การที่จะเล่นเอาชนะคู่แข่ง คงจะไม่ใช่เรื่องยากนัก ถ้าคุณใส่ใจกับแผนการเล่นของเขา หรือแม้กระทั่งแผนการเล่นของคุณเอง และต้องคิดให้ทันเกมอยู่เสมอด้วย ไม่ใช่ว่าสักแต่เล่น เตะไปเรื่อยเปื่อย... ยิงเข้าหรือโดนยิงเดี๋ยวก็รู้เอง ซึ่งถ้าคุณเป็นอย่างนั้นแล้ว คงยากที่จะเป็นแชมป์โลกอย่างผมได้ (กล้าพูดนะคนเรา ๕๕๕+)
4 - 3 - 3
เป็นแผนการเล่นที่เน้นการบุก และได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะเล่นง่ายเนื่องจากมีกองหน้าถึง 3 คน ได้บอลมาก็แทงบอลให้กองหน้า วิ่งๆ โยนๆ เจาะๆ เดี๋ยวก็ได้ประตูเอง แผนนี้จึงเหมาะสมที่จะใช้กับทีมที่มีกองหน้าเก่งเยอะๆ โดยเฉพาะกองหน้าที่มีความเร็วสูง เอาไปเล่นในตำแหน่งกองหน้าทางซ้าย (LS) กับกองหน้าทางขวา (RS) และสำหรับกองหน้าตัวกลาง (ST) ถ้าจะให้ดีต้องแข็งแรง โหม่งเก่ง ตัวใหญ่ เพื่อรอทำประตูจากลูกโยนจากกองหน้าทาง 2 ฝั่ง และจุดเด่นที่สุดของแผนนี้คือเกมบุกสวนกลับอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะถ้ากองหน้าทางซ้ายกับกองหน้าทางขวามีความเร็วจี๊ดสุดๆ รับรองว่าเกมบุกสวนกลับของคุณจะน่ากลัวอย่างยิ่ง ส่วนกองกลาง 3 คนนั้น จะไม่ค่อยมีบทบาทกับเกมสักเท่าไหร่นัก เพราะใช้แค่เป็นตัวผ่านบอลจากกองหน้าไปกองหลังเท่านั้น แต่ก็มีบ้างบางโอกาสที่จะได้ยิงไกลเข้าประตูไป ทางด้านกองหลังมี 4 คน โดยมีกองหลังตัวกลางด้านซ้าย (LCB), กองหลังตัวกลางด้านขวา (RCB), แบ็คซ้าย (LB), แบ็คขวา (RB) และอีกหน้าที่หนึ่งของแบ็คซ้ายกับแบ็คขวา คือการบุกขึ้นไปเติมเพื่อช่วยทำประตู ดังนั้นถ้าเห็นว่ารูปเกมเริ่มตัน เจาะไม่ได้ ให้ใจเย็น แล้วรอให้ แบ็คซ้าย หรือแบ็คขวาขึ้นมาเติมเกมบุกก่อน
จุดด้อยของแผนนี้คือกองกลางน้อย ทำให้การต่อบอลจากกองกลางไปกองหน้าอาจจะโดนตัดบอลได้บ่อยครั้ง และเนื่องจากเป็นแผนที่มีรูปแบบการเล่นที่ค่อนข้างแน่นอน คือกองหน้า 3 คนบุก ดังนั้นถ้าต้องไปเจอกับคู่แข่งที่เก๋าเกม ลำบากไม่น้อยเชียวล่ะ บางทีเกมบุกสวนกลับที่ว่าแรงๆ ของคุณอาจจะโดนปิดตายเลยก็ได้ และให้ระวังการเติมเกมบุกของแบ็คซ้ายกับแบ็คขวาให้ดี ถ้าพลาดโดนตัดบอลกลับมาได้ นั่นหมายความว่าตำแหน่งแบ็คซ้ายหรือแบ็คขวาที่เติมเกมบุกขึ้นไปว่างอยู่... ผมว่าคุณกำลังโดนบุกสวนกลับแล้วล่ะ โอกาสเสียประตูมาถึงแล้ว!!
3 - 5 - 2
เป็นแผนการเล่นออกแนวเทคนิคสูง ด้วยการบุกหลายรูปแบบทำให้ยากแก่การป้องกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าแผนนี้มีกองกลางถึง 5 คน ดังนั้นถ้ากองหน้า 2 คน ทำเกมบุกไม่ได้ กองกลางทั้ง 5 ก็พร้อมที่จะทำเกมบุกเสมอ โดยเฉพาะปีกซ้าย (LMF) กับปีกขวา (RMF) ที่จะคอยบุกขึ้นมาโยนบอลอย่างต่อเนื่อง หรือถ้ามีโอกาสจะทำประตูเองเลย หรือแม้กระทั่งเกมบุกสวนกลับก็ต้องพึ่งทั้ง 2 ตำแหน่งนี้ และอีกตำแหน่งที่ต้องเก่งเช่นกันคือกองกลางตัวรุกตรงกลาง (CAM) เพราะจะเป็นคนต่อบอลหลักจากตำแหน่งหนึ่งไปอีกตำแหน่งหนึ่ง ดังนั้นแผนนี้ฟันธงว่าปีกซ้าย, ปีกขวา และตัวรุกตรงกลางต้องเก่ง!! ส่วนทางด้านเกมรับนั้นแม้ว่าจะมีแค่ 3 คนคือ กองหลังตัวกลางด้านซ้าย (LCB), กองหลังตัวกลางด้านขวา (RCB) และกองหลังตัวกลาง (CB) แต่ก็ยังมีกองกลางช่วยเกมป้องกันอีก 2 คนคือ กองกลางด้านซ้าย (LCDM) กับกองกลางด้านขวา (RCDM) หรือที่เรียกกันติดปากว่ามิดฟิลด์ตัวรับ ซึ่งถ้าเห็นรูปเกมเสียเปรียบทั้ง 2 ตำแหน่งนี้จะต้องทำหน้าที่ตัดเกมคู่แข่ง (เสียบขาดยอมเสียฟาล์ว) และบางครั้งก็ส่วนร่วมในเกมบุกด้วย คือถ้าทีมบุกไม่ขึ้น ทั้ง 2 แหน่งนี้จะดันเกมโดยการบุกขึ้นไปเอง ซึ่งหลายๆ ครั้งๆ ที่คู่แข่งมักจะเสียขบวนปรับตัวไม่ทัน ทำให้เสียประตูไป จึงเป็นอีก 2 ตำแหน่งที่มีความสำคัญมากเช่นกัน
จุดด้อยของแผนนี้คือเนื่องจากเกมบุกหลักจะต้องใช้การโยนจากปีกซ้ายกับปีกขวาเข้าไป แล้วถ้าต้องไปเจอกองหลังสูงๆ ใหญ่ๆ ที่เล่นลูกกลางอากาศได้ดี การทำประตูจากการโยนอาจจะได้ประตูได้ยากมาก และเนื่องจากไม่มีแบ็คซ้ายกับแบ็คขวา พื้นที่ในส่วนนั้นจึงกลายเป็นบ่อน้ำมัน ยิ่งถ้าต้องไปเจอกับทีมที่เน้นการเจาะพื้นที่ด้านข้างด้วยละก็งานช้าง และที่ต้องระวังให้หนักคือการหลุดตำแหน่งของกองกลางด้านซ้ายกับกองกลางด้านขวา เพราะถือว่าเป็นตัวตัดเกมที่สำคัญ ถ้าหลุดตำแหน่งไปละก็กองหลังทั้ง 3 คนเตรียมตัวเหนื่อยได้เลย
4 - 4 - 2
เป็นแผนการเล่นออกแนวตั้งรับ โดยทิ้งกองหน้าไว้เพียง 2 คน และใช้กองกลาง 4 คน กับกองหลังอีก 4 คน ซึ่งการบุกแต่ละครั้งนั้น ถ้ากองหน้าเจาะไม่ได้ ก็จะต้องรอกองกลางบุกเติมขึ้นไป หรือรอให้แบ็คซ้ายกับแบ็คขวาเติมเกมบุกเติมขึ้นไป ภาพโดยรวมเป็นแผนแห่งความอดทน และรอโอกาสสวนกลับ เหมาะสำหรับคนที่มีความอดทนสูงเล่นเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน
จุดด้อยของแผนนี้คือถ้าต้องไปเจอกับคู่แข่งที่ไม่รั่ว ไม่รีบ ไม่เปิดโอกาสให้เห็นความผิดพลาด คุณก็เจาะประตูเขายากเหมือนกัน โดยเฉพาะคู่แข่งที่เก๋าเกม มองเกมขาดว่าคุณจะต้องมาแนวอดทน การแพ้ชนะอาจจะเฉือนกันแค่ประตูเดียว หรืออาจจะเสมอกันเลยก็ได้
5 - 4 - 1
เป็นแผนการตั้งรับ 100% เพราะใช้กองหลังถึง 5 คน และการบุกจะเป็นไปอย่างช้าๆ แล้วรอให้เพื่อนร่วมทีมเติมอย่างเดียว ซึ่งโอกาสบุกสวยๆ จะมีไม่มากนัก จึงต้องใช้ให้คุ้ม ส่วนมากแล้วจะเป็นการโยนบอลจากแบ็คซ้ายกับแบ็คขวาเข้ากลางไปซะมากกว่า แล้วถ้าโดนตัดบอลได้ในขณะที่แบ็คซ้ายกับแบ็คขวากำลังบุกขึ้นไป ก็ไม่มีผลเสียอะไรเนื่องจากมีกองหลังอีก 3 คนคอยป้องกัน และกองหน้าตัวเป้าเพียงคนเดียวจะต้องรูปร่างสูง ใหญ่ แข็งแรง สามารถครองบอล และเล่นลูกกลางอากาศได้ดี ต้องเป็นความหวังของทีมได้
จุดด้อยของแผนนี้คือทำประตูได้น้อย เพราะมีกองหน้าเพียงคนเดียว ยิ่งถ้าต้องไปเจอกับทีมที่เล่นเกมป้องกันด้วยกันแล้วละก็ เหมือนกันเกมพิสูจน์ความอดทน ใครพลาดก่อนก็จบ...
3 - 4 - 3
เป็นแผนการบุก 100% เพราะใช้กองหน้า 3 คน และกองกลางอีก 4 คน จึงเล่นเกมบุกได้ทุกรูปแบบ แต่แผนนี้นิยมใช้กันก็ต่อเมื่อต้องการประตูเท่านั้น เช่น เวลาเหลืออีก 5 นาที ตามอยู่ 1 ลูก ก็คงต้องงัดแผนนี้มาใช้กัน และน้อยคนนักที่จะใช้แผนนี้ตั้งแต่ต้น เพราะถ้าต้องไปเจอกับทีมป้องกันชั้นยอด ต่อให้รูปแบบการบุกดีแค่ไหนก็ใช่ว่าจะพังประตูกันได้ง่ายๆ
จุดด้อยของแผนนี้คือเกมป้องกันที่อ่อนมาก เพราะมีกองหลัง 3 คน แถมมีกองกลางช่วยเกมรับแค่คนเดียว หรือพูดง่ายๆ ว่าแม้ว่าจะบุกหนัก แต่ก็โดนสวนกลับมาหนักเช่นกัน เผลอๆ จะเสียประตูเอาเลยก็ได้
ทั้ง 5 แผนที่ว่ามาเป็นแผนการเล่นหลักๆ ที่ผู้เล่นนิยมใช้กัน ส่วนแผนการเล่นรายละเอียดยิบย่อยอื่นๆ เช่น 4 - 3 - 2 - 1 มันก็คือแผน 4 - 3 - 3 นั่นแหละ เพียงแต่ว่ากองหน้า 3 คน แยกออกมาเป็นระบบ 2 - 1 เท่านั้นเอง ก็ลองนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกันนะครับ