Old Townเมืองเก่า แต่เก๋าจริง
หนึ่งในสองแผนที่ใหม่ ที่เพิ่งอัพเดตไปเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นฉากประเภทภารกิจวางระเบิดในเมืองสไตล์ยุโรปสุดคลาสิค แล้วยังเป็นฉากมาตรฐานที่ใช้ในงานแข่งระดับโลก จุดเด่นหลักอยู่ที่เป็นฉากไม่ซับซ้อน แต่กลยุทธแพรวพราวไม่แพ้ The 3rd Supply Basement ถ้าเข้าใจวิธีบุก และตั้งรับ จะทำความเข้าใจกับฉากนี้ได้ไม่ยาก
เส้นทางบุกของ Red Team
1. สะพานตรงยาว A
หลายจุดทะลุได้
เป็นจุดดวลสไนเปอร์ที่ประหลาดกว่าฉากอื่นหน่อย คือ อาจจะมองไม่เห็นหน้าสไนเปอร์ฝ่ายตรงข้ามด้วยซ้ำเพราะอาศัยการยิงทะลุไม้ได้
จุดที่ยิงทะลุได้ คือ กระจกไม้ทั้งสองฝ่าย และกำแพงไม้ด้าน Blue Team ดังนั้นเมื่ออยู่ในระยะที่มองเห็นหน้าต่างไม้ได้ ก็ต้องระวังการยิงทะลุด้วย ส่วนการบุกโดยใช้ราวสะพานอาจทำให้ปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง แต่อย่าตกจากระดับราวสะพาน ซึ่งถ้าพลาดตกลงไป ตายค่อนข้างแน่นอน
ด้าน Red Team จะมีบันไดสำหรับลงด้านล่างด้วย ใช้เชื่อมไปยังทางใต้ดินได้ แต่ส่วนใหญ่จะใช้สำหรับให้ฝ่าย Blue Team บุกมาหามากกว่า
2. ทางใต้ดิน
อันตรายตอนจะขึ้นด้านบน
เป็นจุดที่วิ่งผ่านไปเล่นงานศัตรูได้ง่ายมาก “เมื่อไม่มีศัตรูเฝ้า เท่านั้น” เมื่อขึ้นไปอีกฟาก จะเลือกไปวางระเบิดจุด A หรือ B ได้ง่าย แต่ในทางกลับกัน จะเป็นจุดที่เสียเปรียบมากที่สุดเมื่อมีคนเฝ้า ศัตรูด้านบนจะได้เปรียบกว่ามาก ยิ่งถ้าคนเฝ้าเป็นสไนเปอร์ ยิ่งฝ่าไปได้ลำบาก บางทีเห็นโล่งๆ วิ่งผ่านฉลุย แต่อาจโดนดักที่ปากทางขึ้นได้ ต้องระวังด้วย
เมื่อลงมาถึงชั้นล่าง อาจเลือกไปทางขวาแทน เพื่อไปยังใต้สะพานไม้ในจุดที่ 1 ได้ ใช้ดักยิงพวก Blue Team ที่คิดบุกเร็วได้เป็นอย่างดี
3. ทางไปจุด B ด้านบน
อันตรายรอบทิศ ระวังให้ดี
จุดนี้อันตรายรอบด้าน ทั้งศัตรูที่เฝ้าอีกด้านที่ขัดขวางไม่ให้เราออกจากประตู และศัตรูจากด้านนอกหน้าต่าง บางทีศัตรูอาจซุ่มอยู่ในตัวบ้านก็ได้ จึงเป็นช่วงที่อันตราย แต่ก็มีโอกาสฝ่าไปได้สูง เพราะบางครั้งศัตรูต้องรับมือจากทั้งด้านล่างและด้านบน
4. ทางไปจุด B ด้านล่าง
มุมเด็ดสำหรับสไนเปอร์
ด้านล่างก็สามารถบุกได้ แต่ก็ไม่ปลอดภัยนัก เพราะสไนเปอร์ของศัตรูมักจะดักอยู่ด้านบนของอีกฟาก ซึ่งทางฟากของ Blue Team เป็นมุมที่ยิงได้ง่ายมาก และสามารถหลบได้หลายจุด ต่างจากด้าน Red Team ที่หลบได้เพียงบางจุดเท่านั้น แต่ถ้าปล่อยจุดนี้ว่าง แล้ว Blue Team ใช้บุกแทนก็จะทำให้คนบุกจุด B ด้านบนลำบากได้
ถ้าเดินไปด้านหน้าอีกหน่อย ด้านซ้ายจะมีบันไดสำหรับขึ้นด้านบน ซึ่งถ้าไม่มีศัตรูดักอยู่จะใช้เป็นทางบุกที่ดีอีกทาง
จุดป้องกันที่สำคัญของ Blue Team
1. ตรงสะพาน ถ้าไม่ต้องการป้องกันที่ฐาน สามารถวิ่งลงไปทางใต้ดินเพื่อดักรอศัตรูที่จะวิ่งผ่านได้ หรือขึ้นบันไดฝั่ง Red Team ไปดักรอศัตรูเลยก็ได้เช่นกัน
2. ด้านในจุดวางระเบิด A มีจุดให้ซ่อนตัวหลายจุด โดยพยายามอยู่ตามขอบตาข่ายรอบจุดวางระเบิดหรือสิ่งของต่างๆ เพื่อหลบกระสุนที่อาจทะลุมา อย่าลืมว่าส่วนที่เป็นไม้สามารถยิงทะลุได้หลายจุด ลองฟังเสียงฝีเท้าศัตรูแล้วยิงทะลุไม้ในจุดต่างๆ ก็ได้
3. ทางขึ้นมาฝั่ง Blue Team ถ้าศัตรูคิดใช้ทางนี้บุก เราจะเห็นขาศัตรูก่อนแน่นอน ซึ่งทำให้ได้เปรียบกว่า หรือจะดักรอด้านข้าง ให้ศัตรูขึ้นมาก่อนก็ได้เช่นกัน
4. ทางเชื่อมไปจุด B ด้านบน ซ่อนตัวได้ในบางจุด หรือจะโผล่ออกนอกหน้าต่างไปยิงศัตรูบ้างก็ดี แต่พื้นไม้ที่ยืนสามารถยิงทะลุได้ ถ้าศัตรูรู้ตำแหน่ง และยิงทะลุก็จะลำบาก จึงเป็นจุดซุ่มที่ค่อนข้างเสี่ยงอยู่เหมือนกัน
5. ทางมาจุด B จากด้านล่าง มีที่กำบังอยู่หลายจุด เหมาะกับรับมือศัตรูจากด้านล่าง แต่ระวังศัตรูที่วิ่งผ่านไปยังจุด B หรือยิงจากหน้าต่างด้วย และยังต้องระวังศัตรูที่อาจมาจากทางใต้ดินด้วย (ขวามือของรูป)
6. จุดวางระเบิด B ถึงจะโล่งกว่าจุด A แต่ยังพอมีที่ให้ซ่อนตัวได้บ้าง การป้องกันจุดนี้ยังย้ายไปป้องกันในจุดตั้งรับที่ 4 และ 5 ได้
ความสนุกของฉากนี้ยังไม่หมดนะครับ ยังมีจุดปาระเบิดที่หลากหลาย และวิธีวาง C4 ที่ไม่ธรรมดา ซึ่งจะนำมาอธิบายในภายหลังครับ ในตอนหน้า เรามาดูการอัพเดตอีกอย่างที่น่าสนใจในแพตซ์กันอีกสักเรื่องดีกว่า ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้น ติดตามอ่านได้ในเล่มต่อไปครับ
TRG21 - One Shot One Kill!!
ปืนสไนเปอร์ที่มีพลังทำลายมากที่สุดในเกม สามารถยิงกลางลำตัวก็ตายได้ 100% ส่วนแขนและขาก็มีโอกาสตายในนัดเดียวเช่นกัน (แต่ไม่ 100%) ทำให้ได้รับความนิยมสูงในต่างประเทศ รวมถึงการแข่งขันที่ต้องการความแน่นอนในการสังหารศัตรู ถึงคุณจะยิงแม่นแค่ไหน แต่การเพิ่มโอกาสการยิงนัดเดียว่ในหลายส่วนของร่างกายเป้าหมายให้สูงขึ้น ก็ช่วยให้มีโอกาสจัดการเป้าหมายได้ดี
ทดสอบความเสียหาย
หมายเหตุ : ส่วนลำตัวจะเป็น HP/AP
เทียบกับ Dragunov
แม้ว่า Dragunov จะมีพลังทำลายถึง 99% ต่างกับ TRG21 เพียง 1% ตามค่าพลัง แต่ในความเป็นจริง เมื่อทดสอบความเสียหายแล้ว TRG21 ไม่ได้แรงกว่าแค่ 1% แต่จะมีพลังทำลายสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ด้าน Dragunov จะได้เปรียบด้านการยิงที่เร็วกว่า (ความถี่ในการยิง 26%) เหมาะสำหรับคนที่ชอบยิงต่อเนื่อง แต่ถ้าต้องการสังหารนัดเดียวละก็ TRG21 เป็นตัวเลือกที่เหมาะยิ่งกว่าแน่นอนครับ