มาแล้ว !! DotA 6.55 Beta 30 แถมอีก 1 Hero ใหม่ Alleria the Wind Runner พร้อมโหลด

แชร์เรื่องนี้:
มาแล้ว !!  DotA 6.55 Beta 30 แถมอีก 1 Hero ใหม่ Alleria the Wind Runner พร้อมโหลด

     ครั้งที่แล้วเรานำเสนอความเปลี่ยนแปลงใน DotA Beta 7 ไป ซึ่งขณะนี้ได้ล่วงเลยมาถึง Beta 30 แล้วครับ ( ไวจัง )ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นอีกมากมาย ทั้งไอเท็มใหม่ และฮีโร่ใหม่อีกหนึ่งตัว ( เพิ่มเข้าไปตั้งแต่ Beta 20 ) เราจะไปไล่ดูรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจกันก่อนว่ามีอะไรบ้าง แล้วไปดูฮีโร่ใหม่กันครับ 

ความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับ Game Play

จัดตำแหน่งฐานของทั้งสองฝ่ายใหม่ รวมทั้งตำแหน่งของ Tavern

     ตอนนี้ Tavern ของฝ่าย Sentinel จะอยู่ทางขวาล่างของแมป ส่วน Tavern ของ Scourge จะอยู่ทางซ้ายบนของแมป ส่วนฐานของทั้งสองฝ่ายก็ถูกจัดเรียงใหม่ ( เน้นไปทาง Sentinel ) โดยบ่อน้ำของทาง Sentinel จะตั้งลึกเข้าไปด้านหลัง World Tree เพื่อให้สมดุลกับที่ฝั่ง Scourge มีบ่อน้ำอยู่หลัง Frozen Throne เหมือนกัน

ความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับ Item

Crow
ตอนนี้จะไม่มีการอัพเกรดขั้นสองที่อัพเกรดให้มีมานาได้อีกแล้ว นั่นแปลว่าจะไม่สามารถใช้นกในการบินร่อนไปปัก Ward ตามจุดต่างๆได้อีก อันนี้ส่งผลต่อกลยุทธการเล่นในทัวร์นาเมนท์แน่นอนครับ

Kelen’s Dagger
การโจมตีที่จะทำให้ Kelen’s Dagger ปิดผนึกการใช้งานนั้นจะต้องมาจาก Hero เท่านั้น นั่นหมายความว่าแม้จะโดนครีป หรือป้อมโจมตี ก็จะยังใช้งาน Kelen’s Dagger ได้ อันนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากเช่นกัน ต้องดูว่า Kelen’s Dagger จะกลับมาเป็น Tournament Item ได้อีกครั้งหรือไม่

ไอเท็มใหม่ Phase Boot

สร้างจาก Boots of Speed + Chain mail + Blades of Attack ( ไม่ต้องใช้ Recipe ) มีโบนัส +70 Move Speed, +16 Damage, +7 Armor สามารถใช้สกิล Phase Walk ได้ ( มีผล 5 วินาที ) เมื่อกดใช้จะเพิ่ม Move Speed อีก 10% และวิ่งทะลุยูนิทต่างๆได้เหมือนอยู่ในสภาพ Wind Walk ( แต่ไม่ล่องหน ) จัดเป็นไอเท็มที่น่าสนใจทีเดียว เป็นตัวเลือกสำหรับฮีโร่ที่ไม่ต้องการ Attack Speed อีกทางหนึ่ง สกิล Phase Walk ก็ใช้งานได้ดีด้วย

Scroll of town Portal
ไม่มี cooldown ในการซื้อแล้ว คือซื้อได้เรื่อยๆเหมือน Tango ไม่ต้องยืนเบียดรอแย่งซื้อกัน หรือโดนคนซื้อตัดหน้าแล้วต้องยืนรอให้รำคาญใจอีก

Lothar’s Edge
เปลี่ยนสูตรเป็น Claymore + Quarterstaff + recipe ราคา 1400 ( รวมมูลค่าแล้วจะถูกลงกว่าเดิม 300 ) แต่โบนัสจะเหลือ +31 Damage, +10 Attack Speed แทน ทำให้เป็นไอเท็มที่เปิดกว้างมากขึ้น ใครๆก็สามารถสร้างไปใช้โดยไม่ต้องคำนึงถึงโบนัสนั่นเอง

Diffusal Blade
เปลี่ยนสูตรเป็น Blade of Alacrity สองอัน + Robe of Magi + recipe ราคา 850 ( รวมมูลค่าแล้วแพงกว่าเดิม 300 ) แต่โบนัสจะกลายเป็น +25 Agi, +6 Int แทน อันนี้ก็ทำให้เฉพาะทางกับฮีโร่สาย Agi มากขึ้น เพื่อให้ฮีโร่สายอื่นๆสร้างไปใช้แล้วได้โบนัสไม่คุ้มกับราคานั่นเอง

Sange & Yasha
ลดราคา Recipe ลงเหลือ 500 และลดโบนัส Move Speed กับ Damage ลงด้วย

Glyph of Fortification
เป็นสกิลที่ร้านขายของ ซึ่งเมื่อกดใช้แล้วจะ +9999 Armor ให้กับสิ่งก่อสร้างฝ่ายเราทุกหลัง เป็นเวลา 4 วินาที มี cooldown 6 นาที ใช้ในการเซฟป้อมได้ มีผลเหมือนกับวาปด้วย Town Portal ไปหาป้อม แต่จริงๆแล้ว 4 วินาทีก็ไม่ใช่เวลานานนัก แต่มีผลต่อแทคติกการโจมตีและป้องกันฐานแน่นอน

ตัวช่วยกันป้อมตัวใหม่

Blade of Attack
ลดราคาลงเหลือ 500 จากเดิม 650

Glove of Haste
ลดราคาลงเหลือ 500จากเดิม 550

Armlet of Mordiggian
เพิ่มราคา Recipe เป็น 900 จากเดิม 700

Forest Shop
ร้านขายของในป่า ตอนนี้เคลียร์ต้นไม้ให้โล่งขึ้น และมี Town Portal ขายด้วย ทำให้เดินทางได้สะดวกขึ้นอีกเยอะเลย

โล่งขึ้น และมี Town portal ขายด้วย

Aegis of Immortal
เมื่อตายขณะถือ Aegis จะไม่ฟื้นคืนชีพที่บ่อน้ำของตัวเองแล้ว แต่จะคืนชีพตรงจุดที่ตายการแทน การปรับนี้ มีผลกับความได้เปรียบเสียเปรียบของการมี Aegis มากทีเดียว การหลับหูหลับตาวิ่งเพราะถือว่ามี Aegis ติดตัว คงทำไม่ได้อีกแล้ว

Vanguard
เพิ่มโบนัส HP เป็น 300 จากเดิม 250

Heart of Tarrasque
เพิ่มโบนัสการรีเจนเป็น 15 แต้มต่อวินาที จากเดิม 11 แต้มต่อวินาที ( สะใจขาถึกเขาละงานนี้ )

การเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับ Hero

Keeper of the Light

     เปลี่ยน Mana Leak เป็น Mana Rupture ( จริงๆเปลี่ยนตั้งแต่ Beta 7 ) ทำงานเหมือนสกิล Rupture ของ Blood Seeker แต่อันนี้ยิ่งวิ่งยิ่งเสีย Mana แทน และเอาสกิล Spirit Displacement ของ Light Form ออกแล้ว นอกนั้นยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

Admiral Proudmoore

     สกิล Rum กลายเป็นสกิล Ultimate และเปลี่ยนโบนัสเป็น โจมตีติดคริติคอล 100% ( ดาเมจสองเท่า ) เป็นเวลา 3/4/5 วินาที ไม่โอกาสโจมตีพลาดอีกแล้ว งานนี้อาจได้เห็นขาโหดเกิดอีกตัวนึงแล้ว และเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของ Ghost Ship กับ X mark the spot ด้วย

ฮีโร่ใหม่ Alleria the Wind Runner

ไปดูรายละเอียดแบบเต็มๆกันข้างล่างเลยดีกว่าครับ

Alleria the Wind Runner

     ดูผ่านๆอาจเข้าใจผิดคิดว่าเป็นฮีโร่สาย AGI แต่ความจริงแล้ว Wind Runner เป็นฮีโร่สาย INT ครับ สกิลส่วนใหญ่จะเป็นบัพการโจมตีและการโจมตีแบบพิเศษ เป็นฮีโร่ไสตล์ Battle Mage นั่นเอง ไปดูสกิลของ Wind Runner กันเลยดีกว่า

Shackles Shot

     สกิลนี้เมื่อยิงใส่เป้าหมาย จะทำการล่ามเป้าหมายกับยูนิทพันธมิตรใกล้ๆ ด้วยโซ่เวทย์มนต์ ทำให้ทั้งเป้าหมายหลักและยูนิทอีกตัวหนึ่งติดสตันในชั่วระยะเวลาหนึ่ง ( ประมาน 3 วินาที ) แต่ถ้ายิงใส่เป้าหมายเดี่ยวๆจะสตันเพียงแค่ 0.5 วินาทีเท่านั้น

แนวคิดดี แต่ใช้ยากไปนิดส์

     การเล็งเป้าเพื่อให้เกิดผลสูงสุดคือต้องเล็งเป้าหมายที่มียูนิทพันธมิตรยืนอยู่ด้านหลัง อาจห่างออกไปสักระยะ 300 ก็ยังเกิดผลได้ ตำแหน่งการยิงนั้นสำคัญมากเพราะถ้าไม่มีตัวอะไรอยู่ด้านหลังในระยะนั้น สกิลนี้จะแทบไม่มีผลอะไรเลย จัดว่าเป็นสกิลที่ใช้งานยาก แต่อย่างน้อยก็ใช้หยุดการ Channeling ได้

Power Shot

     อาจเรียกว่าเป็นสกิล Nuke ก็ว่าได้ แต่เป็น Nuke แบบ Line คือยิงทำดาเมจเป็นเส้นตรง สกิลนี้จะยิงลูกธนูพุ่งทะลุฝ่ายตรงข้ามทุกตัวเป็นแนวตรง นอกจากทำดาเมจแล้วยังโค่นต้นไม้ได้ด้วย เป็นสกิลที่เล็งลงพื้นได้ พุ่งเป็นระยะไกลประมาน 3500 และมีรัศมีกว้างประมาน 200 ที่เลเวล 4 จะมีดาเมจประมาน 360 แต่ว่ายิ่งทะลุเป้าหมายหลายตัว พลังทำลายก็จะยิ่งลดลง ( คาดว่าดาเมจจะลดลงราวๆ 10% ต่อการทะลุ 1 เป้าหมาย ) มี Casting Delay 0.5 วินาที

เป็นสกิลยิงที่สะใจได้อารมดีทีเดียว

     เป็นสกิลยิงที่ใช้งานดี การทำงานคล้ายๆ Elune’s Arrow ของ Mirana แต่แทนที่จะสตันก็ยิงทะลุเพื่อทำดาเมจ และมีความเร็วของลูกศรเยอะกว่ามาก ใช้ยิงปิดดาเมจ ฆ่าศัตรูที่กำลังหนีก็ได้ นอกจากนี้การที่โค่นต้นไม้ได้ ทำให้ใช้เปิดเส้นทางในการเข้าโจมตี หรือหลบหนีได้อีกด้วย

Wind Runner

     เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ขึ้นจนถึง 50% และ Evasion 100 %เป็นชั่วระยะเวลา 3/4/5/6 วินาทีตามเลเวลสกิล สกิลนี้เป็นสกิลที่ต้องร่าย ดังนั้นเมื่อใช้แล้วจะหยุดการกระทำอย่างอื่น จึงต้องออกคำสั่งเพื่อวิ่งต่อด้วย ( อาจปรับให้ใช้งานสะดวกกว่านี้ในเวอร์ชั่นเต็ม )

ไร้เทียมทาน 6 วินาที แต่อย่าไปเจอ Nuker นะ

     จุดเด่นคือ Evasion 100% ซึ่งเท่ากับในช่วงเวลานั้นจะไม่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีปกติเลย ความเร็วในการเคลื่อนที่ก็น่าพอใจด้วย ใช้งานได้ดีทั้งในการไล่ล่าและหลบหนีฝ่ายตรงข้าม การไม่ถูกโจมตีเลยเป็นเวลา 6 วินาทีก็นับว่าสร้างความได้เปรียบในการต่อสู้ได้อย่างมาก

Focus Fire

     เป็นสกิลโจมตีแบบเล็งเป้าหมาย เมื่อใช้โจมตีเป้าหมายใดๆแล้ว Wind Runner จะได้รับการบัพ Max Attack Speed คือโจมตีเป้าหมายด้วยความเร็วสูงสุดต่อเป้าหมายนั้น เป็นจำนวน 9 ครั้งติดต่อกัน ( ด้วยความเร็วสูงสุดก็จะใช้เวลาประมาน 3 วินาที ในการโจมตีเป้าหมายครบ 9 ครั้ง ) ความแรงในการโจมตีจะลดลงในเลเวลแรกๆ แต่จะเป็นปกติในเลเวลสุดท้าย ( คือดาเมจจะเหลือประมาน 33% / 66% / 100% ต่อเลเวล ) เป็นสกิลบัพการโจมตีที่ใช้ได้ทีเดียว การเพิ่มสปีดการโจมตีจนถึงขีดสุดเป็นจำนวน 9 ครั้งทำความเสียหายได้สูงมากโดยเฉพาะถ้าเสริมด้วยไอเท็มเร่งดาเมจต่างๆ เพียงแต่ใช้มานาค่อนข้างเยอะไปนิด

บัพโจมตีที่สุดยอดมาก แต่ใช้มานาสุดยอดเช่นกัน

     จุดเด่นของ Wind Runner คือการที่เป็น Battle Mage สกิลแต่ละสกิลมีคูลดาวน์ไม่เยอะนัก แต่ใช้มานาสูงมากเพราะตัว Wind Runner เป็นสาย INT แต่ละสกิลจึงใช้มานา 100 แต้มขึ้นไปทั้งนั้น ( Focus Fire เลเวล 4 ใช้มานา 400 ) ไสตล์การเล่นและออกไอเท็มจึงอาจจะออกแปลกๆสักนิด ถ้าเน้นดาเมจก็จะใช้สกิลซ้ำได้ลำบาก แต่คอมโบการโจมตีได้รุนแรง หรือถ้าเน้นเล่นสกิลก็จะมีดาเมจไม่สูงนัก ขึ้นกับไสตล์ของผู้เล่นจะเลือกเล่น แต่เช่นเคยครับ นี่ยังเป็น Beta อยู่ อาจยังมีการปรับปรุงอีกเยอะก่อนออเวอร์ชั่นเต็ม ( หรือแม้แต่อาจไม่มี Wind Runner ลงในเวอร์ชั่นเต็มก็ได้ ) ดังนั้นต้องติดตามดูกันต่อไปครับ ถ้ามีข่าวคราวอัพเดทเกี่ยวกับเวอร์ชั่นเบต้าอีกจะนำมาฝากอีกนะครับ

>>>ดาวน์โหลด DotA 6.55 Beta 30 คลิก<<<

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ