Gran Turismo 5 Prolouge เป็นการลองขับที่ราคาแพงไปนิดนึง

แชร์เรื่องนี้:
Gran Turismo 5 Prolouge เป็นการลองขับที่ราคาแพงไปนิดนึง

Gran Turismo 5 Prolouge

ผู้จัดจำหน่าย: Sony CEA
ผู้พัฒนา: Polyphony
จำนวนผู้เล่น: 1-16 คน
ESRB: ทุกเพศทุกวัย
PlayStation 3


เป็นการลองขับที่ราคาแพงไปนิดนึง

ข้อดี: ดูดีมาก แต่การขับขี่ดีเยี่ยมยิ่งกว่า
ข้อเสีย: โหมดแข่งแบบออนไลน์มีออพชั่นน้อยไปและขาดการสื่อสารให้ข่มกันสนุกๆ ระหว่างผู้เล่น
แพตช์เสริมที่ทีมงานรับปากไว้: จะมี Voice Chat และจัดการแข่งในกลุ่มเพื่อนๆ ได้

     GARNETT: สำหรับซีรีส์ที่มีชื่อเสียงเรื่องการรวบรวมรถยนต์ไว้ในจำนวนระดับเทพ สนามแข่งที่ทำได้เหมือนสนามจริง และประสบการณ์การขับขี่ที่สมจริงแบบเกมนี้ ทั้งหมดนี้ทำให้ภาคใหม่ของ Gran Turismo ดูจะใช้เวลาสร้างนานขึ้นๆ ทุกภาค และในภาค Prologue ที่มีราคาราวๆ 1,300 บาทก็ถือเป็นการอุดรอยต่อระหว่างที่แฟนๆ รอภาค 5 ที่แท้จริงกัน ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่มีอะไรๆ น้อยกว่าภาคต่อของจริงที่เราตั้งตารอแต่เกมนี้ก็ให้รถ สนาม และฟีเจอร์อื่นๆ มากกว่าการจะเป็นแค่เดโมเวอร์ชั่น โดยรวมต้องบอกว่าระบบหลักของเกมนี้นั้นพัฒนาไปอีกแล้วครับ เรียกว่าแค่รายละเอียดภายในของมุมมองในห้องคนขับภายในรถอย่างเดียวก็ทำเอาผมทึ่งได้มากๆ แล้ว และความรู้สึกในการควบคุมรถแต่ละคันก็ให้ความรู้สึกที่สมจริงมากกว่าภาคก่อนๆ อีกด้วย

     จริงๆ ผมก็อยากลองเล่นเกมนี้ซิ่งแข่งกับผู้เล่นอื่นๆ ดูนะครับ แต่โหมดแข่งออนไลน์ของเกมนี้ดูจะยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ซึ่งเดี๋ยวอีกสองคนต่อจากผมเขาจะอธิบายเพิ่มให้อ่านกันครับ และในขณะที่ผมเองชอบโหมด GT TV ที่ให้ผมได้ดูรายการเกี่ยวกับรถและการแข่งสนามอื่นๆ แต่ผมกลับรู้สึกว่าถ้าให้เปลี่ยนโหมดนี้เป็นโหมดการสร้างเกมการแข่งด้วยกฎของตัวเองและชวนเพื่อนๆ มาแข่งแบบออนไลน์ได้สะดวกๆ จะดีกว่าเยอะเลยล่ะ

     MIKE N: แต่สำหรับผม Prologue นี่มันเป็นเดโมชัดๆ เลยล่ะครับ มันขาดทั้งโหมดการปรับแต่งรถที่ละเอียดพอเพื่อเอาใจแฟนๆ รถระดับขาประจำฮาร์ดคอร์ หรือองค์ประกอบอื่นๆ สำหรับคอเกมในแนวแข่งรถแบบขาจรก็มีน้อยไปอีกเหมือนกัน และอย่างที่เราบอกกันหมดล่ะครับ นั่นคือ ออพชั่นเกี่ยวกับด้านออนไลน์ของเกมนี้นั้นยังดูพื้นๆ ไปหน่อย เพราะด้วยแนวเกมแบบนี้ที่นับวันฟีเจอร์ในด้านมัลติเพลเยอร์จะยิ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในเรื่องการยืดอายุของการเล่นเกม แต่เกมนี้กลับทำออกมาดูล้าหลังไปเสียอย่างงั้น ส่วนในโหมดออฟไลน์ก็มีแค่สองจากหกสนาม (คือ Fuji และ Suzuka) ที่ดูจะมีคู่แข่งแบบ A.I. ที่เก่งและท้าทายฝีมือผู้เล่นพอ คือถ้าคุณๆ อยากเป็นคนทดลองเบต้าเวอร์ชั่นกัน เกมนี้ก็ยังเป็นเกมแข่งรถแบบสมจริงที่ยอดเยี่ยมนะครับ แต่ยังไงก็ตามผมว่ารอ GT5 ภาคเต็มของแท้ออกขายก่อนจะดีกว่า

     JOHN: ก็ได้แต่หวังครับว่าจะมีแพตช์เสริมของ Prologue ให้ดาวน์โหลดกันเร็ววัน (ในราคาถูกๆ หรือฟรีจะดีมาก) ผมว่า Garnett เขาก็ดูจะใจดีกับองค์ประกอบด้านการออนไลน์ของเกมนี้พอดูนะ เพราะการที่เกมนี้ขาดทั้งการสร้างเกม การแข่งส่วนตัวกับเพื่อนๆ รวมทั้งการแชทพูดคุยกันระหว่างเกมก็ไม่มีเนี่ยทำให้เกมนี้ดูเชยจริงๆ แหละครับ สำหรับเกมที่ตั้งใจจะมีวิวัฒนาการในแทบจะทุกทางที่คุณ Kazunori Yamauchi ประธานของค่าย Polyphony เคยประกาศคำมั่นไว้ในส่วนของโบนัสวิดีโอนั้น ต้องถือว่ายังไม่ครบจริงตามที่โม้เท่าไหร่นะครับ แต่โดยรวมแล้วผมเองก็ยังชื่นชอบโหมดแข่งคนเดียวของเกมนี้อยู่ครับ การเล่นในโหมด Standard ของเกมนี้นั้นก็ไม่ยากจนเกินไป การคุมรถก็ไม่ลื่นไถลได้ง่าย เรียกว่าคล้ายๆ กับระบบการเล่นของเกม Project Gotham Racing อะไรประมาณนั้น ซึ่งจุดนี้จะว่าไปก็แปลกดีเหมือนกันแฮะ
 




 

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ