SHAWN: ทั้งระบบการหลบตามซอกของ Gears of War และพลัง Plasmid ของ BioShock นั้น ต้องถือว่าเป็นไอเดียของเกมที่เหล่านักพัฒนาใช้เป็นจุดยืนหลักในการพัฒนาเกมนั้นๆ ไอเดียนะครับ ไม่ได้เป็นเงื่อนไขที่ต้องมีในเกมทั่วไป (หรือพูดอีกอย่างคือ ไอเดียเป็นสิ่งที่ทำให้เกมนั้นเหนือกว่าเกมอื่นๆ ทั่วไป) ซึ่งระบบทั้งสองที่ว่ามานั้น ไม่ได้เข้าข่ายเงื่อนไขในเกมเลย เพราะคุณไม่สามารถพูดถึงพลัง Plasmid ได้โดยไม่พูดถึงบรรยากาศของเกมที่เต็มไปด้วยน้ำและน้ำแข็ง มันจะผูกติดอยู่กับการเล่นเกมและความสามารถของตัวละคร เรียกว่าเป็นสิ่งที่สร้างมาเพื่อเกมเกมนั้นโดยเฉพาะ ซึ่งระบบการทำลายสิ่งก่อสร้างและพื้นที่ของเกม Battlefield: Bad Company นี้ ก็น่าจะเป็นระบบที่อยู่ในระดับเดียวกับที่กล่าวมา
ข้อเสียของการบอกเราว่า “คุณสามารถทำลายได้ทุกอย่าง” นั้นก็คือ มันทำให้เราอยากลองทำลายดูจริงๆ ซึ่งสุดท้ายมันก็เหมือนกับเกมยิงอื่นๆ ที่พูดเช่นนี้ครับ เพราะ Bad Company ก็มีขีดจำกัดในการทำลายอยู่เหมือนกัน แต่ในขณะที่มันไม่สามารถทำลายได้ทุกอย่าง มันก็ยังดูเหมือนว่าทุกอย่างสามารถถูกทำลายได้จริงๆ ในกรณีที่คุณใช้พวกระเบิดเป็นเครื่องมือนะครับ เพราะระเบิดสามารถเป่าให้ส่วนหนึ่งของบ้านกระจุยหายไปได้เลย ในขณะที่ลูกกระสุนอย่างดีก็ยิงทะลุแผ่นไม้บางๆ ไปได้นิดหน่อย อย่างไรก็ตามสิ่งที่ Bad Company ต้องการมันไม่ใช่การจำลองลานยิงปืนมาหรอก
ถ้าหากเหล่าทหารรับจ้างใน Bad Company สามารถตอบสนองต่อภูมิประเทศที่เปลี่ยนไปได้ มันคงจะทำลายข้อหาที่สร้างเกมไร้ไอเดียลงไปได้ แต่ก็นั่นแหละ นี่เป็นสิ่งที่แตกต่างระหว่างระบบที่เป็นจุดขายของเกม กับระบบที่ทำมาเพื่อให้มันครบๆ ตามที่ต้องมีในเกมแนวนี้ และมันก็เป็นข้อแตกต่างระหว่างศัตรูที่จะวิ่งทะลุรูที่เกิดจากการระเบิดบ้าน และศัตรูที่ไม่จำเป็นต้องเคลื่อนที่เลย เพราะมันรู้ว่าคุณอยู่ไหน และจะยิงคุณโดนทุกนัดที่มันยิงออกมา ข้อแตกต่างระหว่างการไม่มีอะไรให้ตกใจ กับการที่ไม่สามารถตกใจได้ สรุปง่ายๆ กันผู้อ่านงงก็คือ Bad Company มี A.I. ที่แย่มากทำให้ความสนุกของเกมหายไปเกือบหมดเลยทีเดียว แต่มันก็มีทางแก้นะครับ นั่นคือ การเล่นแบบออนไลน์
เพราะเมื่อผู้เล่นได้ยินเสียงกระสุนปืนใหญ่ถูกยิงออกมา พวกเขาก็รู้แล้วว่าจะต้องวิ่งลงไปซ่อนอยู่ในใต้ถุนของบ้านให้ได้ก่อนที่หลังคาบ้านจะถล่มลงมา ถ้าหากพวกเขาโดนพลซุ่มยิงดักอยู่ พวกเขาก็จะวิ่งหลบเข้าไปในป่า ทำให้หนีออกไปได้ หากโดนล้อม พวกเขาก็สามารถระเบิดฝาบ้านเพื่อสร้างทางหนีเพิ่มได้ แถมค่าย EA DICE ยังหลบกับดักที่พวกเขาวางไว้เอง (เช่น การทำให้ตัวเกมเป็นเพียงเกมปาระเบิดแข่งกัน) ด้วยการลดพลังโจมตีแบบกระจายของระเบิดลง การปาระเบิดใส่ศัตรูนั้นอย่างดีก็แค่ทำให้มันบาดเจ็บเล็กน้อย หรือมึนๆ เท่านั้น ยกเว้นแต่คุณจะปาระเบิดแม่นจัดขนาดไปตกลงตรงหน้าเป้าหมายพอดี ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนที่ดีอย่างหนึ่งจากหลายๆ จุด (รวมถึงการออกแบบแผนที่อันแยบยลและชาญฉลาด) มันจึงทำให้ Bad Company เป็นเกมที่มีระบบมัลติเพลเยอร์ที่ดีมากๆ
เหล่าทหารของBad Company จะฉีดยาสารพัดประโยชน์ใส่ตัวเองเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บจากการโดนยิงนั่น
หมายความว่า ทุกครั้งที่คุณทำการเติมกระสุน คุณก็จะทำการใช้ยา (เสพย์ติด)ไปด้วยเพื่อฟื้นฟูพลัง
ลุยดงสงครามออนไลน์
GENOCIDE: รูปแบบการเล่นในส่วนของโหมดมัลติเพลเยอร์จะมีแค่แบบเดียว คือผลัดกันเป็นฝ่ายรุกและรับ โดยมีกล่องทองเป็นเป้าหมาย ผลัดกันไป-มา พอครบรอบก็จะเปลี่ยนแผนที่ใหม่ไปเรื่อยๆ ซึ่งดูเหมือนหน้าที่จะซ้ำซากจำเจ แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยครับ การรุก-รับที่ต้องอาศัยทีมเวิร์คและวิธีการบุกแบบใหม่ๆ เสมอๆ จึงไม่ทำให้เกมน่าเบื่ออย่างที่คิด
จำนวนผู้เล่นเกมนี้จะแตกต่างจากเกมแนวยิงๆ ทั้งหลายอย่างเห็นได้ชัด นั่นก็คือเรื่องจำนวนผู้เล่นครับ โดยจะสามารถเล่นได้ถึง 24 คนพร้อมกันเลยทีเดียว โดยก่อนเริ่มเข้าเล่นเกมนั้น เราจะสามารถชวนเพื่อนๆ ที่อยู่ในลิสต์เราได้อีก 3 คนเพื่อมารวมเป็น Squad เดียวกัน แต่จุดเสียคือ คุยได้เฉพาะ Squad ไม่สามารถคุยทั้งทีมได้ ด้วยเพราะเกมนี้มีแผนที่ค่อนข้างกว้างกว่าเกมอื่นๆ มาก และต้องอาศัยทีมเวิร์คตลอดทั้งเกม ระบบสื่อสารจึงจำเป็นมาก เรียกว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว บ่อยครั้งที่ผมเป็นฝ่ายรับแล้วเห็นลูกทีมมือใหม่ที่อยู่คนละ Squad วิ่งไปยิงแลกกับฝั่งตรงข้ามราวกับเป็นฝ่ายบุกซะเอง บางครั้งผมก็อยากจะบอกว่า “เฮ้ นาย มาป้องกันตรงจุดนี้สิ เราเป็นฝ่ายรับนะ” หรือ “เฮ้ย ศัตรูกำลังมาตรงจุดนี้นะ ไปช่วยป้องกันเร็ว” แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะข้อกำจัดดังที่กล่าวไปข้างต้น ซึ่งทาง EA ก็รับปากจะแก้ไขในจุดนี้ในแพตช์ต่อไปครับ
จุดแตกต่างที่เห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับเกมแนวยิงบุคคลที่หนึ่งเกมอื่นๆ คือ ระบบของทีมเวิร์ค ซึ่งเกมนี้จะเน้นหนักมากในการทำงานกันเป็นทีม ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายรุกหรือฝ่ายรับก็ตามที ต้องสื่อสารภายในหน่วย จัดแจงหน้าที่กันให้ดี จะไม่มีคำว่าหมาป่าเดียวดายหรือข้าคือแรมโบ้กลับชาติมาเกิดอีกต่อไป จากเท่าที่ลองเล่นมา ในกรณีที่ฝ่ายรับนั้นค่อนข้างเข้มแข็ง การรุกที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือใช้ผู้เล่น 10 คนขึ้นไปในการรุก 1 จุด จากคนทั้งทีม 12 คน เห็นไหมล่ะครับว่าทีมเวิร์คนั้นสำคัญจริงๆ
ความสมดุลของเกมนับว่าทางผู้สร้างทำมาได้ค่อนข้างดี ไม่มีฝ่ายไหนได้เปรียบเสียเปรียบอย่างชัดเจน สิ่งที่จะใช้วัดผลแพ้-ชนะของเกมก็คือ ทีมเวิร์คของทีมนั้นๆ และความสมดุลของกองทัพเอง ซึ่งแต่ละคนจะต้องรู้หน้าที่ของตัวเองว่ากองทัพของตัวเองขาดหน่วยไหน แล้วผู้เล่นจะต้องมีความรับผิดชอบโดยการเล่นหน่วยที่ขาด ถึงแม้ว่าตัวเองจะไม่ถนัดก็ตาม
สำหรับใครที่เบื่อแนวเกมยิงเดิมๆ ซ้ำซาก เกมนี้เองสามารถนำเสนอมิติใหม่ๆ ของเกมเดินหน้ายิง โดยที่ไม่ใช่ว่าจะยิงเอามันส์อย่างเดียว จริงๆ ยานพาหนะต่างๆ ที่รอให้คุณๆ ลอง อีกทั้งระบบฟิสิกส์ที่สมจริง กราฟิก และบรรยากาศที่ทำได้สวยงามสมจริงราวกับว่าอยู่ในสงคราม และจุดเด่นที่สุดคือระบบเสียงของเกมนี้ครับ ทำมาได้สมจริงและกระหึ่มมากๆ สำหรับท่านใดที่ชอบแนวนี้กระผมขอรับรองว่าไม่มีผิดหวังแน่นอนครับ
ผู้จัดจำหน่าย: Electronic Arts
ผู้พัฒนา: EA DICE
จำนวนผู้เล่น: 1-24 คน
ESRB: 13 ปีขึ้นไป
ข้อดี: ระบบมัลติเพลเยอร์ที่ทำดีมากๆ
ข้อเสีย: A.I. แย่ เนื้อเรื่องไม่ดี
คลังสมบัติ: อุปกรณ์ที่สามารถปลดล็อกมาใช้ได้มากมาย ทำให้อยากเล่นเกมใหม่หลายๆ รอบ