บทสรุป Persona 3 Fes : The Journey, The Answer [ Part III ]


     เนื้อเรื่องภาคนี้จะเริ่มที่ 2 เดือนถัดมาหลังจากศึกครั้งสุดท้ายกับ Nyx ในวันที่ 31 มีนาคม 2010 Fuuka โทรนัด Yukari ให้มารวมกันที่หอพัก แต่ Yukari มีธุระที่ชมรมและ Akihiko ก็เหมือนจะมาช้า ทุกคนนัดรวมตัวกันในวันปิดหอพัก และเพื่อที่จะเอา Evoker ของทุกคนมาผนึกเอาไว้และทำการสลายทีม Sees เนื่องจาก Shadow ได้หายสาบสูญไปพร้อมๆ กับ Tartarus แต่ว่าตัวเราในภาคที่แล้วได้ใช้พลังทั้งหมดในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายและได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมาไม่นาน พอถึงเวลาเที่ยงคืนทุกคนได้กินซูชิฉลอง แต่ก่อนที่จะถึงเที่ยงคืนบรรยากาศรอบตัวในหอพักก็เกิดความผิดปกติขึ้นและดูเหมือนเวลารอบๆ ตัวจะย้อนมาวันที่ 31 อีกครั้ง ซึ่งทำให้ทุกคนแปลกใจมากแต่ก็ยังไม่ได้คิดอะไร Mitsuru จึงตัดสินใจเรียก Akihiko และ Yukari มาที่หอเผื่อว่ามีเหตุการณ์ฉุกเฉิน จากนั้น Aigis ก็จะขอขึ้นไปนอนและทุกคนก็แยกย้ายไปพักผ่อน กลับมาที่ห้อง AIgis ก็นึกถึงเรื่องเก่าๆ และคำสัญญาของเราทำให้เธอนอนไม่หลับ Aigis เริ่มถามตัวเองถึงสาเหตุการมีชีวิตอยู่ของตนเอง ทันใดนั้นก็มีผีเสื้อบินเข้ามาแล้วก็เกิดเสียงดังขึ้นข้างล่าง Fuuka จะเข้ามาหา Aigis ที่ห้องแล้วบอกว่ามีเรื่อง Fuuka บอกต่ออีกว่าพื้นที่ห้องในล็อบบี้เปิดขึ้นมาและมีศัตรูบุกเข้ามา เมื่อ Aigis ตามลงไปเธอได้พบศัตรูรูปร่างเหมือนเธอและเราก็ต้องสู้กัน

Metis

     ในการต่อสู้ครั้งนี้ ตัวเราจะไม่ตายจากการต่อสู้ให้เราโจมตีได้ตามใจชอบ เมื่อชนะแล้วจะมีคัทซีนที่ Metis ได้ใช้ Orgia Mode เข้าทำร้าย Aigis และทุกคน Aigis ที่สติเลือนรางได้นึกถึงเราและคำสัญญา และได้เรียก Persona ของเธอออกมาเพื่อสู้กับ Metis แต่ทว่า Persona กลับเปลี่ยนร่างไปเป็น Orpheus, Persona ของเราในภาคที่แล้วและหยุด Metis ไว้ได้ จากนั้น Aigis ก็จะสลบไปและรู้สึกตัวอีกทีที่ Velvet Room ซึ่งเราเคยพบกับ Igor และ Elizabeth ที่นี่ Igor ได้อธิบายว่าห้องนี้เป็นห้องที่อยู่ระหว่างความฝันกับความจริง เป็นห้องที่ผู้ที่จะทำสัญญาเท่านั้นถึงจะมาได้เหมือนที่ตัวเราเคยทำ โดยการหาคำตอบชีวิตโดยค่าตอบแทนนั้นก็จะแลกด้วยชีวิตของผู้ทำสัญญาและจะได้ Velvet Key เมื่อตื่นขึ้นมา จากนั้นเพื่อนๆ ก็ซ่อมแซมเราด้วยการดัดแปลงตัว Aigis นิดหน่อยโดยใส่อุปกรณ์บางชิ้นเข้าไปเพื่อช่วยเหลือ Aigis ในตอนนี้ Akihiko และ Yukari ได้จwwไดไ ไเดินทางมาถึงหอแล้ว

     จากนั้น Aigis ถามทุกคนว่าเกิดอะไรขึ้น Mitsuru ก็ได้ตอบว่า ให้ Aigis ลงไปดูด้วยตัวเองเลยดีกว่า Metis ก็จะบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้คือ เวลาหยุดเดินหรือ Timeskip เวลาในหอพักตอนนี้จะเป็นวันซ้ำกันทุกวันๆ ซึ่งก็คือวันที่ 31 มีนาคม 2010 โดยเธอจะบอกว่าสาเหตุหลักคือ Abyss of Time ได้เกิดอาการปั่นป่วนขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุและได้เกิดขึ้นที่ใต้หอแห่งนี้ ทางเดียวที่จะหยุดมันได้คือหาต้นเหตุที่ซ่อนอยู่ใน Abyss of Time ข้างล่างนี้ เหมือนที่เราได้เคยสำรวจ Tartarus นั่นเอง โดย Metis ได้อธิบายเกี่ยวกับตัวเองว่าเกิดขึ้นมาก็อยู่ใน Abyss of Time มาตั้งแต่ต้นและไม่เคยออกไปไหน และ Mitsuru ก็ได้ให้ Aigis เป็นหัวหน้า โดยเราจะยังไม่สามารถเลือก Koromaru, Mitsuru, Junpei เข้าร่วมทีมได้

ข้อแนะนำสำหรับการเล่นภาค The Answer

1. ตัวละครหลักที่เราใช้จะเป็น Aigis ซึ่งจะใช้รูปแบบการโจมตีเป็น Pierce เท่านั้น โดยภาคนี้เราจะไม่สามารถใช้ Persona ตัวเก่าของ Aigis ได้แต่จะสามารถใช้ Persona ได้หลายๆ ตัวเหมือนกับตัวเราในภาคแรก

2. กฎการเล่นรวมๆ จะเหมือนกับภาคแรกเพียงแต่ว่าเหล่าบรรดา Shadow ในภาคนี้จะยากขึ้นกว่าเก่าค่อนข้างมาก อีกทั้งบรรดาบอสในภาคนี้ถึงแม้จะรู้จุดอ่อนของมันแต่ก็ไม่สามารถจัดการได้ง่ายๆ เนื่องจากบอสในภาคนี้ส่วนมากทุกตัวจะมีค่า Evade สูงมากในธาตุที่มันแพ้ทางและบางทีรูปแบบการโจมตีของมันจะเปลี่ยนไป เพราะฉะนั้นวิธีชนะจะไม่ 100% ต้องอาศัยดวงของผู้เล่นเองด้วย แนะนำให้พยายามเก็บเลเวลเยอะๆ จะช่วยให้สู้ได้ง่ายขึ้น

3. การเดินสำรวจในภาคนี้จะเหมือนกับการสำรวจใน Tartarus เพียงแต่เราจะเดินลงล่างไปเรื่อยๆ เท่านั้น รูปแบบของ Shadow ในภาคนี้จะเหมือนกับภาคที่แล้วเกือบทุกประการ และการต่อสู้เป็นเวลานานจะทำให้ตัวเราและทีมเกิดอาการ Fatigued เหมือนภาคที่แล้ว แต่เราไม่ต้องรอข้ามวันเพื่อพักผ่อน เพียงแค่กลับขึ้นไปข้างบนก็จะหายดีเหมือนเดิม เราสามารถใช้ประโยชน์จากจุดตรงนี้เพื่อเก็บเลเวลและฟาร์ม Persona มาผสมใช้ได้

4. การผสม Persona ในภาคนี้จะมีรูปแบบการผสมแค่ผสม 2 ตัวและ 3 ตัวเท่านั้น และเราไม่สามารถเก็บแบบ Persona ไว้ใน Pendomonium เหมือนภาคที่แล้วได้ เพราะฉะนั้นก่อนผสมพยายามดูให้ละเอียดและพยายามหาตัวที่ใช้ประโยชน์ในการต่อสู้ได้มากที่สุด

5. ในภาคที่แล้วก่อนที่จะสู้บอสใน Tartarus แต่ละชั้นจะมีจุดเซฟและทางวาร์ปขึ้นวาร์ปลงออกมาข้างนอกได้ แต่ในภาคนี้จะมีเพียงแค่จุดเซฟและวาร์ปออกเท่านั้น ถ้าต้องการจะผสม Persona หรือเปลี่ยนเพื่อนร่วมทีมต้องวาร์ปออกแล้วเดินเข้ามาใหม่

6. ในภาคนี้แนะนำให้เก็บเลเวลทุกคนเพื่อใช้สู้บอสแต่ละชั้นและให้เก็บเลเวล Metis ไว้ด้วย เพราะว่าเราจำเป็นต้องใช้สู้ในเนื้อเรื่องหลังๆ

7. ในการต่อสู้กับบอสให้เราทำการสแกนตัวบอสและลูกน้องมันไว้ด้วยเหมือนภาคที่แล้ว และพยายามหมุนคำสั่งให้เพื่อนร่วมทีมดีๆ จะช่วยให้โอกาสรอดสูงขึ้น แนะนำให้หา Persona ที่มีสกิล Trafuri จะช่วยให้รอดตายในการเก็บเลเวล

8. ในแต่ละประตูจะมีประตูข้างหลังห้องนั้น 2-3 ประตู เราสามารถเข้าออกประตูข้างหลังเมื่อเราฆ่าบอสที่เฝ้าชั้นนั้นตายแล้ว ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาไล่เดินตั้งแต่ประตูแรก เพียงแต่ว่าเมื่อเราเปิดครบทั้ง 3 ประตูและเปิดเนื้อเรื่องในประตูข้างในแล้วเราจะไม่สามารถกลับเข้ามาที่ประตูนี้ได้อีก

     กลับมาที่เนื้อเรื่องให้เราเดินลงข้างล่างจะเห็นเงาลางๆ เดินเข้าประตูไปให้เราตามเข้าประตูนั้นไป เดินเข้าไปเรื่อยๆ จนถึงชั้นที่ 8th floor จะเจอบอส

Malebolge 8th floor, Boss: Immortal Gigas และลูกน้อง Visceral Maya 3 ตัว

     Immortal Gigas จะมีการโจมตีทาง Physical หมู่อย่าง Gale Slash สลับกับการโจมตีแบบเป้าหมายเดียว และแพ้ทางธาตุลม ส่วน Visceral Maya นั้นก็จะโจมตีทาง Physical เหมือนกันแต่จะเป็นท่าเดี่ยว และแพ้ทางธาตุไฟ แต่ก็มี Skill Dodge Fire สำหรับการจัดการกับ Immortal Gigas และ Visceral Maya ก็ให้โจมตี Weakness ให้มัน Knock Down โดยเซ็ตคำสั่งของเพื่อนเราให้เป็น Knock Down ซะ แล้วก็ใช้ All Out Attack ไปเรื่อยๆ ก็จะชนะได้อย่างไม่ยากเย็น

     เมื่อจัดการได้แล้วเราสามารถออกประตูเพื่อออกมาเซฟข้างนอกและฟื้นพลังก่อนที่จะไปต่อได้ ให้เข้าประตูข้างหลังแล้วไปต่อเรื่อยๆ จนสุดทางจะเจอห้องที่มีประตูสีขาว

Malebolge 15th floor, Event: Paulowian Mall

      เมื่อเราเข้าประตูมาเราจะพบว่าเราได้เข้ามาใน Paulowian Mall แต่ทว่าเป็นช่วงเวลาของปีที่แล้ว เมื่อเราคุยกันสักพักจะทราบว่าภายใน Abyss of Time จะมีประตูแบบนี้อยู่หลายบาน ให้เรากลับออกมาทางเดิมจะพบว่าประตูได้เชื่อมต่อกับห้องของเรา ตอนนี้เราจะสามารถไปซื้อของโดยผ่านทางประตูนี้เมื่อไรก็ได้และได้ Junpei กับ Koromaru กลับมาร่วมทีม

Cocytus 9th floor, Boss: Brilliant Cyclops และ Soul Dancer 2 ตัว

    Brilliant Cyclops กันเวทย์ทุกชนิด การโจมตีของมันจะเป็น Bufula และ Mabufula ให้หา Persona ที่มีสกิล Null Ice ไปสู้ การออกคำสั่งลูกทีมก็ให้ตีไปเรื่อยๆ พอผ่านไปสักพัก มันจะเรียก Soul Dancer ออกมา โดยที่ Soul Dancer จะมีสกิล Mediarama แต่ตัวลูกน้องนั้นมันแพ้น้ำแข็งเพราะฉะนั้นควรโจมตีเวทย์น้ำแข็งให้ลูกน้องเสียเทิร์นโดยที่อย่าให้มันได้เทิร์นเด็ดขาด มิฉะนั้นเกมจะยาว พยายามฆ่าตัวหัวหน้าให้ตายก่อนแล้วค่อยจัดการตัวลูกน้องทีหลัง

     เมื่อถึงชั้นล่างสุดจะเป็นเนื้อเรื่องของ Ken ในอดีต ตอนที่แม่ของ Ken เพิ่งเสียชีวิตและเป็นสาเหตุที่ทำให้ Ken มี Persona

Caina 7th floor, Boss: Death Castle และลูกน้อง El Dorado Beast 2 ตัว

     El Dorado Beast มีการโจมตีทั้ง Swift Strike, Kill Rush, Agilio แพ้เวทย์น้ำแข็งแต่มันมี Dodge Ice ส่วนตัว Death Castle นั้นมีสกิล Mediarama, Fire Break การต่อสู้กับมันนั้นควรจะรีบจัดการกับตัว Death Castle ให้มันเหลือเลือดน้อยๆ หรือตายไปเลยก็ดี ส่วนลูกน้องนั้นให้จัดการถ่วงเวลาไว้จนกว่าจะจัดการตัวหัวหน้าเสร็จ อาจจะใช้เวทย์น้ำแข็ง ยิงเพื่อให้มันเสียเทิร์นไปเรื่อยๆ

Caina 14th floor, Boss: Harem Dancer และลูกน้อง Merciless Maya 2 ตัว

     Merciless Maya แพ้การโจมตีธาตุลม ให้เรายิงเวทย์ Garu หรือ Garula สกัดเอาไว้ก่อน ตัวบอสจะกันการโจมตีระยะไกลและสะท้อนการโจมตีธรรมดาแต่เราสามารถใช้เวทย์ยิงตอดเอาได้ ให้เรา Tarunda เพื่อลดพลังโจมตีของบอสถ้าทำได้เพราะมันจะใช้ท่าหมู่ Heatwave อัดเรา บอสสามารถใช้ท่าหมู่ที่ทำให้ติดสถานะผิดปกติได้เกือบทุกชนิด ทั้ง Sexy Dance, Eirie Sound และ Poison Mist เพราะฉะนั้น Dis-Poison, Dis-Charm และ Ma-Prata Jem ควรมีติดต่อไว้ ถ่วงไปเรื่อยๆ ก็จะชนะได้อย่างไม่ยากเย็น

    เมื่อถึงชั้นล่างสุดจะเป็นเนื้อเรื่องของ Akihiko ตอนที่เจอกับ Mitsuru ครั้งแรกและได้เข้าร่วมกลุ่มเพื่อปราบ Shadow

Antenora 10th floor, Boss: Judgement Sword, Ice Raven, Brave Wheel

     บอสตัวนี้ 3 ธาตุ 3 สไตล์ Judgement Sword ใช้การโจมตีเป็น Mazionga, Zionga และ Slash Attack แพ้การโจมตีธาตุลมแต่มีสกิล Evade Wind ส่วน Ice Raven ใช้การโจมตีเป็นธาตุน้ำแข็งทั้ง Bufula และ Mabufula อีกทั้งยังมี Tentarafoo อีกต่างหาก ตัวนี้แพ้การโจมตีธาตุไฟ แต่ก็มีสกิล Dodge Fire และตัวสุดท้ายก็คือ Brave Wheel นั้นใช้การโจมตีเป็น Agilio และ Maragion และ Strike Attack ตัวนี้แพ้การโจมตีธาตุน้ำแข็งแต่มีสกิล Evade Ice วิธีการจัดการให้โจมตีที่ Weakness ของแต่ละตัวเพื่อไม่ให้มันใช้การโจมตีของมันได้ และควรจะดูเทิร์นให้ดีๆ ไม่ควรรีบ All Out Attack เอาให้แน่ใจก่อนแล้วค่อยจัดการ

     Suggest Persona – Saki Mitama เนื่องจากสามารถลดดาเมจจากเวทย์ของบอสทั้ง 3 ได้เป็นอย่างดีและยังมีสกิล Mediarama ไว้ฮีลเพื่อน การผสมนั้นควรให้มีเวทย์สัก 2 สายที่สามารถโจมตี Weakness ของบอสได้ เพื่อความได้เปรียบในการต่อสู้

Antenora 20th floor, Boss: Shouting Teara, Wrathful Book และ Primitive Idol

      Wrathful Book แพ้ไฟ แต่มีสกิล Evade Fire ส่วน Shouting Teara แพ้น้ำแข็ง แต่มีสกิล Evade Ice ส่วน Primitive Idol ใช้การโจมตีทั้ง Bufudyne และ Mabufula แพ้สายฟ้า แต่มีสกิล Evade Elec พยายามอย่าให้ Shouting Teara และ Wrathful Book ได้เทิร์นเพราะการโจมตีของ Wrathful Book คือ Infuriate คือทำให้ทั้ง Party ของเราติด Enrage และไม่สามารถควบคุมตัวเราได้ แล้ว Primitive Idol จะยิงเวทย์ซ้ำจนตายยก Party หรืออาจจะให้ Shouting Teara ร่ายเวทย์ Tetrarakan ซึ่งเป็นท่าสะท้อนการโจมตีด้าน Physical แล้วเมื่อตัวเราที่ติด Enrage ตีไปก็จะโดนสะท้อนดาเมจกลับจนตาย

     Suggest Persona – Saki Mitama มีท่า Zionga และโดนการโจมตีจากน้ำแข็งเบาและมีสกิล Mediarama

      Suggest Teammate – ใส่คำสั่งการโจมตีแบบ Knock Down Mitsuru เพราะสามารถกันน้ำแข็งได้ และโจมตีเวทย์น้ำแข็งใส่ Shouting Teara เพื่อเอาเทิร์นได้อีกด้วย Koromaru, Junpei นำมาโจมตี Weakness ของ Wrathful Book Akihiko, Ken เพื่อนำมาโจมตี Weakness ของ Primitive Idol แต่ถ้านำ Akihiko มาอาจเสียเทิร์นได้เพราะ Akihiko แพ้น้ำแข็ง เมื่อถึงชั้นล่างสุดจะเป็นเนื้อเรื่องของ Junpei และ Koromaru ก่อนที่จะเจอกับ Akihiko ได้รู้สึกโดดเดี่ยวและอยากมีเพื่อนที่เข้าใจตัวเองสักคน

Ptolomia 8th floor, Boss: Cowardly Maya, Crying Table, Wondrous Magus

      สำหรับ Crying Table การโจมตีจะมี Maragion และ Spirit Drain และแพ้น้ำแข็ง แต่ก็จะมีสกิล Evade Ice ส่วน Wondrous Magus การโจมตีจะมี Agidyne, Maragidyne และมี Mind Charge เพื่อเพิ่มดาเมจเวทย์เป็น 2 เท่า แพ้การโจมตีธาตุไฟ แต่มีสกิล Evade Fire และ Cowardly Maya แพ้การโจมตีธาตุไฟ และมีสกิล Evade Fire เช่นกัน การโจมตีก็จะเน้นธาตุไฟเหมือนกัน และยังมี Tetrarakan และ Metarakan อีกด้วย ให้ใส่คำสั่ง Knock Down เนื่องจากว่า Shadow ชุดนี้แพ้น้ำแข็งและไฟเพราะฉะนั้นก็โจมตี Weakness ของมันซะ อย่าให้มันได้เทิร์น ถ้ารำคาญมันร่ายเวทย์อาจใช้ Tentarafoo ใส่มันก็ได้

Ptolomia 17th floor, Boss: Neo Minotaur

      บอสตัวนี้ถึกมาก ยิงเวทย์ไม่เข้าแถมยัง Absorb อีกต่างหาก ต้องโจมตีด้วย Physical ล้วนๆ การโจมตีมีทั้งเวทย์อย่าง Magarudyne, Life Drain และการโจมตีด้าน Physic อย่าง Vicious Strike และ Akasha Art ซึ่งเป็นท่าโจมตี Physical หมู่ที่รุนแรงมาก และยังเพิ่มดาเมจการโจมตีได้ เพราะมีทั้ง Mind Charge และ Power Charge และยังมีท่าเพิ่ม Critical Rate อย่าง Revolution

      How to Kill – มีไอเทมชนิดหนึ่งช่วยได้มากนั่นก็คือ Attack Mirror ไว้ใช้ตอนที่มันใช้ Power Charge แล้วเทิร์นต่อมามันก็จะใช้ท่าโจมตีอย่าง Vicious Strike หรือ Akasha art Attack Mirror ก็จะช่วยสะท้อนดาเมจได้อย่างมาก ส่วนเวทย์อย่าง Magarudyne นั้นห้ามใช้ Magic Mirror เป็นอันขาดเพราะว่ามัน Absorb เวทย์ได้ ให้ถ่วงไปเรื่อยๆ ควรใช้ Tarunda เพื่อลด Attack ของมัน หรือ Marakunaja เพื่อเพิ่มพลังป้องกันของทีมเราร่วมด้วยเพื่อที่จะไม่โดนเวทย์ทีเดียวตาย

       Suggest Persona – ตัวที่ Null หรือ Strength Strike หรือ Null Wind เลือกเอาสักตัวและควรมีสกิล Mediarama หรือ Mediarahan ด้วย

      เมื่อถึงชั้นล่างสุดจะเป็นอดีตของ Mitsuru ที่ได้เข้ามาใน Tartarus ตั้งแต่ยังเป็นเด็กและได้ใช้ Persona ปกป้องพ่อของเธอตั้งแต่นั้นมา

Judesca 8th floor, Boss: Spastic Turrent และลูกน้อง Slaughter Drive 2 ตัว

      ใส่คำสั่งเพื่อนให้โจมตีเป็นแบบ Knock Down การโจมตีของ Spastic Turrent จะมีทั้ง Agidyne และ Mararigidyne และยังมีท่า Piece Attack อย่าง Vile Assault จะแพ้ทางธาตุน้ำแข็ง แต่ก็จะมีสกิล Evade Ice ส่วน Slaughter Drive จะมีท่าโจมตี Physical ทั้ง Torrent Shot, Deathbound และท่าป้องกันการโจมตีเวทย์อย่าง Metatrakan และยังใช้การโจมตีที่รุนแรงอย่าง Last Resort ก่อนตายอีกด้วย แพ้การโจมตีทางธาตุสายฟ้า แต่ก็มีสกิลEvade Elec และเมื่อ Slaughter Drive ตายหมด Spastic Turrent ก็จะมีสกิล Summon เรียกลูกน้องมาได้อีกเรื่อยๆ

     How to Kill – โจมตี Weakness ดึงเทิร์นไปเรื่อยๆ พยายามเติมเลือดให้เต็มไว้ตลอดเพราะว่า Last Resort อาจทำให้เราตายได้โดยไม่รู้ตัว

      Suggest Persona – Thor 1 ตัวเพื่อนำมาโจมตี Weakness ของ Slaughter Drive และตัวยิงเวทย์น้ำแข็ง 1 ตัวเพื่อนำมาโจมตี Weakness ของ Slaughter Drive

       Suggest Teammate – Akihiko เพื่อนำมาโจมตี Weakness ของ Slaughter Drive และ Metis เพื่อนำมาโจมตี Weakness ของ Spastic Turrent นอกเหนือจากนั้นแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล

Judesca 17th floor, Boss: Conceited Maya และลูกน้อง Jotun of Blood 2 ตัว

      สำหรับ Conceited Maya การโจมตีจะเน้นที่ Weakness ของตัวละครแล้วใช้ท่าซ้ำการโจมตีตัวละครที่ Knock Down ในช่วงแรก Conceited Maya นั้น Absorb การโจมตีทาง Physical ทุกชนิด แต่โจมตีด้วยเวทมนตร์เข้าตามปกติ จากนั้นเมื่อผ่านไปสักพัก มันก็จะเรียก Jotun of Blood ออกมา 2 ตัวโดย Jotun of Blood นั้นจะโจมตีด้วยเวทย์ขั้น 3 ของทุกสายทั้งเวทย์หมู่และเดี่ยว และป้องกันการโจมตีทางเวทย์ทุกชนิด การโจมตีมันทำได้แต่ Physical เท่านั้นจ และการโจมตีของ Conceited Maya จะเปลี่ยนไปเป็นการ Debuff หมู่ใส่เรา ทั้ง Matarunda, Marakunda, Masakunda
สำหรับ Conceited Maya นั้นไม่ยากมากให้กระหน่ำยิงเวทย์ใส่มันไปเลยให้มันตายให้เร็วที่สุด ปัญหาจริงจะอยู่ที่ Jotun of Blood มากกว่าเพราะสามารถยิงเวทย์หมู่ได้รุนแรงแต่ก็มีวิธีจัดการอยู่คือ ให้รีบจัดการ Conceited Maya ให้ตายซะ แล้วสำหรับ Jotun of Blood นั้นให้ใช้ Skill Poison Mist ใส่มันซะ แล้วก็ฮีลถ่วงไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะโดนพิษตายไปเอง

      Suggest Persona – ให้เอา Persona ตัวที่ไม่แพ้ทางเวทย์ใดๆ และมีค่า Magic สูงเพื่อที่จะได้จัดการ Conceited Maya และทนทานต่อการโจมตีด้วยเวทมนตร์ของ Jotun of Blood

       เมื่อถึงชั้นล่างสุดจะเป็นอดีตของ Yukari ที่เพิ่งได้รับจดหมายของพ่อเธอเมื่อ 10 ปีก่อน และทุกคนก็ได้รู้ว่าประตูแต่ละบานได้แสดงถึงเหตุผลที่แต่ละคนมี Persona

Empyrean 9th floor, Boss: Rebellious Cyclops และลูกน้อง Acheron Seeker 2 ตัว

     สำหรับ Rebellious Cyclops จะมีการโจมตี Pierce Attack ทั้ง Poison Arrow และ Primal Force การโจมตี Strike Attack อย่าง Gigantic Fist และ Vicious Strike ท่า Slash Attack อย่าง Vorpol Blade รวมถึงท่าเพิ่มดาเมจ 2 เท่าอย่าง Power Charge ด้วย Absorb น้ำแข็งและลม แต่ไม่แพ้ธาตุใด มี High Counter และอัตราการหลบหลีกการโจมตีที่สูงด้วย ส่วน Acheron Seeker นั้นการโจมตีจะมี Hamaon เวทย์หมู่และเดี่ยวอย่าง Agidyne, Maragidye, Garudyne และ Magarudyne แพ้ทางธาตุไฟและสายฟ้า แต่ก็มี Skill Evade ทั้ง Evade Fire, Evade Elec และ Absorb น้ำแข็งและลม

      ใส่คำสั่งเพื่อนให้โจมตีเป็นแบบ Knock Down ให้พยายามโจมตี Weakness ของ Acheron Seeker เพื่อดึงเทิร์นไว้เพราะว่ามันยิงเวทย์แรงมากถ้าหลุดมาอาจตายยก Party ได้ ส่วน Rebellious Cyclops นั้นรอจังหวะที่มันใช้ Power Charge แล้วให้ใช้ Attack Mirror ไปเนื่องจากตาหน้ามันจะใช้ Vicious Strike หรือ Vorpol Blade

     Suggest Persona – พยายามใช้ตัวที่มีเวทย์ไฟหรือสายฟ้าอย่างใดอย่างหนึ่งและมีสกิล Null หรือ Strength Pierce หรือ Strike

     Suggest Teammate – Akihiko, Ken, Koromaru, Junpei เพราะว่าห้ามให้ Acheron Seeker หลุดมายิงเวทย์เด็ดขาด ดังนั้น Party จึงต้องมีเวทย์ที่จะโจมตี Weakness ของ Acheron Seeker ทุกตัว โดยที่ Junpei แพ้เวทย์ลมอย่าง Garudyne และ Koromaru แพ้เวทย์แสงอย่าง Hamaon แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลว่าจะเลือกใครเข้าทีม

Empyrean 19th floor, Boss: Onnen Musha, Kaiden Musha, Tenjin Musha

     สำหรับบอสตัวนี้เป็นบอสซามูไรบ้าฟันดาบทั้ง 3 ตัว โดย Onnen Musha จะมีสกิล Absorb Ice และ Life Drain ส่วน Tenjin Musha จะมีสกิล Mediarama และสกิลกันเวทย์อย่าง Metratakan และ Kaiden Musha มีเวทย์แสงอย่าง Mahamoan บ้างเป็นครั้งคราว ทุกตัวมีสกิลหลบหลีกอย่าง Premonition ทุกตัวมีสกิลเพิ่มพลังโจมตีอย่าง Matarukaja และ Power Charge มีสกิล Debuff หมู่อย่าง Marakunda มีสกิลเพิ่มโอกาสคริติคอลอย่าง Revolution การโจมตีจะมีทั้ง Pierce Attack อย่าง Poison Arrow และที่ใช้บ่อยที่สุดคือ Slash Attack อย่าง Tempest Slash และทั้ง 3 ตัวไม่มีจุดอ่อน

     How to Kill – สำหรับบอสตัวนี้ให้รีบเก็บไปเป็นตัวๆ โดยการ Assign Target ไปเพราะว่าท่า Tempest Slash นั้นเมื่อใช้กับ Revolution โอกาสติดคริติคอลมีค่อนข้างมากอาจทำให้ตายเรียงตัวได้ เพราะฉะนั้นควรรีบลดจำนวนของมันลงให้เร็วที่สุด แต่วิธีฆ่าก็ไม่ยากเย็นอะไรแค่เราใส่ Persona ที่มีสกิล Null Slash ทั้ง 3 ตัวก็เป็นง่อยแล้ว จากนั้นใช้การจู่โจมทางด้าน Physical ไปเรื่อยๆ

     Suggest Persona – ใช้ตัวอะไรก็ได้ที่มีสกิล Null Slash อาจใช้ Kali หรือ Chernobog หรืออะไรก็ได้แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล

     Suggest Teammate – Metis และ Junpei เพราะท่าโจมตีทาง Physical นั้นใช้ได้ผลกับการต่อสู้ครั้งนี้ นอกเหนือจากนั้นแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล

      เมื่อเข้ามาชั้นสุดท้าย Aigis จะนึกถึงความปรารถนาของตัวเองและนึกถึงตัวเราในอดีต เมื่อคุยเสร็จแล้ว Metis จะรู้ได้ว่าสาเหตุที่ทำให้เกิด Abyss of Time เพราะว่าทุกคนนั้นคิดถึงคนคนเดียวกันนั่นเอง แล้วตัวเราในอดีตที่เป็น Shadow จะออกมาสู้กับพวกเรา

Boss ??? 

     สำหรับบอสตัวนี้จะ Copy Persona ของเพื่อนร่วมทีมเรามาใช้โดยจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ให้สแกนดูว่าตอนนี้เปลี่ยนเป็นตัวอะไร แต่ตัวที่ต้องเจอแน่นอนนั่นก็คือ Persona เก่าของ Aigis นั่นก็คือ Athena ที่มีการโจมตีด้าน Physic ที่รุนแรงทั้ง Strike Attack อย่าง God Hand และ Akasha Art นอกนั้นก็ดูว่าคุณนำ Teammate คนไหนมาก็เปลี่ยน Persona ให้ตรงตามสถานการณ์ บอสตัวนี้ไม่มี Weakness

     How to Kill – ที่น่ากลัวก็คือตอนที่เปลี่ยนเป็น Athena ของ Aigis ซึ่งจะมีการโจมตีทาง Physical ที่รุนแรงและมีโอกาสติดคริติคอลค่อนข้างมาก นอกนั้นก็ดูตามสถานการณ์ไม่ยากเท่าไรเมื่อเทียบกับตัวที่ผ่านมาแต่ต้องเปลี่ยน Persona ให้รับกับการโจมตีของบอสให้ทัน

       Suggest Persona – หลักๆ ก็น่าจะเอา Thor ติดไปด้วย เพราะว่าสามารถกันการโจมตีของ Athena ได้เกือบทั้งหมดส่วนตัวอื่นนั้นก็ใช้หลักว่าเอา Teammate ตัวไหนไปก็อย่าลืมเอา Persona ที่มีสกิล Null เวทย์ของ Teammate ของเราไปด้วย เช่น ถ้าเอา Akihiko ไปก็เอา Thor ไปด้วย

      Suggest Teammate – อย่าเอาเพื่อนร่วมทีมที่มีเวทย์ฆ่ากันเองมาร่วมทีมกัน เช่น เอา Yukari ที่มีเวทย์ลมไปกับ Junpei ที่แพ้ธาตุลม

      เมื่อจัดการได้แล้ว Metis จะอธิบายว่า Shadow กับ Persona นั้นเป็นสิ่งเดียวกันแต่ Shadow จะกำเนิดมาจากจิตที่อ่อนแอ แล้วทุกคนจะได้กุญแจมาคนละดวง ซึ่งทุกคนจะต้องนำกุญแจมารวมกันเพื่อที่จะเปิดประตูบานเดียว แต่ต้องเลือกที่จะเปิดย้อนอดีตเพื่อกลับไปแก้ไขเหตุการณ์หรือกลับปัจจุบันได้แค่อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น ทุกคนจึงเริ่มทะเลาะกันถึงทางเลือกที่จะเปิดประตู สุดท้ายจึงตัดสินใจสู้กันเพื่อแย่งกุญแจ แล้วทุกคนจะเข้าสู่ Arena

ศึกชิงกุญแจ 1 Aigis + Metis Vs. Akihiko + Ken

      ลืม Akihiko และ Ken ที่คุณเคยรู้จักไปเลย เพราะ 2 คนนี้เก่งขึ้นผิดหูผิดตา Akihiko มีสกิล Debuff (สกิลประเภทลดความสเตตัทของฝ่ายตรงข้าม) ทุกอย่าง มีการโจมตี Strike Attack อย่าง Gigantic Fist และเวทย์สายฟ้าขั้น 4 อย่าง Thunder Reign และมีสกิลเพิ่มพลังอย่าง Power Charge และ Null Elec ส่วน Ken มี Diarahan มีสกิลเพิ่มโอกาสติดคริติคอลอย่าง Revolution และมีการโจมตี Perce Attack อย่าง Vile Assault และทั้ง 2 คนมีสกิลหลับหลีกอย่าง Premonition และใดๆ ทั้งสิ้นไม่แพ้ธาตุ

        How to Kill – จัดการ Ken ก่อนเพราะถ้าปล่อยไว้ Ken จะใช้ Diarahan ฟื้นพลังจนเต็ม เพราะฉะนั้นให้มุ่งเป้าจัดการ Ken ก่อน โดยให้ Metis ใช้ Orgia Mode ก็จะสามารถจัดการ Ken รวดเร็วขึ้น จากนั้นเมื่อเหลือ Akihiko ก็ค่อยๆ จัดการ Akihiko ไปเรื่อยๆ

       Suggest Persona – Thor คือตัวเลือกที่ดีและง่ายที่สุดเมื่อเหลือแต่ Akihiko เพราะการโจมตีของเขาจะทำอะไรเราไม่ได้เลย หรือจะใช้ Thor ตั้งแต่ต้นเลยก็ไม่เป็นไร ส่วน Metis นั้นให้ใส่ Khoryu Scale ซึ่งเป็นไอเทมที่ได้มาจาก Khoryu เมื่อเรียนรู้ท่าจนครบโดยจะมีความสามารถ Null Strike ซึ่งเป็นประโยชน์ในการต่อสู้ครั้งนี้มาก

ศึกชิงกุญแจ 2 Aigis + Metis Vs. Junpei + Koromaru

        สำหรับศึกนี้นั้น Koromaru จะมีการโจมตีแบ่งเป็นการโจมตีธรรมดาแบบ Slash Attack มีเวทย์ดูพลังอย่าง Life Drain เวทย์ไฟอย่าง Agidyne และ Maragidyne เวทย์ความมืดอย่าง Mudoon และสกิลที่ทำให้การติดสถานะง่ายขึ้นอย่าง Stagnant Air และท่าติด Fear หมู่อย่าง Evil Smile ส่วน Junpei จะมีการโจมตี Slash Attack อย่าง Vorpal Blade และเวทย์ไฟอย่าง Agidyne และ Maragidyne แถมยังมีสกิล Fire Break อีกด้วยแถมยังมีสกิล Panic หมู่อย่าง Tentarafoo และสกิลเพิ่ม Defend อย่าง Marukunaja โดยที่ทั้ง 2 คนมี High Counter ไว้ Counter การโจมตีของเราทั้งคู่ Null Fire และไม่แพ้ธาตุใดๆ ทั้งสิ้น

        How to Kill – เหมือนแมตช์แรกแต่เปลี่ยนเป้าหมายเป็น Koromaru แทน โดย Metis ให้ใช้ Orgia Mode เหมือนเดิม พอเหลือ Junpei ก็ค่อยๆ จัดการไป ถ้ามีสกิล Tetrarakan ซึ่งเป็นสกิลที่ให้ผลแบบเดียวกับการใช้ Attack Mirror ก็ควรนำมาใช้เพราะ Junpei ชอบใช้ Vorpal Blade
Suggest persona – หา Persona ที่มีสกิล Null Slash มาใช้ เช่น Kali แล้วใส่แหวน Null Fire ที่ได้มาจากการฝึก Surt จนได้ท่าครบ แค่นี้ทั้ง Junpei และ Koromaru ก็ไม่สามารถทำอะไรเราได้แล้ว

ศึกชิงกุญแจ 3 Aigis + Metis Vs. Yukari + Mitsuru

       สำหรับศึกนี้ Yukari จะมีเวทย์โจมตีธาตุลมอย่าง Panta Rhei และ Magarudyne มีสกิล Pierce Attack หมู่อย่าง Myriad Arrow แถมตอนใกล้ตายยังมี Diarahan ไว้ฮีลตัวเองอีกต่างหาก และมีสกิล Null Wind สำหรับ Mitsuru นั้นมีเวทย์โจมตีอย่าง Niflheim และ Mabufudyne และมีสกิล Slash Attack หมู่อย่าง Vorpal Blade และสกิล Null Iceและทั้งคู่สกิลหลบหลีกอย่าง Angelic Grace และสกิลโจมตีไร้ธาตุอย่าง Megidolaon เมื่อใกล้ตายอีกด้วย

        How to Kill – จัดการ Yukari ก่อนโดยให้ Metis ใช้ Orgia Mode จากนั้นค่อยมาจัดการกับ Mitsuru ทีหลัง สำหรับสกิลตีหมู่ของทั้งคู่นั้น ถ้า Tetrarakan ก็ใช้ไปเพราะว่าทั้งคู่ไม่ค่อยใช้เวทย์แต่จะเน้น Physical Attack มากกว่า พยายามจัดการให้เลือดของ Mitsuru เหลือน้อยที่สุดก่อนช่วงสุดท้ายเพราะว่า Mitsuru จะเปลี่ยนการโจมตีเป็น Megidolaon ทุกเทิร์น

         Suggest Persona – Yurlunger ที่มีสกิล Null Slash และ Null Pierce เพราะ Yurlunger กันทั้ง เวทย์น้ำแข็งและเวทย์ลม โดยการผสมนั้นก็มีวัตถุดิบเลยคือ Khoryu และ Chernobog แล้วก็ลองผสมดูจนกว่าจะได้แล้วกันจะทำให้การต่อสู้ครั้งนี้ง่ายขึ้น

        เมื่อชนะหมดแล้วกุญแจของทุกคนจะนำมารวมกัน แล้วทุกคนก็จะกลับมา จากนั้นเมื่อทุกคนเริ่มนึกถึงประตู Paulowian Mall ว่ารู้สึกถึงอะไรแปลกๆ เมื่อเข้ามาแล้วทุกคนจะพบประตูใหญ่อีกอันนึงอยู่ใจกลาง Desert of Doors เมื่อเข้าไปแล้วจะเป็นคัทซีนเหตุการณ์ในอดีตช่วงที่เราสู้กับ Nyx และสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ตัวเราตายก็คือเรายอมแลกตัวเองเพื่อผนึก Nyx เอาไว้ จากนั้น Shadow ยักษ์จะพยายามมาปลดผนึก Nyx แล้วเราต้องสู้กับมัน

Last Boss: Erebus

        เป็นบอสที่มีสกิลทุกอย่างที่เกมนี้มี ยิงเวทย์หมู่และเวทย์ขั้น 4 ได้ทุกสาย มีทั้งการโจมตี Physic ทั้งเดี่ยวและหมู่ มีท่า Almighty หมู่ มีสกิล Debuff หมู่ สกิลติดสถานะหมู่ทั้ง Fear และ Panic มีท่าโจมตีทีเดียวตายถ้าเบรกไม่ทัน Erebus ไม่แพ้ธาตุอะไรและก็ไม่มีสกิลดูดซับธาตุเช่นเดียวกัน

       How to Kill – ขั้นแรกให้ Akihiko Set เป็น Heal and Support เพื่อ Debuff Boss ตั้งแต่ต้น ให้เพื่อนอีก 2 คนทำดาเมจใส่บอส แล้วเราคอยเป็นคนฮีลและ Support ถ้ามีสกิล Buff Attack หรือ Defend หมู่ อย่าง Matarukaja หรือ Marakunaja จะดีมาก ถ้ามีสกิลสะท้อนเวทย์และการโจมตี Tetrakan หรือ Metratakan ให้ใช้รอไว้เลยทั้ง 2 อย่างหรือใช้เป็น Attack Mirror หรือ Magic Mirror ก็ได้ เมื่อสู้ไปสักพัก Erebus จะเริ่มรวบรวมพลังเพื่อโจมตีเป็นลูกกลมๆ ชื่อว่า Dark Embrace ให้เราอาศัยจังหวะนี้โจมตีไปเรื่อยๆ ในช่วงนี้เพราะดาเมจที่ทำได้จะเยอะกว่าปกติเมื่อเราทำดาเมจถึงจุดหนึ่งลูกกลมๆ นั้นจะสลายไป และ Erebus จะไม่สามารถทำอะไรเราได้ 1 เทิร์น อาศัยตอนนี้ฮีลแต่ถ้าทำไม่สำเร็จ Erebus จะปล่อยการโจมตีซึ่งแรงมากถ้าไม่ Debuff ก็อาจโดนทีเดียวตาย การต่อสู้ก็จะวนๆ อยู่อย่างนี้จนกว่ามันจะตาย ให้ระวังพวกสกิลที่ทำให้เกิดอาการผิดปกติไว้ถ้าจำเป็นให้รีบรักษา ไม่ยากมาก แต่ก็ไม่ง่ายมาก ขอให้โชคดี เสร็จแล้วก็รอดูฉากจบ

     Suggest Persona – คิดว่าตัวไหนเจ๋งสุดก็ใส่ไปเลย

      Suggest Teammate – เอา Akihiko ไว้คนนึง นอกนั้นก็ตามความชอบส่วนบุคคล

     เมื่อปราบเสร็จแล้วทุกคนจะมารวมกันที่ห้องโถงและได้ให้ Aigis เปิดประตู แล้วจะพบกับฉากจบครับ

 

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้