“เกมคอมพิวเตอร์” ต้นเหตุแห่งปัญหา หรือเป็นเพียงแพะ

     หนึ่งในข่าวพาดหัวที่เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตน้องๆ การปรับ ครม. ในช่วงไม่นานมานี้ ก็คงหนีไม่พ้น “แทงโหดฆ่าแท็กซี่ สลด ม.6 เลียนแบบเกมโจร”คดีสะเทือนขวัญที่เด็กชั้น ม.6 สังหารคนขับแท็กซี่ย่านบางพลัด คดีนี้ยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้นไปอีกเมื่อผู้ต้องหาเอ่ยออกมาเองว่า เขาก่อเหตุเลียนแบบเกม GTA

     ที่จริงแล้วผมไม่ชอบเรื่องซีเรียสเท่าไร ชอบเขียนอะไรที่มันอ่านแล้วสบายๆ มากกว่า แต่เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เป็นคดีร้ายแรง ซึ่งแน่นอนว่ามันยิ่งเป็นการตอกย้ำมุมมองในแง่ลบเกี่ยวกับเกมคอมพิวเตอร์อีกด้วย เกม GTA เป็นสาเหตุให้เด็กคนนั้นกลายเป็นฆาตกรจริงหรือเปล่า บรรดาคนเขียนข่าว และผู้หลักผู้ใหญ่ที่ดูแลเรื่องเยาวชนรู้จักเกมนี้ดีแค่ไหน เอาละ ขอเกริ่นที่ตัวเกมซะก่อน สำหรับผู้ที่ยังไม่รู้จัก หรือเพิ่งเคยรู้จัก

     GTA หรือ Grand Theft Auto วางจำหน่ายมานานร่วม 10 ปีแล้ว มีหลายภาค ลงทั้งเครื่องพีซี และคอนโซล (ภาค 1 และ 2 มีเฉพาะบนพีซีเท่านั้น ส่วนภาคใหม่ประกาศออกมาแล้วว่าเตรียมลง PC เหมือนกัน) ใน 2 ภาคแรกนั้นเกมยังไม่ดัง แต่มาดังเป็นพลุแตกในภาค 3 เมื่อได้ทีมพัฒนา Rockstar Games เข้ามาดูแล นับตั้งแต่นั้นชื่อ GTA กลายเป็นหนึ่งในสุดยอดเกมที่เกมเมอร์ไม่ควรพลาด ทุกภาคที่ออกมาหลังจากภาค 3 ล้วนได้รับความนิยม และได้คะแนนรีวิวสูงมากจากเว็บไซต์เกมชั้นนำของโลก นั่นก็เป็นเพราะว่าเกมนี้มีความแตกต่างจากเกมอื่นทั่วไป ที่ว่าแตกต่างไม่ได้เพราะความรุนแรง แต่ต่างตรงที่ GTA มีโลกของเกมที่กว้างใหญ่ เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทำภารกิจได้ตามใจชอบ ไม่ได้เดินผ่านเป็นด่านๆ เหมือนเกมทั่วไป แต่เป็นการจำลองเมืองทั้งเมืองมาเลย สิ่งที่โดดเด่นในเกมซีรี่ย์นี้ก็คือ สามารถขับรถคันไหนก็ได้ (มีเรือ และเครื่องบินเป็นบางครั้ง) บนถนนหนทางที่มีรถวิ่ง มีคนเดินพลุกพล่าน คุณจะเข้าไปชิงรถคนอื่นมาขับได้อย่างไม่ยากเย็น จะเดินเข้าไปกระชากประตู หรือทำร้ายเจ้าของรถก็ได้ แต่การกระทำที่ผิดกฎหมายก็จะได้รับผลตอบแทนด้วยการไล่ล่าของตำรวจ ยิ่งทำความผิดมาก ตำรวจก็จะยิ่งตามล่าตัวคุณหนักขึ้นด้วย นอกจากนั้นในเกมยังมีภารกิจยิบย่อย และลูกเล่นมากมาย ไม่น่าเบื่อ ส่วนของเนื้อเรื่องเกมเองต้องยอมรับว่าอาจจะมีความรุนแรงอยู่ซักหน่อย เนื่องจากตัวเอกจะอยู่ในแวดวงมาเฟีย ดังนั้นเรื่องราวต่างๆ จึงวนเวียนอยู่กับการฆ่า หักหลัง และเรื่องผิดกฎหมายต่างๆ สรุปว่าถ้าคุณจะเป็นคนดีในเกมนี้ก็แทบจะทำไม่ได้ เพราะเนื้อหาของเกมมันพาไป แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องดีๆ ให้ทำ ในภารกิจย่อย คุณสามารถขับแท็กซี่ส่งผู้โดยสาร พาคนเจ็บไปโรงพยาบาล หรือทำตัวเป็นเด็กส่งพิซซ่าก็ยังได้ (ถ้าคุณอยากทำนะ) 

GTA IV ภาคใหม่ล่าสุดได้คะแนนรีวิวจาก www.gamespot.com เต็ม 10 คะแนน

     นี่คือลักษณะคร่าวๆ ของเกมนี้ แต่ผมอยากจะบอกว่า GTA มันไม่ใช่เกมออนไลน์แท้ๆ นะครับ ตัวของเกม GTA จริงๆ ไม่ได้สร้างมาเพื่อให้เล่นออนไลน์ แต่ด้วยความที่ตัวเกมเป็นเมืองที่กว้างใหญ่ มีท้องถนน มีผู้คนมากมาย ทำให้มีผู้พัฒนาเกมนี้ให้เล่นออนไลน์ได้ โดยได้เพิ่มโหมดการเล่นรูปแบบใหม่เข้าไปอีกมากมาย ซึ่งความตั้งใจของผู้ที่พัฒนาเองก็ไม่ได้ต้องการให้เกิดความรุนแรงแต่ประการใด (ถ้าสนใจรายละเอียดก็ลองเสิร์ช GTA Online หาดูเองนะครับ) ซึ่ง GTA Online นี้ก็มีคนเล่นมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่ไม่เคยเกิดปัญหารุนแรงแบบนี้มาก่อน ใน GTA Online ก็เหมือนๆ กับเกมออนไลน์อื่นๆ มีผู้คนมากหน้าหลายตา มีอิสระในการดำเนินชีวิตเหมือนในโลกแห่งความจริง มีการประกอบอาชีพเพื่อหาเงิน ซื้อบ้าน ทำธุรกิจ และแน่นอนว่าในเมื่อมันเป็น GTA ไม่ใช่ The Sims ก็ย่อมหลีกเลี่ยงการใช้อาวุธไม่ได้ แต่อย่างที่กล่าวไปแล้ว ทางผู้ให้บริการ Server ก็ไม่ได้ต้องการให้เกมมีแต่ความรุนแรง ไม่ใช่ว่าเริ่มเกมมาคุณจะชักปืนออกมาไล่ยิงใครต่อใครได้ การที่จะมีปืน หรือจะขับรถก็ต้องมีขั้นตอนคล้ายในชีวิตจริงๆ นี่แหละ และการทำสิ่งที่ผิดกฎหมายในเกมคุณก็จะมีความผิด และตำรวจ (ในเกม) ก็จะดูแลเรื่องเหล่านี้เอง เท่าที่ผมศึกษาดูก็เห็นว่า ผู้ให้บริการ Server ไม่ได้ส่งเสริมให้มีการไล่ยิง หรือขโมยรถกัน แต่สนับสนุนให้มีการช่วยเหลือ เล่นด้วยกันอย่างเป็นมิตร และมีมารยาทมากกว่า

GTA เวอร์ชั่นออนไลน์ ได้รับการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง มีการดำเนินชีวิตในเกมใกล้เคียงชีวิตจริง
มีอาชีพหลากหลาย นักมวยก็เป็นอาชีพหนึ่งเช่นกัน

     ผมพูดแบบนี้ก็อาจจะมีคนแย้งว่า “ก็เกมมันมีปืน มันก็ต้องยิงกันอยู่แล้ว เวลาเล่นจริงๆ ใครจะไปสนใจกฎพวกนั้น” มันก็แน่นอนละครับ เกมออนไลน์มันก็เหมือนโลกของเรานั่นแหละ จะหาที่ไหนมีแต่ความสงบสุขได้ล่ะ มันก็ต้องมีพวกคนชั่วคนเลวที่มันชอบแหกกฎอยู่แล้ว ไม่ต่างกันเลย ก็เป็นหน้าที่ของผู้รักษากฎที่ต้องดูแลกันไป

     ผมรู้สึกว่าการที่สื่อต่างๆ ออกมาประโคมข่าวกัน โดยไม่ได้มีความรู้จริงๆ และไม่มีการอธิบายถึงตัวเกมเลย มันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะ GTA ไม่ได้เป็นเกมที่ดังมากถึงขนาดคนทั่วไปจะรู้จัก แม้แต่เกมเมอร์หลายคนยังไม่รู้จัก GTA แบบ Online ด้วยซ้ำ การนำเสนอแบบนี้จะทำให้เกมคอมพิวเตอร์ทั้งหมดกลายเป็นสิ่งเลวร้ายไปด้วย ยิ่งเห็นในโทรทัศน์ ผู้บรรยายข่าวคนหนึ่ง (ขอไม่เอ่ยนาม) บอกว่า “ไอ้คนทำเกมนี่ก็จิตใจโหดเหี้ยม ทำเกมอะไรมาไม่รู้ ไม่ใช้สมองคิด” อืม...นี่คุณคิดว่าผู้พัฒนาเกม เขาอยากผลิตเกมมาเพื่อทำให้คนฆ่ากันหรือไง เป้าหมายในเกมไม่ได้ต้องการให้เราเป็นฆาตกร ไล่ฆ่าตำรวจ ฆ่าคนเดินถนนซักหน่อย เกม GTA เป็นเกมยอดนิยม ได้รับความนิยมมานาน ขายได้มากมายทั่วโลก ถ้าคนจะฆ่ากันเพราะเกมนี้ ป่านนี้ผมว่าคงตายกันเป็นหมื่นแล้วละ แล้วเกมนี้ก็ไม่ได้ผลิตมาเพื่อให้เด็กเล่นด้วย แต่อย่างที่รู้กันแหละนะ การจัดเรตติ้งเกมในบ้านเรามันไม่มีประโยชน์เท่าไรอยู่แล้ว

     ที่ผมออกมาเขียนแบบนี้ไม่ใช่เพราะอยากจะปกป้องเกมนะ แต่เขียนในฐานะเกมเมอร์คนหนึ่งที่เล่นเกม และทำงานเกี่ยวกับเกมมานานพอสมควร เห็นเกมตกเป็นจำเลยมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว เลยอยากจะระบายบ้าง ผมไม่ได้หมายความว่าเกมดีเลิศ ไม่มีส่วนผิดใดๆ หรอกนะ มันก็มีส่วนอยู่บ้าง แต่ไม่น่าจะเป็นสาเหตุหลักขนาดนั้น ต้องดูกันให้ลึกซึ้งว่าเด็กคนนั้นเป็นคนอย่างไร พื้นฐานครอบครัวเป็นอย่างไร กลุ่มเพื่อนมีพฤติกรรมแบบไหน ในแต่ละวันเขาดำเนินชีวิตอย่างไร สภาพจิตใจปกติจริงหรือเปล่า เด็ก ม.6 อายุ 18 ปีแล้ว ที่จริงไม่อยากจะเรียกว่าเด็กด้วยซ้ำ ทำไมมีความคิดแปลกๆ แบบนั้น “ผมยืนยันว่าไม่ได้ติดยาเสพติด หรือติดการพนัน ที่ตัดสินใจทำลงไป เพราะเห็นในเกมแล้วอยากลองทำดูบ้าง คิดว่ามันง่าย” คิดได้แค่นี้เองหรือ ทำไมคนอายุขนาดนี้ถึงแยกไม่ออกว่าอันไหนโลกจำลอง อันไหนโลกแห่งความจริง เด็กส่วนใหญ่แยกแยะได้ แต่ทำไมถึงมีบางคนที่มัวเมาไปได้ขนาดนี้ 

            

     ผมเองเล่นเกมมามากมายตั้งแต่เด็กๆ และยอมรับว่าผมก็ชอบเล่นเกมที่มีฉากต่อสู้ดุเดือดรุนแรงชนิดเลือดสาดเหมือนกัน หลายเกมผมยังรู้สึกว่ามันรุนแรงกว่า GTA ด้วยซ้ำไป เล่นแล้วมันสะใจดี แต่พอเลิกเล่นเกมก็ไม่มีอะไร เกมก็คือเกม มันไม่ใช่ของจริง แล้วมันก็ไม่มีทางเป็นความจริงได้ เพียงแค่ให้เราผ่อนคลาย รู้สึกสนุกไปช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ผมรู้จักเด็กมัธยมอีกหลายคนที่ชอบเล่นเกมสไตล์ดุเดือดแบบนี้ แต่ทุกคนก็ปกติดี บางคนมีความสามารถด้านวิชาการระดับประเทศด้วยซ้ำ ทุกคนสามารถแยกแยะได้ ไม่เหมือนเด็กคนนั้นที่ไม่รู้จักเกม และ “เล่นเกมไม่เป็น”

     ปัญหาเรื่องเกมกับความรุนแรงดูจะกลายเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขกันอีกนาน เนื่องจากบ้านเรายังไม่มีมาตรการป้องกันกันอย่างจริงจัง คนแก้ปัญหาก็ไม่ได้เชี่ยวชาญด้านเกมจริงๆ การระงับการวางขายแทบจะไม่มีประโยชน์ เพราะการจะหาเกมเล่นซักเกมมันเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ การเอาใจใส่ของร้านเกมก็คงพอช่วยได้บ้าง แต่จะให้ดีต้องให้ทุกฝ่ายช่วยกันดูแล ผู้ปกครองก็ต้องมีเวลาให้ลูกหลาน พื้นฐานครอบครัวที่ดีเป็นรากฐานสำคัญอันดับแรก รวมทั้งสถานศึกษา และอย่าลืมว่าไม่ใช่แค่เกมเท่านั้น ยังมีภาพยนตร์ที่มีเนื้อหารุนแรงอีกมากมาย หนังแนวฆาตกรรมสยดสยองมีฉายไม่รู้เท่าไร ไม่เห็นมีใครสนใจ แถมยังได้รับความนิยมสูงอีกด้วย เด็กๆ สามารถหามาดูได้ง่ายๆ เลย (ที่จริงการดูหนังก็เป็นการพักผ่อนเหมือนการเล่นเกม แต่ผมไม่นิยมหนังฆาตกรรมโหด ดูแล้วมันเครียด) ถ้าจะควบคุมกันจริงจัง ต้องเอาให้ครบ เป็นกลยุทธ์เชิงรุกป้องกันไว้ก่อน ไม่ใช่ให้มีเรื่องก่อนค่อยหาทางแก้

ไม่ใช่แค่เกมหรอกครับ เรื่องของความรุนแรง โหดเหี้ยม ในหนังก็มีให้ดูเยอะแยะไป

     ล่าสุดมีการพูดถึง 10 เกมอันตรายออกมาอีก ซึ่งที่อเมริกาเขาประกาศมาตั้งนานแล้ว แต่บ้านไม่เคยให้ความสนใจเรื่องพวกนี้ พอมีเรื่องเกิดขึ้นก็หันมาดูกันที ถ้าดูกันที่เนื้อหาของเกมก็ต้องยอมรับก็ว่ามีเรื่องของความรุนแรงแทรกมาด้วยเป็นปกติ และมีมานานมากแล้ว การใช้อาวุธต่อสู้กันมันเป็นเรื่องธรรมดา จะให้เป่ายิงฉุบสู้กันมันก็กระไรอยู่ เกมส่วนมากผู้เล่นจะได้สวมบทบาทเป็นฝ่ายธรรมมะ แต่บางครั้งมันก็น่าเบื่อเกินไป จึงมีบางเกมที่เปิดโอกาสให้เราได้ทำตัวเป็นคนเลวดูบ้าง บอกตามตรงว่าผมเองจะเลือกเป็นคนชั่วทุกครั้งที่มีโอกาส (ในเกม) ไม่ใช่เพราะเป็นคนจิตใจโหดเหี้ยม แต่ผมเลือกเพราะในชีวิตจริงเราทำแบบนั้นไม่ได้ เลยหันมาลองในเกมแทน อะไรที่ผมทำจริงๆ ไม่ได้ ผมก็จะลงที่เกมนี่แหละ ยิงปืน ไล่ฆ่า หรือซิ่งรถเย้ยกฎหมายก็ได้ทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าเอาสิ่งไม่ดีที่ทำได้ในเกมไปทำในชีวิตจริง 

     เกมคอมพิวเตอร์กลายเป็นสิ่งเลวร้ายในสายตาของคนทั่วไปมานานแล้ว ตั้งแต่ปัญหาเรื่องเด็กติดเกมออนไลน์ สื่อต่างๆ ก็แทบจะไม่เคยนำเสนอเรื่องราวของเกมในแง่ดี (อาจจะมี แต่คงไม่ดังพอ หรือนำเสนอไปแล้วไม่สนุก) จึงเป็นการยากที่จะทำให้สังคมมองเกมในแง่บวกได้ ได้หวังลมๆ แล้งๆ ว่าวันหนึ่งสังคมจะเข้าใจเกมมากกว่านี้ สิ่งทุกอย่างมันย่อมมีข้อดีข้อเสียในตัวของมัน ถ้าเราใช้ให้ถูกวิธีก็จะได้ประโยชน์ แต่ถ้าใช้ผิดก็จะเกิดโทษทันที ในมุมมองของผม GTA ก็ผิด ผิดตรงที่มีความสมจริงเกินไป มีสังคมด้านมืดไม่แตกต่างอะไรกับสังคมของเราในปัจจุบันนี้นั่นแหละครับ สุดท้ายก็ต้องขออภัยไว้ด้วย ถ้าบทความนี้กระทบกระทั่งใคร หรือทำให้ใครไม่พอใจ เพราะนี่มันก็เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวของคนคนหนึ่งที่มีใจรักเกม และทำงานอยู่กับสิ่งเหล่านี้มานับ 10 ปีแล้วเท่านั้นเอง