Jujutsu Kaisen 0 ถือเป็นหนึ่งในอนิเมะมูฟวี่ที่ได้รับการพูดถึงและกล่าวขานมากที่สุดของปี ตั้งแต่แรกๆ ที่เข้าฉายในญี่ปุ่น ไหลไปฉายต่างประเทศ จนกระทั่งเพิ่งลาโรงที่มาตุภูมิประเทศแม่ไปเมื่อไม่นานมานี้ จัดเป็นงานที่ประสบความสำเร็จอย่างมากไม่ว่าจะในแง่ของรายรับหรือคำชื่นชมจากผู้ดูมาก่อนหน้า ซึ่งทำเอาชาวสยามประเทศที่ได้ดูทีหลังนั้นรู้สึก Hype จนอดรนทนไม่ไหวไปตามๆ กัน
ซึ่งแม้มันจะเป็นอนิเมะมูฟวี่ที่ทำมาจากมังงะซึ่งตีพิมพ์มาก่อน และหลายๆ คนก็รู้เนื้อเรื่องอยู่แล้ว แต่การที่ตอนมันเป็นอนิเมะทีวีทำไว้ดีจัด ก็ช่วยไม่ได้ที่แฟนๆ จะคาดหวังคุณภาพของหนังโรง ผนวกกับคำชื่นชมล้นหลามจากต่างประเทศก็ทำให้อยากจะดูกันให้ได้เสียเดี๋ยวนี้ ซึ่งผมก็จะบอกอะไรคุณอย่างหนึ่ง ว่าการรอคอยของพวกคุณมันจะคุ้มค่าอย่างแน่นอน
***บทความนี้ไม่มีสปอยล์
Jujutsu Kaisen 0 เป็นภาพยนตร์อนิเมะซึ่งมีเรื่องราวเกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ในอนิเมะภาคหลัก โดยใช้ตัวละครหลักเดินเรื่องคนละชุดกัน แต่ถึงอย่างนั้นเราก็จะได้เห็นตัวละครคุ้นหน้าคุ้นตาโผล่ออกมาบ้างพอหอมปากหอมคอ รวมไปถึงตัวละครยอดนิยมก็ยังคงมีบทบาทไม่น้อย ในแง่แฟนเซอร์วิสจึงไม่ต้องกังวลอะไรมากนัก
ตัวเอกของภาคนี้คือ "อคคตสึ ยูตะ" เด็กหนุ่มขี้กลัวผู้มีคำสาประดับพิเศษอยู่กับตนจนต้องถูกดึงตัวมาเรียนที่โรงเรียนไสยเวท ซึ่งที่นั่นเขาก็ได้พบกับคนรุ่นราวคราวเดียวกันอย่าง มากิ, แพนด้า และ อินุมากิ ที่ทำให้เขาราวกับได้พบโลกใหม่ แต่เราก็รู้ว่ามันคงไม่ง่าย จนก่อเกิดเป็นเหตุการณ์ไคลแมกซ์ใน Jujutsu Kaisen 0
เรื่องงานภาพคงไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะได้ Mappa สตูดิโอเดียวกับตอนอนิเมะฉายทีวีมาทำ ก็แทบจะการันตีเรื่องคุณภาพอยู่แล้ว แค่เห็นฉากตอนเปิดเรื่องก็สัมผัสได้ถึงคุณภาพและงานประณีต ต่อให้ไม่นับรวมช่วงไคลแมกซ์สุดบ้าพลังตอนท้าย มันก็แทบหาจุดเผาไม่เจออยู่ดี นับว่าทาง Mappa สามารถรักษามาตรฐานตัวเองได้ยอดเยี่ยม ขอชื่นชมครับ
ในขณะที่เนื้อเรื่องจะพูดถึงความสัมพันธ์ของทั้ง 4 คนเป็นหลัก ซึ่ง 3 ใน 4 เราเคยเห็นมาแล้วในภาคหลัก แต่พอมาเห็นพวกเขาในแบบที่โดดเด่นขึ้นในมูฟวี่ก็รู้สึกว่าอินกับพวกเขามากกว่าเก่า มีฉากเจ๋งๆ เพียบ เช่นฉากสู้จริงจังของแพนด้า หรือ มากิร่างอ่อนเยาว์ ซึ่งถือเป็นความดีงามที่สุดในเรื่องแล้ว ของโคตรดีจริงๆ
การเล่าเรื่องก็ทำได้ไหลลื่นสมูธ แม้เนื้อเรื่องอาจจะตรงไปตรงมาไม่ซับซ้อน แต่พอมันถูกนำเสนอในจังหวะที่ถูกต้องจึงไม่ได้ติดขัดอะไรนัก อาจมีช่วงต้นๆ ที่ดูเพซอืดไปบ้าง แต่ก็ไม่นานนัก หรือหากจะมีอะไรติจริงๆ คงเป็นการใช้เพลงประกอบที่ไม่คุ้มเท่าไหร่ เพราะ 2 เพลงของวงดังอย่าง King Gnu ซึ่งถูกโปรโมตว่าเป็น OST ของเรื่องกลับไม่ได้ถูกใส่เข้าไป และมาเป็นเพลงตอนเครดิตขึ้นแบบติดกันเท่านั้น น่าเสียดาย
อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ครับว่า Jujutsu Kaisen 0 คือหนึ่งในอนเมะมูฟวี่คุณภาพของปีนี้ มันมีครบทั้งเนื้อเรื่องชวนลุ้น ฉากแอคชั่นสุดมันส์ ตัวละครที่น่าเอาใจช่วย มีครบทุกอย่างเท่าที่อนิเมะดีๆ เรื่องหนึ่งพึงมี ดังนั้นแล้วใครที่เป็นแฟนซีรีส์นี้หรืออยากดูอนิเมะสนุกๆ สักเรื่อง Jujutsu Kaisen 0 จัดว่าตอบโจทย์ครับ และแน่นอนว่าของดีแบบนี้จะเสพย์ให้เต็มประสิทธิภาพก็ต้องในโรงภาพยนตร์เท่านั้น ไปดูกันให้ได้ล่ะ!
ขอขอบคุณ Major Cineplex ที่สนับสนุนการชมภาพยนตร์ในครั้งนี้ครับ
VERDICT
8.5/10
ดูรอบหนัง และจองตั๋วได้ คลิกที่นี่ https://majorcineplex.com/movie/jujutsu-kaisen-zero