ซีรีส์แนะนำเดือนมกราคม – หาญท้าชะตาฟ้าปริศนายุทธจักร (Joy of Life)
ซีรีส์แนะนำเดือนมกราคมนี้จริงๆ เป็นเรื่องที่ผมเคยเปรยๆ ไว้ในบทความ แนะนำซีรีส์ช่วงหยุดยาวปีใหม่ ครับ แต่คราวนี้อยากจะหยิบมาแนะนำกันเต็มรูปแบบอีกที เพราะระหว่างที่เขียนบทความนี้อยู่ อีกเพียงตอนเดียวก็จะจบภาค 1 แล้ว และหากผมดูจบเมื่อไหร่ เดี๋ยวจะมารีวิวกึ่งอวยกันแบบเต็มสตรีมอีกทีครับ ซีรีส์เรื่องที่ว่าก็คือ หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร หรือชื่อภาษาอังกฤษก็คือ Joy of Life ซึ่งขณะนี้กำลังฉายยู่ทาง WeTV นั่นเอง
เบื้องต้นนั้น หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร เป็นนิยายที่เขียนโดยนักเขียนชาวจีนอย่าง Mao Ni ซึ่งนิยายเรื่องนี้มีฉบับแปลไทยของค่าย Siam Inter ออกมาจนจบแล้ว จำนวน 2 ภาคด้วยกัน ใครสนใจก็ลองไปหาซื้อดูได้ แต่ในบทความนี้ขอเน้นไปที่ตัวซีรีส์ซึ่งส่วนตัวผมเองดูฉบับวีรีส์เป็นหลัก และไม่เคยอ่านฉบับนิยาย ทำให้สามารถเปิดรับสารจากซีรีส์ได้เต็มที่ แต่ก็ลองหาข้อมูลหรือรับฟังจากผู้ที่อ่านนิยายมาแล้วเหมือนกัน ก็พบว่าตัวซีรีส์ปรับบทจากนิยายในหลายๆ จุด ตั้งแต่เล็กน้อยยันจุดสำคัญ ทว่าความเห็นหลายๆ คนก็บอกไม่ได้cย่เลย ทั้งหลายๆ คนยังรู้สึกว่าสมเหตุสมผลขึ้นอีกต่างหาก ดังนั้นแล้วจึงสามารถอนุมานได้ว่าแม้คุณจะอ่านนิยายมาแล้วก็ยังน่าจะสนุกกับมันได้ ทั้งยังรู้สึกสดใหม่ในบางเหตุการณ์อีกต่างหาก
หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร เล่าเรื่องของ ฟ่านเสียน ลูกชายนอกสมรสของตระกูลฟ่าน ตระกูลใหญ่ในราชสำนักของแคว้นชิ่ง ผู้ซึ่งต้องถูกเลี้ยงโดยผู้เป็นยาย ณ เมืองเล็กๆ ห่างไกลความเจริญ เขาใช้ชีวิตโดยที่รู้ว่าวันหนึ่งเขาจะต้องถูกพาไปเมืองหลวงเมื่อกองทัพม้าสีแดงปรากฎตัวขึ้นบนถนน ทว่าอย่างหนึ่งที่ฟ่านเสียนดูจะแตกต่างจากคนอื่นก็คือตัวเขานั้นมีความทรงจำของชาติภพที่แล้วซึ่งเป็นยุคที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้าอยู่เต็มเปี่ยม ดังนั้นแล้วเมื่อเขาอยู่ในยุคโบราณเขาจึงมีความรู้ และแนวคิดแบบสมัยใหม่ ซึ่งแตกต่างจากผู้คนในยุคนั้นโดยสิ้นเชิง และนี่คือออร์เดิฟความสนุกของเรื่องที่จะไต่ระดับขยายสเกลขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อคุณดูจบแล้วก็อาจทนรอภาค 2 ไม่ไหวก็เป็นได้
โดยความสนุกของเรื่องนี้จะเริ่มเข้มข้นเป็นเท่าทวี เมื่อตัวละครในเมืองหลวงเริ่มโผล่มามีบทบาทในการนำพาฟ่านเสียนของเราไปสู่จุดที่ประเด็นใหญ่ขึ้น และทำให้ฟ่านเสียนต้องคิดอ่านหาวิธีผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปให้จงได้ พาร์ทการเมืองในเรื่องนี่คือสุดยอดมากๆ ในแง่การชิงไหวชิงพริบ หักเหลี่ยมเฉือนคม แทบไม่มีที่ยืนให้ตัวละครปัญญานิ่มหรือไร้หัวคิด ทุกตัวละครต่างแสดงความเป็นเลิศของตัวเองออกมาจนเราไม่สงสัยว่าทำไมพวกเขาจึงมีจุดยืนหรือตำแหน่งในเรื่องแบบนั้น ขอยกตัวอย่างตัวละครฮ่องเต้แคว้นชิ่ง คือผมไม่ได้เจอตัวละครฮ่องเต้ที่อุดมความ Badass แบบนี้มานานมากๆ ปกติดูซีรีส์จีนจะเจอฮ่องเต้หูเบาหลงเชื่อเมียน้อยหรือขุนนางเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่กับเรื่องนี้ฮ่องเต้ไม่ได้โชว์เพียงความหลักแหลมทางด้านปัญญา แต่ทั้งภาษากายและจิตวิทยาล้วนสื่อถึงความน่าเกรงขามจนเราคนดูแทบจะหมดความสงสัยเป็นปลิดทิ้งว่าทำไมตัวละครนี้จึงมีศักยภาพเป็นผู้นำสูงสุดของแคว้นได้
ในพาร์ทของการต่อสู้ก็มีสตอรี่น่าสนใจ เพราะเหล่าผู้มีกำลังภายในในเรื่อง ดูเหมือนจะถูกแบ่งระดับเป็นขั้นๆ ตั้งแต่ 0-9 และเหนือกว่า 9 คือระดับปรมาจารย์ซึ่งก็มีเพียง 4 คนเท่านั้นในเรื่อง ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความสดใหม่เพราะฉีกจากโครงสร้างของซีรีส์กำลังภายในยุคเก่าพอสมควร ส่วนพระเอกของเราก็แกร่งพอตัว ไม่ใช่กากๆ แต่ก็ไม่ใช่ที่สุด ทำให้ก็จะมีช็อตข่มบ้างคับขันบ้าง ก็ต้องอาศัยปัญญาแก้ปัญหากันไป ทำให้เรื่องทวีความลุ้นในซีเควนซ์นั้นๆ ขึ้นไปอีก
แต่ความดีงามทั้งหมดจะแย่ไปเลยหากแคสต์ไม่เข้าท่า ซึ่งก็ต้องบอกว่าหายห่วงอีก เพราะแคสต์เรื่องนี้เข้าขั้นปังมากๆ ทุกบทบาท ทุกตัวละคร ทุกคนทำหน้าที่ได้อย่างดี จนกลายเป็นผู้ชมเริ่มกลัวว่าหากภาค 2 เปลี่ยนแคสต์ไปแล้วอะไรหลายๆ อย่างจะไม่เหมือนเดิม แต่ที่ต้องชมเชยเป็นพิเศษคือพระเอกของเราฟ่านเสียน ซึ่งแสดงโดยนักแสดงหนุ่มวัย 30 ต้นๆ จางรั่วหยุน ที่ค่อยๆ เปล่งออร่าตามการเติบโตของตัวละคร กระทั่งช่วงท้ายที่เหมือนบทของฟ่านเสียนเริ่มตกผลึกทางด้านความคิด เป็นตัวละครที่โตขึ้นจากช่วงแรก และมีเป้าหมายชัดเจนในชีวิต เมื่อนั้นแหละครับที่เราได้เห็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมขั้นท็อปฟอร์มสุดๆ ของพี่แก โดยเฉพาะแล้ว Expression ทางสีหน้าที่ทำเอาผู้ชมอินตามได้ง่ายๆ สาวๆ ในทวิตเตอร์หลงเสน่ห์กันเป็นแถบ (อ่อ ใช่ครับ ภรรยาผมก็ด้วย…)
หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร คือซีรีส์ที่โดยส่วนตัวผมยกให้เป็นเดอะเบสต์ของปี 2019 แซงหน้าทั้ง Vagabond และ The Witcher ที่ผมรักมากๆ เช่นกัน ไปเลยแบบไม่คิดนาน จากซีรีส์ที่กะเปิดดูฆ่าเวลา กลายเป็นต้องเสียเงินซื้อ VIP ของแอพ WeTV เพื่อรับชมตอนต่อไปให้เร็วขึ้นเพราะอดรนทนไม่ไหวกับความค้างคาที่แต่ละ EP มอบให้ครับ นอกจากนี้ก็มีให้เลือกทั้่งแบบซับไทยและพากย์ไทยให้เลือกดูกันตามสบาย ใครที่ชอบแนวหักเหลี่ยมเฉือนคมทางการเมืองและมีเรื่องของกำลังภายในเข้ามาเกี่ยวข้องพร้อมเลิฟคอมมิดี้นิดๆ นี่ตอบโจทย์แน่นอนครับ แนะนำอย่างเป็นที่สุดจริงๆ
