RAINBOW SIX VEGAS 2 : ทีมงานของเราขอยืนยันว่า... รีวิวเกมนี้ปราศจากการพนัน

แชร์เรื่องนี้:
RAINBOW SIX VEGAS 2 : ทีมงานของเราขอยืนยันว่า... รีวิวเกมนี้ปราศจากการพนัน

ประเภท: FIRST-PERSON SHOOTER
ผู้พัฒนา: UBISOFT
ผู้ผลิต: UBOSOFT
ผู้จัดจำหน่าย: NEW ERA
เครื่องที่ต้องการ: P4 3GHZ, 1GB RAM, 7GB HD SPACE, 128MB SHADER MODEL 3.0-CAPABLE 3D CARD
เครื่องที่แนะนำ: DUAL-CORE 2.6GHZ, 2GB RAM, 256MB 3D CARD
จำนวนผู้เล่นสูงสุด: 16
ESRB RATING: M

ผู้พิทักษ์จะลงมาจากฟากฟ้าและพิพากษาเหล่าคนชั่วทั้งหลายด้วยกระสุนแห่งความยุติธรรม

     มันรู้สึกเหมือนกับว่าเพิ่งเป็นเมื่อวานนี้เองที่พวกเราออกทำความสะอาดท้องถนนในเมือง Vegas ให้สวยใสปราศจากบรรดาผู้ก่อการร้ายหัวรุนแรง แต่วันนี้พวกเรากลับต้องมาทำงานซ้ำที่เมือง Vegas อีกครั้ง Rainbow Six Vegas 2 จะมาบอกเล่าเรื่องราวเบื้องหลังของแฟรนไชส์นี้ให้คุณได้รู้ โดยคุณต้องออกลุยในสถานการณ์ที่นำทุกอย่างเข้าสู่เนื้อเรื่องของเกมในภาคแรก การดำเนินเรื่องของ Vegas 2 ช่างกระชับ รวดเร็ว และตื่นเต้นเหมือนกับกำลังนั่งดูซีรีส์ยอดฮิตอย่าง 24 ไม่มีผิด ตัวเกมจะส่งคุณออกไปตะลุยใน 7 ภารกิจที่เชื่อมโยงกันเหนียวหนึบและทำให้คุณรับรู้ถึงเบื้องลึกของวิกฤติการณ์อันเลวร้ายที่เกิดขึ้น ปริศนาทั้งหลายแหล่จากเกมภาคแรกจะได้รับการเฉลย ในเกมยังมีเหตุการณ์มากมายที่อ้างอิงมาจากเกมทั้ง 2 ภาค ถ้าคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเกมภาคก่อน คุณจะมีความสุขมากกับลูกเล่นตรงนี้ แต่ในอีกด้านหนึ่งตัวเกมในภาคนี้กลับไม่ค่อยมีอะไรใหม่ๆ เลย
การตามล่าพวกผู้ก่อการร้ายในเกมยิงเกมนี้เป็นอะไรที่ว่ากันตรงๆ ไม่มีอ้อมค้อมอย่างที่สุด เพื่อให้คุณตั้งอกตั้งใจกับการเพิ่มจำนวนการสังหารเท่านั้น เหมือนกับเกมในภาคแรกแผนที่ของภารกิจต่างๆ จะเดินเป็นเส้นตรงที่ผสมผสานไปด้วยห้องที่เปิดกว้างและจุดคับขันซึ่งให้คุณได้ยิงถล่มจนสนุกมือ ลืมยุทธวิธีตีโอบไปได้เลย ทักษะเดียวที่คุณต้องพยายามเรียนรู้คือ ทำอย่างไรถึงจะสามารถหลบอยู่หลังกำแพงขณะที่ต้องการเป่าหัวพวกศัตรูซึ่งหลบอยู่หลังที่กำบังเช่นเดียวกันได้ ในภาคนี้คุณสามารถยิงทะลุสิ่งกีดขวางบางอย่างได้ แต่ส่วนประกอบตรงนี้รู้สึกว่าจะยังไม่ลงตัวนัก เพราะมันยากที่จะบอกว่าวัตถุชิ้นไหนยิงทะลุและชิ้นไหนยิงไม่ทะลุ

     ถึงแม้พวกผู้ก่อการร้ายส่วนใหญ่จะหลบอยู่หลังที่กำบังไม่ออกมาโจมตีคุณ แต่ระบบอาการบาดเจ็บจะทำให้คุณต้องดับดิ้นอย่างรวดเร็วถ้าหากออกไปยืนก๋าแบบแรมโบ้นานเกินไป นั่นหมายความว่าแม้คุณจะเป็นอมตะเวลาอยู่หลังที่กำบัง แต่หากคุณโผล่ออกมาอย่าพยายามยิงแสกหน้าผู้ก่อการร้ายโดยใช้เวลามากจนเกินควร ตัวคุณเองนั่นแหละที่จะโดนผู้ก่อการร้ายยิงแสกหน้า จริงๆ แล้วผมชอบรูปแบบอาการบาดเจ็บที่สมจริง แต่มันก็กลับกลายเป็นรูปแบบการเล่นอันน่าสะพรึงกลัว เมื่อเจอเข้ากับระบบเซฟตามจุดที่กำหนด หลายครั้งที่ผมต้องเริ่มต้นลุยมาใหม่ตั้งแต่ต้น เพราะผมตายก่อนถึงจุดเซฟเพียงไม่กี่ก้าว กลไกอันน่าผิดหวังนี้ส่งผลให้ตัวเกมยืดยาวออกโดยปริยาย โดยในภาคนี้ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมงจึงจะเล่นจนจบ

     ในเกมนี้จะมีคนที่ทนทานกว่าคุณอยู่สองคนก็คือ... เพื่อนร่วมทีมของคุณ Michael และ Jung นั่นเอง (ก่อนที่พวกเขาจะขอตัวไปช่วย Logan Keller ตัวเอกที่คุณเคยเล่นในภาคแรก) ทั้งสองเป็นผู้ช่วยชั้นยอดด้วยความอึดและฝีไม้ลายมืออันเหลือเชื่อ มันเป็นความคิดที่ไม่เลวที่ให้พวกเขาช่วยกำจัดศัตรูที่อยู่ใกล้ที่สุด (อีกนัยหนึ่งคือ อันตรายที่สุด) เหมือนหน่วยทะลวงฟัน ขณะที่ตัวคุณคอยไล่เก็บพวกพลซุ่มยิงจากแนวหลัง

    พูดกันตรงๆ เพื่อนร่วมทีมขั้นอภินิหารเหล่านี้มีความสามารถพอที่จะแก้ไขปัญหาทั้งหมดเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับศัตรูได้ด้วยตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น สถานการณ์จับตัวประกันที่พวกผู้ร้ายหลบซ่อนในห้องปิดตาย ตัวเกมจะบอกเป็นนัยให้คุณวางตัวลูกทีมไว้ตรงทางเข้าด้านหนึ่งและคุณตีโอบจากอีกทาง อย่างเช่น พุ่งเข้ามาทางหน้าต่าง แต่ผมพบว่ามันเป็นไปได้ที่จะทำเพียงแค่โยนระเบิดแสงเข้าไปในห้อง สั่งให้ลูกทีมของผมบุกเข้าไป แล้วก็นั่งรอชมเหตุการณ์ด้วยกล้องสอดแนมเพื่อความปลอดภัยของตนเอง ถ้าอยากป้องกันไม่ให้เพื่อนร่วมทีมที่มีปฏิกิริยาว่องไวปานสายฟ้าแลบมาข่มความทักษะ FPS ของคุณจนหมอง หรือตัวคุณเองต้องการความท้าทายแล้วละก็... ผมแนะนำให้เล่นในความยากตั้งแต่ปานกลางขึ้นไป ไม่เช่นนั้นคุณจะไม่ได้ชุบชีวิตหรือช่วยเหลืออะไรพวกเขาเลย และด้วยเหตุที่เพื่อนเราเก่งระดับเทพจึงทำให้ภารกิจที่ผมชอบเล่นมากที่สุดเป็นภารกิจแบบ “บุกเดี่ยว” ตะลุยฝ่าโรงกลั่นน้ำมัน เพราะตัวฉากบีบบังคับให้ผมต้องเร้นกายและใช้ความเงียบหลีกเลี่ยงหน่วยลาดตระเวนของศัตรู

     สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจคือ ตัวเกมส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดขึ้นในใจกลางเมือง Las Vegas และบางครั้งก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเมืองแห่งบาปนี้เลย การที่ได้เดินท่องเที่ยวใน Las Vegas Convention Center จะทำให้คนที่เคยไปงาน Consumer Electronics Show (หรือไม่ก็งานแสดงเทคโนโลยีที่ไหนก็ได้ที่ใหญ่เท่าๆ กัน) ต้องตื่นตาตื่นใจอย่างแน่นอนหรืออาจจะเป็นในบริเวณที่จัดงาน Major League Gaming Tournament ที่ทำให้คุณเหมือนตกอยู่ในความฝัน เพียงแต่ผมคาดหวังให้ลงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น มีจำนวนประชาชนที่เป็น NPC มากกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อความสมจริงที่มากขึ้น

      ถึงแม้ผมจะมีปัญหากับการออกแบบที่ซ้ำซากของ Vegas 2 ผมไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า บ่อยครั้งที่ผมพบตัวเองอินกับบรรยากาศแห่งความโกลาหลของศึกการดวลลูกตะกั่วอันแสนดุเดือดและยาวนาน ภาพยนตร์คั่นฉากที่น่าตื่นตะลึงหลายๆ ฉากก็ทำให้ผมประทับใจเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นฉากที่ตัวละคร NPC ฝ่ายเราถูกซุ่มยิงทั้งๆ ที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์หรือการเปิดโปงคนทรยศในช่วงใกล้จบเกม
Rainbow Six Vegas 2 ยังได้หยิบยืมระบบพัฒนาตัวละครที่นำระบบแต้มในโหมดผู้เล่นคนเดียวของ Call of Duty 4 มาใช้ปลดล็อกอาวุธและเสื้อเกราะใหม่ๆ สำหรับการเล่นออนไลน์ของตนเอง การที่ต้องพยายามทำ Grenade Kill และซุ่มยิงเพื่อสะสมแต้ม เป็นองค์ประกอบอันเก๋ไก๋ที่ทำให้การกลับมาเล่นใหม่ในบางฉากน่าสนุกขึ้นในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ตัวเลือกในการปรับแต่งตัวละครที่มีให้เลือกมากมาย ช่วยให้ตัวละครของผมมีความเป็นเอกลักษณ์และความเป็นตัวของตัวเองบนโลกออนไลน์ได้เต็มที่

"ความรู้สึกอันยิ่งใหญ่เวลาที่สามารถซุ่มโจมตีเป็นผลสำเร็จ
ทำให้ผมจดจำได้เสียทีว่าจริงๆ แล้ว โหมดเล่นเดี่ยวมันห่วยแค่ไหน"

     โหมดผู้เล่นหลายคนคือสถานที่เพียงแห่งเดียวสำหรับบรรดาเซียนจอมวางแผนของซีรีส์ Rainbow Six จะได้ปลดปล่อยความเขี้ยวของตนออกมา การเล่น 2 คนแบบ Co-Op ผ่านภารกิจต่างๆ ในเกมหรือโหมด Terrorist Hunt คือประสบการณ์ที่สุดยอด ความสามัคคีและการกะเวลาจู่โจมที่ลงตัวจะช่วยให้คุณดำรงชีวิตอยู่รอดได้ ความรู้สึกอันยิ่งใหญ่เวลาที่สามารถซุ่มโจมตีร่วมกับคู่หูคนเก่งเป็นผลสำเร็จ (ระบบสื่อสารกันด้วยเสียงหรือ Voice Chat มีส่วนช่วยอย่างมาก) กลับทำให้ผมรู้สึกว่ารูปแบบการเล่นในโหมดเล่นเดี่ยวนั้นจริงๆ แล้วมันห่วยแค่ไหน

     ผมไม่ได้บอกว่า Rainbow Six Vegas 2 ไม่สนุกหรือคุ่มค่าน่าหามาเล่น แต่ Vegas 2 ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับว่ามันเป็นเกมภาคเสริมมากกว่าภาคต่อตัวเต็ม ผมรักในความเข้มข้นของเนื้อเรื่อง แต่ผมก็หวังให้ซีรีส์นี้หวนกลับคืนสู่ความเข้มข้นในด้านยุทธวิธีที่เป็นต้นกำเนิดของเกมบ้าง อย่างไรก็ตามถ้าคุณชื่นชอบเกมภาคแรกและไม่ได้มองหาความท้าทายอะไรมากนัก คุณก็มาถูกที่แล้วล่ะ

 

     จุดเด่นของเกมอยู่ที่เนื้อเรื่องกระชับฉับไว เต็มไปด้วยการดวลที่ดุเดือดและการออกแบบฉากอันน่าตื่นตะลึง, ระบบชั้นยศที่ทำให้โหมดผู้เล่นหลายคนเข้มข้นแบบสุดๆ แต่รูปแบบการเล่นที่ง่ายและเชยเกินไป, AI เพื่อนร่วมทีมเก่งจนข้ามหน้าข้ามตา, ระบบเซฟตามจุดที่กำหนดก็ทำให้เราเห็นข้อเสียของเกมนี้จนได้ โดยรวมแล้วเกมนี้เป็นส่วนเสริมที่ดีสำหรับเรื่องราวในภาคแรก แต่การขาดความลึกในด้านยุทธวิธีทำให้เกมดูน่าเบื่อหน่าย

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ