ช่วงนี้รู้สึกว่าไลฟ์สไตล์ของคนทำงานคือ ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อสะสมเงินไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวในฝัน สถานที่ในฝันของหลายๆ คนก็คงหนีไม่พ้น ปารีส, ฟีจี, ญี่ปุ่น, เกาหลี... โอเคผมยอมรับว่าสถานที่เหล่านี้เป็นสถานที่ที่สวยงามเหมาะสมต่อการไปเที่ยวจริง หากคุณทำงานอดทนเก็บหอมรอมริบเงินของคุณสัก... ปีหรือสองปีก็อาจจะมีโอกาสได้ไปเที่ยวสถานที่เหล่านี้สักครั้ง (ไม่รวมค่าใช้จ่ายในส่วนของคนที่คุณอยากจะพาไปด้วย) แต่เราขอนำเสนอสถานที่อันสวยงามไม่แพ้กัน ซึ่งคุณสามารถเดินทางไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องออกไปจากบ้านของคุณ แถมยังได้รับประสบการณ์ที่เราการันตีว่าสนุกประทับใจแน่ๆ นอกจากนั้นงบประมาณในการเที่ยวสถานที่เหล่านี้คงเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของการเดินทางไปจริงๆ
ALPHA CENTAURI
วิธีไป: เล่น Sid Meier's Alpha Centauri
กราฟิกอาจจะดูเก่าไปนิด
แต่ถ้ามีการอัพเดตก็คงจะสวยประมาณนี้
อืม... ตัวเลือกแรกของเราอาจจะดูแปลกเล็กน้อย ทำไมน่ะหรือ? ก็ Sid Meier's Alpha Centauri เป็นเกมที่มีอายุอานามเกือบ 10 ปีแล้ว แถมมุมมองของเกมก็ยังเป็นมุมมองแบบสูงๆ จากด้านบนอีกต่างหาก (ราวกับว่าคุณนั่งมองดาวจากกระสวยอวกาศที่อยู่ในวงโคจรรอบดาว)
ถ้าหากคุณอยากรู้ว่า Alpha Centauri มีรูปแบบและมุมมองการเล่นแบบไหน เราแนะนำให้คุณลองเล่น Civilization ดู... เพียงแต่เนื้อเรื่องของ Alpha Centauri นั้นจะออกแนวแฟนตาซีวิทยาศาสตร์มากกว่า คุณจะเป็นผู้นำกลุ่มผู้เหลือรอดจากโลกที่ต้องพยายามต่อสู้เพื่อแย่งชิงดินแดนบนดาวดวงใหม่ (ชื่อ Planet) แต่พอคุณเล่นไปสักพักคุณก็จะพบว่า Planet นั้นมีความสำคัญและมีความเป็นตัวของมันเอง... มันจะเปลี่ยนแปลง เติบโต ตอบสนองกับผู้อยู่อาศัยใหม่ Planet เป็นเสมือน Earth ใบใหม่ คุณจะได้ตัดสินใจว่าจะเดินเส้นทางผิดๆ เส้นทางเดิม (ถลุงทรัพยากร, ปล่อยสารพิษ, เพิ่มจำนวนประชากรโดยไม่แยแส) หรือว่าอยู่ร่วมกับดาวดาวใหม่อย่างสงบสุข นับว่าเป็นการสื่อข้อความที่สำคัญมากซึ่งทางนักพัฒนาเกมระดับเทพอย่าง Sid Meier ได้ทิ้งไว้ให้เราเมื่อเกือบสิบปีก่อน
ในฐานะสถานที่ท่องเที่ยว Planet เป็นเหมือนการท่องเที่ยวแบบเรียนรู้การอนุรักษ์ธรรมชาติ ถ้าหากคุณรับรูปแบบการเล่นแบบ Turn-Based Strategy และกราฟิกที่ค่อนข้างเก่าได้ Alpha Centauri จะพาคุณไปยังสถานที่ที่น่าประทับใจในรูปแบบที่เอนจิ้นสามมิติรุ่นใหม่ๆ ไม่สามารถทำได้ มันมีทั้งเรื่องราวที่น่าจดจำ บอกเล่าได้อย่างสมจริง และท้ายสุดแล้ว... เมื่อคุณเดินทางกลับมายังโลกแห่งความเป็นจริง มันอาจจะช่วยเปลี่ยนวิสัยทัศน์ในการใช้ชีวิตบนโลกนี้ของคุณ (ระดับเดียวกับนวนิยายดีๆ เล่มหนึ่ง)
DAMASCUS
วิธีไป: เล่น Assassin's Creed
จะเห็นได้ว่าเมืองต่างๆ ใน Assassin’s Creed ล้วนแล้วแต่เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา
คุณจะสามารถกระโดดโลดโผนท่องไปได้ทุกที่ใน Damascus
มันเป็นเรื่องน่าเสียดายที่น้อยเกมนักที่จะนำประวัติศาสตร์มาใช้ให้เป็นประโยชน์ อารยธรรมของมนุษย์เรานั้นมีมายาวนานกว่า 10,000 ปี แต่เกมส่วนใหญ่กลับเลือกใช้ฉากซ้ำๆ ซากๆ อย่างหาด Normandy แต่ Assassin’s Creed กลับเล็งเห็นศักยภาพของการย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ (ลืมเรื่องที่ว่าจริงๆ แล้วเราอยู่ในยุคปัจจุบันไปก่อน) เกมเริ่มต้นด้วยการเท้าความว่าตอนนี้เราอยู่ในยุคสงครามครูเสดนะ... เราต้องเดินทางผ่านหุบเขาเพื่อไปสังหารคนร้ายนะ... โอเคถึงตรงนี้ก็คงยังไม่มีอะไรแปลกใหม่
แต่พอคุณเดินทางไปถึงเมือง Damascus ปุ๊บ คุณก็จะได้พบกับเมืองเปิดขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วย ขอทาน, คนเมา, นักบวช, ทหารยาม, อัศวิน Templar และชาวบ้านตาดำๆ อีกนานับอาชีพ มันเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เป็นเมืองที่มีเสียงคึกคัก โดย Altair (ตัวละครของคุณ) สามารถไปได้แทบทุกที่ของเมือง ไม่ว่าจะเป็น ตรอกซอกซอย, หลังคากระท่อมกระจอกๆ, หน้าต่างหอคอย, ยอดโดมของสุเหร่า เรียกได้ว่าทุกที่ที่คุณเห็นคุณสามารถไปถึงที่นั่นได้ ทีมงานใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยเนรมิตสถาปัตยกรรมยุคสงครามครูเสดขึ้นมาได้อย่างสมจริงในทุกรายละเอียด หากคุณเป็นแฟนนวนิยายจากตะวันออกกลางอย่าง “พันหมื่นราตรี” Assassin's Creed คือเกมที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับเมืองในฝันในยุคที่คุณไม่สามารถเดินทางไปได้แม้คุณจะมีเงินเท่าไรก็ตาม (จนกว่าจะมี Time Machine ใช้)
Liberty City
วิธีไป: เล่น Grand Theft Auto IV
รูปปั้นข้างหลังคุ้นๆ นะ
ขับรถก็ต้องระวังหน่อยเพราะคนใน Liberty City เขาขับคนละฝั่งกับพี่ไทยเรา
นี่คือเมืองที่ไม่มีวันหลับใหล
Liberty ภาษาไทยเราแปลว่า “เสรี” หรือ “อิสระ” ซึ่ง Liberty City ก็เป็นเมืองที่ให้คุณทำอะไรได้อย่างมี อิสรเสรีเหมือนกับชื่อของมัน มันเป็นเมืองที่ออกแบบมาเพื่อการขับรถที่เหมือนกับโลกจริงๆ กล่าวคือ... ถึงแม้ว่าคุณจะเจอไฟแดงแต่คุณก็ยังเลี้ยวขวาได้ (คนอเมริกันเขาขับรถคนละฝั่งกับบ้านเรา) แต่ขอให้หยุดรอรถทางหลักก่อน การขับรถจากจุด A ไปยังจุด B มีความสมจริงกว่าเกมแข่งรถทั่วๆ ไป แต่จุดเด่นจริงๆ นั้นอยู่ที่ “ระหว่าง” จุด A กับจุด B ต่างหาก
ถ้าหากใครเคยไปมหานคร New York จะรู้ว่า Liberty City นั้นลอกเลียนแบบมาจากเมืองที่ไม่เคยหลับใหลแห่งนี้ เขตต่างๆ ของเมือง New York ถูกลอกเลียนแบบมา (ทั้งในส่วนของสถาปัตยกรรม, ผู้คน, เสียง และไลฟ์สไตล์) ลดขนาด แล้วเปลี่ยนชื่อ...ทีมงานสร้างอาคารแต่ละหลัง ตัวละครแต่ละตัว ออกมาอย่างละเอียดด้วยความใส่ใจจนทำให้ Liberty City กลายมาเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาไม่แพ้ New York ต้นฉบับของมัน
แต่ถ้าหากคุณคิดว่า... แล้วอย่างนี้ไปเที่ยว New York เลยไม่ดีกว่าเหรอ? หลายๆ คนที่เคยไปก็จะบอกว่า New York ไม่ใช่เมืองที่สวยงามอย่างที่คิด แต่ Liberty City คือ New York ในแบบภาพยนตร์ มันคือ New York ในยามที่สวยงามที่สุดของมัน ทั้งแสง ทั้งเงา ทั้งบรรยากาศ (ที่แน่ๆ รถไม่ติดเหมือน New York จริงๆ) สถานที่ต่างๆ ที่เป็นจุดเด่นของ New York ถูกจำลองมาอย่างครบถ้วน... เรียกได้ว่า Liberty City เป็นเมืองจำลองของเมืองยุคปัจจุบันที่ดีที่สุดที่คุณสามารถหาเล่นได้ในเกมทุกวันนี้ (แม้ว่ามันจะอยู่เพียงในเครื่องคอนโซลก็ตาม)
Rapture
วิธีไป: เล่น BioShock
Rapture เป็นเมืองขนาดใหญ่ยุค 1960 ที่ตั้งอยู่ใต้บาดาล
ประชากรของ Rapture ออกจะแปลกๆ นะ
เมืองใต้บาดาลหรือ? จริงๆ มันก็ไม่ใช่แนวคิดที่แปลกใหม่อะไร เพราะก่อน BioShock เราก็มีเกมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนวนิยายของ Jules Verne (ผู้เขียนนวนิยายชื่อดังอาทิ Journey to the Center of the Earth และ Twenty Thousand Leagues Under the Sea) อย่าง Timesplitters: Future Perfect ที่ได้พาเราลงเมืองใต้บาดาลมาแล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้เกมจากค่าย Irrational Studio เกมนี้กลายมาเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมควรค่าแก่การเก็บไว้ในความทรงจำของเราก็คือการที่ทางทีมงานใช้ สถานที่ใต้ท้องทะเลสุดลึก, สถาปัตยกรรมยุค 60, ผู้คนซึ่ง (เคย) อยู่อาศัยในสถานที่แห่งนั้น มาบอกเล่าเรื่องราวที่น่าจดจำของตัวละครแต่ละตัว ไม่ว่าจะเป็น Andrew Ryan, "Atlas", McDonogh หรือTenenbaum ความเป็นตัวตนของตัวละครแต่ละคนนั้นสะท้อนออกมาให้เห็นได้ในการออกแบบเมืองใต้บาดาลที่ชื่อ Rapture ในระดับที่ยังไม่มีเกมเกมไหนสามารถลอกเลียนแบบได้
แม้ว่าในภาพรวมแล้ว BioShock จะเป็นเพียงเกม Shooter ที่นำพาคุณผจญภัยไปตามเส้นทางอันมืดมิดที่ผู้พัฒนาได้กำหนดเอาไว้ล่วงหน้า แต่สภาพแวดล้อมของโลกใต้บาดาลแห่งนี้ก็เป็นสภาพแวดล้อมที่คุณไม่สามารถพอเห็นได้ที่ไหนในโลก Big Daddy ผู้พิทักษ์อันเงียบขรึม, Little Sister เด็กน้อยผู้สูบเลือดจากศพอย่างเริงร่า, Splicer อดีตมนุษย์ซึ่งบัดนี้มีชีวิตอยู่อย่างไม่ต่างจากผีดิบ ล้วนแล้วแต่ทำให้ BioShock และ Rapture เป็นสถานที่ที่แปลก... แปลกและน่าพิศวงในแบบเดียวกับบ้านผีสิงที่คุณต้องลองเข้าไปประสบด้วยตนเอง
The Shire
วิธีไป: เล่น Lord of the Rings Online
The Shire บ้านที่สวยงามที่ทั้ง Frodo และ Sam ต่างอยากกลับมา
ประตูกลมๆ แบบนี้เป็นเอกลักษณ์ของบ้านใน The Shire
หลายๆ คนที่ได้ชมภาพยนตร์ไตรภาคเรื่อง Lord of the Rings คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าภูมิทัศน์ในภาพยนตร์นั้นสวยงามขนาดไหน... แต่ถ้าให้เลือก หลายๆ คนคงเลือก The Shire บ้านเกิดอันสุดแสนจะสงบของเหล่า Hobbit เพราะ The Shire เป็นเพียงสถานที่แห่งเดียวในโลก Middle Earth (ทั้งออนไลน์และภาพยนตร์) ที่ไม่มีเหล่าร้ายมาคอยเพ่นพ่าน มันเป็นแหล่งของเหล่าคนตัวน้อยๆ ที่มีความสุขกับชีวิต หัวเราะเริงร่า สูบยาสูบปุ๋ยๆ ในโลกของ Lord of the Rings Online มันเป็นจุดเริ่มต้นของการออกไปผจญภัยยังโลกกว้างของเหล่า Hobbit ทั้งหลาย
Lord of the Rings Online ไม่เป็นเพียงเกม MMO ที่มีเนื้อหายอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังเป็นเกม MMO เกมแรกๆ ที่นำเอาเอนจิ้นกราฟิกรุ่นล่าสุดมาใช้เพิ่มสีสันและความสวยงามให้กับเกม มันทำให้ผู้เล่นสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ได้ในระยะไกล ซึ่ง The Shire นับว่าเป็นสถานที่ที่นำจุดเด่นตรงนี้มาใช้ได้อย่างยอดเยี่ยม จากพื้นที่กว้างๆ อย่าง Brandywine ไปถึง Rushock Bog, จากดินแดนที่แสงอาทิตย์สาดส่องอย่าง Bindbole Woods ทางทิศเหนือไปจนถึงป่าเขียวชอุ่ม Old Forest ทางทิศใต้ทำให้เรารู้สึกได้ว่าทาง The Shire เป็นการนำเอามหากาพย์ของ J.R.R. Tolkien มาทำเป็นเกมด้วยใจรัก ความสวยงามและสมจริงของ The Shire ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องกดปุ่ม M เพื่อเปิดแผนที่... เพียงคุณไปเปิดหนังสือแล้วดูแผนที่ที่ Tolkien วาดเองก็ใช้แทนกันได้