที่หาไม่ได้จากเกมแนวเดียวกัน สรุปเกมนี้คือความสยองที่กลับมาได้ดีสมที่รอคอยครับ
FOLK: ออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่แฟนประจำซีรีส์นี้มาก่อนนะครับ แต่ก็ขอมาทดสอบความหลอนของเกมนี้ดูสักทีว่าสมคำร่ำลือจริงหรือไม่ ตัวเกมจะแบ่งเป็น 3 ตัวละคร (ผู้หญิง 2 ชาย 1) ให้เราเล่นสลับกันไขปริศนาความหลังของพิธีกรรมลึกลับที่ทำให้ผู้คนกลายเป็นผีกันทั้งเกาะ! เกมนี้มีระบบและการควบคุมที่ง่ายต่อการเข้าใจมาก ถึงแม้จะเป็นภาคแรกที่เปลี่ยนมาลงเครื่อง Wii ก็ตาม แต่ก็มีความลงตัวดี อาจจะมีสิ่งขัดใจนิดหน่อยตรงที่การใช้วีโมทแทนไฟฉายไม่ได้อิสระแบบพวกเกมแนวชี้เป้าทั้งหลายนัก แต่ก็เข้าใจได้ว่าเพราะมีระบบการสะบัดและเขย่าจอยเข้ามา เลยต้องควบคุมในส่วนนี้ไว้ไม่ให้ไวมากจนคนเล่นอาจจะมึนได้ ไฟฉายจะไว้ชี้หาของที่ซ่อนอยู่ตามฉากและให้เราค่อยๆ เอื้อมมือไปหยิบแบบช้าๆ ซึ่งทำออกมาได้ระทึกใจดีทุกครั้ง ในส่วนของการใช้กล้องสู้ผี (มีกล้อง 2 แบบ) นั้นก็ทำได้หลอนบีบหัวใจดีเหลือเกินเพราะต้องถ่ายแบบเฉียดฉิวใกล้ชิดกับผีตลอดเวลาเพื่อให้ได้ความรุนแรงสูงสุด แต่ภาคนี้มีระบบล็อกเป้าด้วยก็ทำให้เกมนั้นง่ายขึ้น
นอกจากนี้เรายังได้บังคับตัวละครชายที่ใช้ไฟฉายติดเลนส์แทนกล้องด้วย แต่อารมณ์หลอนๆ นั้นจะหายไปสู้กล้องไม่ได้เลย (ก็ไฟฉายพี่แกยั่งกะปืนลูกซอง ฉายทีผีกระจุย) ในส่วนของกราฟิกในเกมถือว่าอยู่ในขั้นดีแต่มีกระตุกนิดหน่อยในบางจุด แต่จุดเด่นสุดเลยก็คือเสียงและดนตรีประกอบในเกมที่ทำออกมาได้ดีมาก แต่น่าเสียดายที่เครื่อง Wii ทำระบบเสียงได้แค่ดอลบี้โปรโลจิกซึ่งเสียงจะออกรอบทิศทางแต่ไม่สามารถแยกทิศทางได้แบบระบบ 5.1 ไม่งั้นคงหลอนมากกว่านี้อีก ตัวเกมยังสามารถเล่นได้หลายรอบเพื่อปลดล็อกไอเทมกับชุดใหม่ๆ และเมื่อจบแล้วยังมีมิชชั่นโหมดที่สนุกแถมท้าทายมาให้เล่นอีกด้วย โดยรวมถือว่าเป็นเกมแนวผีๆ ที่หลอนจับจิต แถมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เกมอื่นไม่สามารถเลียนแบบได้ จนทำให้ผมกลายมาเป็นสาวกซีรีส์นี้อีกคนจนได้ครับ
การให้คะแนน
AYANAMI
A
ยอดเยี่ยม
FOLK
B+
ดี
ข้อดี: กราฟิกสวย และยังคงความหลอนได้ไม่เปลี่ยน
ข้อเสีย: ขาดเดินแบบ Side Step ในตอนถือกล้อง ภาพกระตุกในบางครั้ง
ขอบ่นสักนิด: ชุด Luigi เห่ยมาก แถมไม่มีชุดว่ายน้ำให้ปลดล็อคอีกด้วย
