"ผมหวังว่า Aion จะเป็น MMO ที่เป็นดังปุ๋ย มาเติมเต็มความขาดแคลนของแผ่นดินเกมออนไลน์ที่แห้งแล้งอยู่ในขณะนี้"
นี่คือคำกล่าวของคุณกิมแทกจินแห่ง NCSoft (ภาพซ้าย) ในงานแลถงข่าวเปิดวัน OB ของเกม "AION" โดยใจความสำคัญโดยรวมมาจากการเกิดภาวะชะงักงันของตลาดเกมภายในประเทศ (เกาหลี) โดยที่เขาอยากจุดเชื้อเพลิงที่จะช่วยพลักดันมันต่อไป Aion จึงเปรียบเสมือนไอเดียให้กับตลาดเกมภายในประเทศ ซึ่งจะเป็นวิสัยทัศใหม่สู่อนาคต โดยคุณกิมกล่าวต่อว่า "ตั้งแต่วันนี้ผมคงนอนไม่หลับ เพราะพวกเราคงจะต้องทำการเช็คการทำงานทุกอย่างอย่างละเอียดถี่ถ้วน"
หลังจากที่ทางทีมงาน NCSoft ได้ทุ่มเทพัฒนา Lineage 2 กว่า 5 ปี และมันเป็นเกมที่อยู่ในใจของชาวเกม MMORPG ตลอดมา Lineage 2 นั้นมีความรู้สึกที่ตรงไปตรงมาคือมันง่ายต่อการเล่นสำหรับเกมเมอร์ แต่ Aion นั้นเราต้องเล่นด้วยกันเป็นปาร์ตี้ ระบบ RvR และยังมีระบบอีกหลายๆ อย่างเสริมเข้ามา" เขากล่าวในการที่จะมั่นใจได้ว่าวิศัยทันศ์ของ Aion ในตรงกับความต้องการของผู้เล่น ในส่วนของทีมพัฒนาเองก็มีการเปลี่ยนโครงสร้างถึง 3 ครั้ง ซึ่งคุณกิมให้ความสำคัญกับการพัฒนาและตัดสินใจในทุกๆ ขั้นตอน
"ผมอยากจะทำให้ Aion ต้องเป็น MMO ที่เป็นที่นิยม"
นี่คือเป้าหมายทางการตลาดของ "Aion" โดยคีย์แมนคนสำคัญของ Aion กล่าวว่า "สำหรับ Lineage 2 แล้วเป็นเกมที่เหมาะสำหรับคนที่รู้ว่าเกม MMO เป็นยังไง แต่ Aion เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่เคยเล่นเกมแนว MMO มาก่อน ซึ่งเป็นแนวทางที่ดีให้พวกเขารู้จักเกมแนวนี้" 'มันจะต้องเป็น MMO ที่เป็นที่นิยมอย่างแน่นอน' เขากล่าวพร้อมความหวังว่าจะให้เป็นเช่นนั้นเขายังกล่าวเพิ่มเกี่ยวกับวิศัยทัศน์ของ "Aion" นั้นคือการสร้างเกมให้มี 'กลิ่นไอของ RvR' ซึ่งระบบ RvR สำหรับเกม MMORPG จากฝังตะวันตก (ชาวยุโรป) นั้น 'ยังยากเกินไปที่จะเข้าถึง' สำหรับฝังตะวันออก (ชาวเอเชีย) ดังนั้น RvR ใน "Aion" ของฝังตะวันออก จึงมีการ 'ปรับระบบให้ผู้คนเข้าถึงง่ายขึ้น' เป้าหมายของเกมคือ 'ปฎิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล' จะสามารถสัมผัสในเกมได้จริงๆ ทั้งระหว่างผู้เล่นต่อระบบ หรือ ผู้เล่นต่อผู้เล่น ซึ่งระบบ RvR จะทำให้เกิดปฎิสัมพันธ์และความร่วมมือกันระหว่างผู้เล่นนั้นเอง
ภายในสิ้นปี 2009 จะเปิดบริการในจีน, อเมริกาเหนือ, ยุโรป, ญี่ปุ่น และไต้หวัน!
เมื่อเกิดคำถามที่ว่า "Aion" 'สมบูรณ์' มากน้อยเพียงไรนั้น คุณกิมกล่าวว่า "ก่อนหน้านี้พวกเราที่ NCSoft ทุกคนได้ร่วมกันตัดสินวันเปิดบริการเกมเรียบร้อยแล้ว แต่ทีม QA ตัดสินใจว่าจะทำการเปิด Open Beta ในวันที่ 11 พฤศจิกายน ซึ่งการประเมินการทดสอบระบุว่า Aion นั้น พร้อมสำหรับเปิดให้บริการแล้ว"หลังจากวันที่ 23 นี้ทาง NCSoft ได้จัดงาน 'Aion Global Lunch Conference' ในต่างประเทศโดยจะจัดหลังจากที่ได้เปิดตัวที่เกาหลี 2-3 เดือนคุณกิมได้กล่าวถึงแผนงานว่า "เราจะพา "Aion" ไปได้พบกับโลกอีกด้านหนึ่ง ภายในสิ้นปี 2009 จะเปิดบริการใน จีน, อเมริกาเหนือ, ยุโรป, ญี่ปุ่น และ ไต้หวัน สำหรับทวีปลาตินอเมริกา คาดว่าจะเปิดตัวได้ครบทั้งหมดได้ภายในปี 2010"
NCSoft จะเป็นผู้นำของการพัฒนาเกม
เขาเกริ่นนำว่า 'ในตลาดเกม MMO ปัจจุบันนี้ กำลังเข้าใกล้ถึงทางตัน' "ไอเดียจะเป็นตัวตัดสินแพ้ชนะ" เขากล่าว เราควรจะคิดเกี่ยวกับตัวเกมให้มากกว่านี้ ไม่ใช่ที่จำนวนของเกม และไอเดียที่ดี, จะเป็น 'พลัง' พลักดันให้พัฒนาเกมที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วบ่อเกิดของเทคโนโลยีเกมคือ 'Engine' ซึ่งจะมีมูลค่ามหาศาลเมื่อเทียบกันในส่วนแบ่งการตลาดทาง NCSoft กำลังผลิต 'Engine ของตนเอง' คุณกิมกล่าวว่า "Blade & Soul จะเป็นเกมสุดท้ายที่ใช้ Unreal Engine 3 หลังจากนั้นเราจะพัฒนา Game Engine และใช้กับเกมของเราเอง" เขายังกล่าวเสริมอีกว่า ถ้า Engine ที่เราพัฒนาขึ้นได้ดีเราก็จะสามารถได้มูลค่าเพิ่มจาก "การขายลิขสิทธ์" ด้วย เขากล่าวเสริม