“แผนการตลาดเอ็กซ์คลูซีฟ DLC ของคอนโซล ดั่งเช่น เอพิโซตเฉพาะของ GTA IV บน Xbox 360 ยังไม่ได้รับการพิสูจน์” นักวิจารณ์จาก Lazard Capital Markets คุณ Colin Sebastian กล่าว ในขณะให้สัมภาษณ์กับทีมงาน CVG ซึ่งเขาบอกว่าการแข่งขันระหว่างเจ้าของแพลตฟอร์มในการรักษาเอ๊กซ์คลูซีฟ DLC จะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณตามระยะเวลา
GTA IV
Microsoft เคยรายงานว่าพวกเขาได้จ่ายเงินไปกว่า 50 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐฯ เพียงเพื่อเอ็กซ์คลูซีฟ DLC ของ GTA IV ซึ่งมีกำหนดเปิดให้ดาวน์โหลดภายใน “ฤดูใบไม้ร่วง ปี 2008” และคุณ Sebastian กล่าวว่าคอนเท็นต์ใหม่นี้จะกลายเป็น “กุญแจทดสอบ” ความมีค่าของแผนการตลาดเช่นนี้ “ผมคิดว่ามันสมเหตุสมผลดีที่จะลองทึกทักเอาว่าการวางขายเกมส์กับการปล่อยเอ็กซ์คลูซีฟคอนเท็นต์สำหรับแพลตฟอร์มหนึ่งนั้นเป็นของคู่กัน” เขากล่าว “แต่คอนเท็นต์ที่ว่าจะต้องมีคุณภาพที่สูงขึ้นและเพิ่มบางสิ่งบางอย่างเข้าไปในประสบการณ์โดยรวมของเกมส์นั้นๆ”
Mirror's Edge
Microsoft ถือเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มที่ขยันในการใช้แผนการตลาดแบบนี้มากที่สุด แถมยังมีการผูกมัดข้อตกลงคอนเท็นต์เฉพาะบนเกมส์ Fallout 3 และ Tomb Raider: Underworld อีกด้วย ในขณะที่ Sony เองก็มีการประกาศว่า Mirror’s Edge เวอร์ชั่น PS3 จะมี DLC เฉพาะตามมาหลังวางจำหน่าย Sebastian บอกว่า Nintendo เองก็จะทำแบบนี้เช่นกันในอนาคต ในขณะที่ควรจะทำตั้งแต่ตอนนี้แล้ว “ผมคิดว่านั่นเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ Nintendo จะต้องหันมานำเสนอคอนเท็นต์ออนไลน์และบริการให้มากขึ้น แต่ในระยะอันใกล้มันชัดเจนมากว่าผู้บริโภคกำลังมองหาคุณค่ามากมายจากระบบการเล่นออฟไลน์ที่ Wii เป็นผู้มอบให้” เขากล่าว
“พวกเรายังคงอยู่ในขั้นแรกของการเติบโต แต่ต่อไปจะต้องมีการแข่งขันคอนเท็นต์ออนไลน์ที่มากขึ้น ในรูปแบบที่ Sony กับ Nintendo จะส่งเสริมบริการที่มีอยู่ให้กับบรรดาผู้ใช้ของพวกเขา และปิดช่องโหว่ระหว่าง Microsoft ลงซะ ผลที่ได้นั้นจะมีประสิทธิภาพต่อผู้สร้างแพลตฟอร์มมากกว่าถ้าหากทำการล็อคคอนเท็นต์เฉพาะแทนที่จะล็อคทั้งเกมส์” เขากล่าวเสริม “นี่ยังเป็นการส่งเสริมหน้าตาทางด้านบริการออนไลน์ ที่ซึ่งพวกเขามองเป็นแหล่งของกุญแจระยะยาวที่จะนำไปสู่การเติบโตในอุตสาหกรรมเช่นนี้”