รีวิวหนัง Shazam! Fury of the Gods – โตขึ้น ซีเรียสขึ้น กลมกล่อมน้อยลง

Shazam! ภาคแรก เป็นอะไรที่ให้ความต่างและเซ็ตโทนที่แปลกออกไปจากภาพยนตร์จากฝั่ง DC เรื่องอื่นๆ ที่มักจะพยายามทำให้ดาร์คและจริงจังอยู่มาก ผิดกับเรื่องนี้ที่มาในแนวสดใสเน้นตลกโปกฮาแบบสุดกู่ไปเลย

แน่นอนว่ามันดูคอนทราสต์จัดๆ แต่ในทางกลับกันรสชาติที่ต่างออกไปก็ทำให้มันเป็นหนังที่ตัดเลี่ยนได้เป็นอย่างดี และมอบความสดใหม่ให้กับจักรวาล DC ที่ตอนนั้นขมปึ้ดทั้งโทนหนังและคุณภาพในภาพรวมให้ได้เฟรชขึ้นมาบ้าง ดังนั้นแม้มันจะไม่ได้สู้กันดุดันหรือพูดจาสาดกันด้วยเหตุผลที่หนักอึ้งแบบหนัง DC เรื่องอื่น แต่ Shazam! ก็จัดว่ามีที่ทางของตัวเองที่น่าสนใจ

ถึงอย่างนั้นก็ดูเหมือนว่าแม้จะเป็นฮีโร่ทรงพลังก็ยังประสบปัญหา Coming of age เพราะใน Shazam! Fury of the Gods ตัวหนังดูจะประสบปัญหาภาคต่ออยู่เหมือนกัน นัยว่าเมื่อหนังจำเป็นจะต้องโตขึ้น ขมขึ้น แต่มันดันไปลดทอนความสดใสจากภาคแรกเสียนี่ ถึงแม้ตัวหนังจะพยายามเต็มที่เพื่อคงสเน่ห์ที่ดีงามจากภาคแรกไว้ และในภาพรวมมันยังคงสนุกสนานอยู่ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรารู้สึกเอนจอยกับภาคแรกมากกว่า

Shazam! Fury of the Gods พยายามจะเป็นหนังที่นำเสนอเรื่องราวของวัยรุ่นที่โตขึ้น วัยรุ่นที่โตแล้ว วัยรุ่นที่เริ่มมีความรัก และเด็กอีก 3 คนที่เริ่มอยากจะรู้จักตนเอง ดังนั้นในภาพรวมเมื่อทุกๆ คนในเรื่องพยายามจะเป็นผู้ใหญ่ วัยเด็กอันแสนสดใสก็ต้องถูกแทนที่ด้วยความซีเรียสที่มากขึ้น ซึ่งอันที่จริงก็เข้าใจได้

แต่อาจเพราะสิ่งที่อยากนำเสนอมันเยอะมากๆ จนการนำเสนอขาดทั้งความลงตัวและค่อนข้างจะตื้นเขินไปสักนิด แม้มันจะดูง่ายไม่ต่างจากเดิม แต่กับภาคก่อนก็ยังรู้สึกว่ามันกลมกล่อมยิ่งกว่า ในขณะที่การต่อสู้ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ติดตรงไฟต์ซีนสุดท้ายที่พอเล่นแสงกับเงาเยอะแล้วมันน่าจะมีปัญหากับหลายๆ คนที่อาจจะแสบตาจนเกินพอดีและเกิดทนดูไม่ไหว เพราะมันแวบไปวาบมาเป็น 10 นาที แถมซีนการต่อสู้ก็ออกแอ็คชั่นน้อยไปสักหน่อย แค่รู้สึกว่ามันควรจะดุดันสะใจมากกว่านี้ แบบว่าไหนๆ ก็มาทางซีเรียสขึ้นแล้ว

ขณะที่ในส่วนมุกตลกก็ยังคงทำได้ดี ประโยคแซวประโยคล้อก็เพียบจนนึกว่าบิลลี่เป็นกินทามะชุดแดง แต่จังหวะเล่นมุขก็แอบดรอปไปอีกนั่นแหละ ถึงอย่างนั้นก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เส้นลึกขนาดไหนก็ต้องโดนสักฮาอย่างแน่นอน นอกจากนี้ก็มีเซอร์ไพรซ์ที่ฮือฮาเอาเรื่อง ถึงแม้พรี่ เจมส์ กัน จะง้างมือเตรียมรีเซ็ตจักรวาลแล้วก็ตาม

ในภาพรวม Shazam! Fury of the God แม้จะเอนจอยน้อยกว่าภาคแรกไปบ้าง แต่ก็ยังคงเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ดูสนุก ไม่ซีเรียส ยิงมุขกันรัวๆ แถมถ้าใครไปดู IMAX ก็บอกเลยว่านอกจากจะเต็มตาด้านภาพแล้วหูก็จะสะเทือนแน่นอน โดยเฉพาะช่วงท้ายๆ ที่ใช้งานลำโพงเต็มประสิทธิภาพจัดๆ ครับ