เป็นเวลาหลายเดือนแล้วนับตั้งแต่วันเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Starcraft II เราได้เห็นและรับรู้ข้อมูลของเหล่าแมลงอวกาศ Zerg แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่บัดนี้ทาง Blizzard ไม่เพียงแต่จะเปิดเผยการกลับมาของ Zerg เผ่าซึ่งได้รับการวิวัฒนาการไปมากที่สุดจากทั้ง 3 เผ่า นับตั้งแต่ Starcraft ภาคก่อน แถมเรายังมีโอกาสได้เล่นพวกมันอีกด้วย!
(คำแก้ต่าง: Blizzard ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่าเกมยังต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 6 เดือนก่อนวางจำหน่าย และแทบจะทุกองค์ประกอบของเกมยังอยู่ในขั้นตอนการปรับปรุงในขณะที่ทีมพัฒนานั้นได้ทดลองไอเดียใหม่ๆ เพื่อค้นหาวิธีที่ดีและเป็นเอกเทศที่สุดในการสมดุลเผ่าทั้ง 3 รายละเอียดที่ท่านจะได้รับรู้นี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อครั้งเกมออกจำหน่าย แต่ภาพที่ท่านจะได้เห็นนี้คือภาพจากเกมที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน)
เมื่อได้ควบคุมกองทัพ Zerg สิ่งแรกที่โดดเด่นที่สุดสำหรับผมก็คือราชินี Zerg ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ใน Starcraft ภาคแรกนั้น ยูนิตราชินีเป็นยูนิตสนับสนุนระดับสูง แต่สำหรับในภาคนี้ราชินีจะดูยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าภาคเก่าในฐานะผู้ปกป้องดวงดาวอันน่าสะพรึง เมื่อคุณสร้าง Spawning Pool หรือบ่อที่ให้กำเนิดเหล่า Zergling ในตอนต้นเกม ยูนิตราชินี (สามารถมีได้ครั้งละ 1 ตัวเท่านั้น) จะถือกำเนิดขึ้นโดยตรงจากรัง ราชินีนั้นทั้งสง่างามและน่ากลัวด้วยกรงเล็บอันยาวสำหรับฟาดเข้าใส่เหล่าศัตรูทั้งบนบกและอากาศ และเธอยังมีความสามารถอันแข็งแกร่ง อย่างเช่น Toxic Creep (ซึ่งทำให้ศัตรูที่อยู่ในบริเวณรังของ Zerg ได้รับบาดเจ็บ) หรือความสามารถในการรักษาซึ่งสามารถเพิ่มพลังให้กับสิ่งก่อสร้างของเหล่า Zerg ได้หลายร้อยแต้ม ขอบอกว่าแค่ยูนิตราชินีตัวเดียวเท่านั้นได้ช่วยชีวิตผมมาหลายต่อหลายครั้ง จากการถูกบุกเร็วจากทหารของฝ่าย Terran ด้วยสิ่งก่อสร้างที่ใช้ป้องกันซึ่งราชินีเป็นผู้ให้กำเนิดขึ้นมา
นอกจากราชินีแล้วยูนิตใหม่ยูนิตแรกที่ผมได้ใช้ก็คือ Roach คล้ายกับชื่อของมัน (แมลงสาบ) ยูนิต Roach นั้นจัดการบดขยี้ได้ยากยิ่งนัก ความสามารถพิเศษที่ทำให้พวกมันนั้นทนทายาดนั่นก็คือ ความสามารถในการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วปาน Wolverine เมื่อได้รับบาดเจ็บ หลังจากที่ใช้เวลาฝึกฝนไปเล็กน้อย ผมเรียนรู้ที่จะถอยฉากพวก Roach ที่ได้รับบาดเจ็บออกมาสักพักก่อนที่จะส่งพวกมันกลับสู่กลางสนามรบใหม่ ดังนั้นการบังคับยูนิตอย่างคล่องแคล่วจะช่วยทำให้พวกมันนั้นยืนหยัดอยู่ในสนามรบได้อย่างยาวนาน ผมพบอีกว่าพวกมันนั้นสามารถใช้เป็นตัวรับความเสียหายเพื่อปกป้องกลุ่ม Hydralisk อย่างได้ผล และพวกมันยังเป็นตัวเสริมให้แผน Zergling Rush นั้นน่าปวดหัวมากยิ่งขึ้นไปอีกหากคุณจะรอการกำเนิดของพวกมันสักพักก่อนที่จะบุกโจมตี
หลังจากนั้นผมได้อัพเกรดรังของผม ผลที่ตามมาก็คือทำให้ราชินีนั้นกลายพันธุ์มีขนาดใหญ่และโหดยิ่งขึ้น แถมยังปลดล็อกความสามารถ Deep Tunnel ซึ่งทำให้ราชินีที่เคลื่อนที่ได้เชื่องช้านั้นไปโผล่ที่รังของ Zerg ที่ใดก็ได้ เพื่อป้องกันฐานที่แผ่ขยายออกไปของผมซึ่งกำลังถูกบุกจากกองกำลังของ Protoss อย่างทันท่วงที ขอบอกว่าที่ระดับสูงสุดนั้นราชินีสามารถล้มยูนิต Ultralisk ได้ในการต่อสู้แบบตัวต่อตัว
เมื่อการต่อสู้ดำเนินไปและระดับเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น ผมเน้นการใช้ความสามารถใหม่ของเหล่า Zerg ที่เปลี่ยนให้ยูนิตของศัตรูนั้นหันไปต่อต้านพวกเดียวกันเอง ผมจัดการกับศัตรูที่เล่น Mass Protoss Carrier กลับไปที่ฐานของเขาเองด้วยการจู่โจมของ Corrupter ยูนิตภาคอากาศ ซึ่งแทนที่จะทำลายฝ่ายตรงข้ามแต่พวกมันกลับเข้าไปเกาะและทำให้ยูนิตนั้นๆ หันไปยิงใส่พวกเดียวกันจนกว่ายูนิตนั้นจะถูกทำลายหรือระยะเวลาของความสามารถได้หมดลง จากนั้นผมลอบเอายูนิต Infester เข้าไปที่ฐานของ Terran และพ่น Zerg-juice เข้าใส่ฐานใหญ่และโรงทหาร ในเวลาไม่กี่อึดใจ เหล่าทหารซึ่งถูกเกาะไปด้วยเหล่า Zerg นับโหลก็ถูกส่งออกมาโดยอัตโนมัติและทำลายยูนิต SCV จนสิ้นซากก่อนที่พวกมันจะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นซะอีก และนั่นก็เป็นบทเรียนสำหรับคู่ต่อสู้ของผมที่ลืมสร้างระบบป้องกันฐานและระบบตรวจจับยูนิตล่องหน
ไม่นานนักเหล่า Zerg ของผมก็บุกถล่มกองทัพของ Terran และ Protoss จนราบด้วยกองทัพ Zergling, Roach, Hydralisk, Mutalisk และ Ultralisk ช่างเป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก! และหลังจากใช้เวลาไปไม่กี่ชั่วโมงกับเหล่าแมลงพวกนี้ ผมก็พูดได้ว่า Zerg จะกลายเป็นเผ่าที่ผมชอบที่สุดอีกครั้ง ผมไม่ได้จงเกลียดจงชังอะไรพวก Terran หรือ Protoss หรอกนะครับ เพียงแต่ผมเป็นพวกชอบ หลงใหล และกระหายเผ่าที่โดดเด่นและน่าสะพรึงกลัวเท่านั้นเอง!
สรุป - Blizzard ประสบความสำเร็จในการออกแบบเกม RTS อีกครั้งและ Starcraft จะยิ่งใหญ่ไปอีก 10 ปีนับจากนี้ แต่การเปลี่ยนแปลงสูตรดั้งเดิมมากเกินไปนั้นเสี่ยงที่จะทำให้ความสมดุลอันน่าทึ่งซึ่งเคยทำให้ Starcraft ประสบความสำเร็จนั้นเสียไป