SILK ROAD ยุทธการปราบเว็บเถื่อน เตรียมฉาย 12 เมษายนนี้

แชร์เรื่องนี้:
SILK ROAD ยุทธการปราบเว็บเถื่อน เตรียมฉาย  12 เมษายนนี้

แรงบันดาลใจจากจินตนาการเหนือจริงและความระทึกขวัญอาชญากรรม ในเว็บจากเว็บไซต์มืด ที่ชื่อว่า The Silk Road ที่สั่นสะเทือนวงการอินเตอร์เน็ต เมื่อเด็กหนุ่มไฟแรงที่อยากประสบความสำเร็จ ได้ให้กำเนิดเว็บไซต์ในการขายของออนไลน์ Ross(Nick Robinson) ด้วยความกระหายความสำเร็จ เว็บไซต์นี้ได้กลายเป็นเส้นทางการขายยาเสพติดขนาดใหญ่จนเกิดเรื่องราวเกินการควบคุมของ Ross และเกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าของเว็บไซต์ และตำรวจหนุ่มเก๋าเกมส์ มากประสบการณ์ในหน่วยปราบปรามยาเสพติดของอเมริกา Rick Bowden (Jason Clarke) เรื่องราวการไล่ล่า การหนีและการต่อสู้กันอย่างบ้าระห่ำ ชาญฉลาด การชิงไหวพริบวางแผน และการทำทุกอย่างเพื่อที่จะโค่นอีกฝ่ายลงให้ได้

บทความจากผู้กำกับ Tiller Russell
ภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดจาก การได้อ่านบทความหนังไซไฟ ในห้องสมุดที่ Glen Park San Francisco ผมจำได้ว่าได้เปิดหนังสือพิมพ์อ่านในขณะที่อ่านก็เกิดพล็อตเรื่องขึ้นมาในจินตนาการควบคู่ไปด้วย นั่นคือวันที่ผมคิดว่าผมต้องสร้างมันออกมาเป็นภาพยนตร์ให้ได้ การไล่ล่าระหว่างผู้ผดุงความยุติธรรมและ พวกอันธพาล และผมคิดว่าเรื่องนี้จะเป็นการตีแผ่ อาชญกรรมครั้งยิ่งใหญ่ของอเมริกา

6 ปีต่อมา ผมพบว่าตัวเองได้กลับมาที่ห้องสมุด Glen Park อีกครั้งกับทีมงานคู่ใจของผม เพื่อมาสร้างโครงเรื่อง ทั้งอารมณ์และจิตวิญญาณของหนังเรื่องนี้ พวกเราเพิ่งจะโชคร้ายโดนขโมย กล้องและคอมพิวเตอร์โน้ตบุค ไปจากรถยนตร์ที่จอดไว้ (ในช่วงนั้นมีเหตุการณ์ การปล้นรถเช่าที่ซานฟรานซิสโกกำลังระบาดเป็นอย่างมาก) พวกเรารู้สึกถึงความโหดร้าย รุนแรงในสังคม เนื่องจากการโดนปล้นนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นมันโหดร้าย มันเกิดขึ้นจริง และสิ่งที่พวกเราเจอ มันไม่ต่างกับหนังอาชญากรรมเรื่องหนึ่ง

ดังนั้น เส้นบางๆระหว่างเรื่องจริง กับหนังที่เราเห็นมันแทบไม่แตกต่าง เพราะที่จริงแล้วสถานที่ที่เกิดขึ้น มันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ภาพเพดานห้องต่ำ ภาพกระดูกแตกหัก สภาพที่เดินเท้าเปล่า การต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา มันเกิดขึ้นตามสัญชาติของผมทันที นี่คือบทหนัง..

ที่พวกเราได้ทำการปลุกผี บทภาพยนตร์เรื่องนี้นั้น ที่ผมต้องใช้คำว่า ปลุกผีเพื่อมาอธิบายเพราะพวกเราได้ขุดบรรยากาศความโหดร้ายที่เกิดขึ้นจริงในโลกนี้ขึ้นมาตีแผ่ ผ่านความคิดอย่างหนักหน่วงของผม ภาพต่างๆในภาพยนตร์ได้ฉุดดึงผมกลับไปมา ต่างกันแค่ในภาพยนตร์เราได้สมมติบทบาทของบุคคลและสถานที่ใหม่ขึ้นมาแทนที่ บุคคลและสถานที่จริง

ในระหว่างถ่ายทำ มีคนได้ตั้งคำถามกับผมว่า ตอนไหนที่เป็นเรื่องแต่งขึ้นและตอนไหนที่มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง มันยากที่จะตอบคำถามนี้ และผมจะทำให้ดีที่สุดเพื่ออธิบายว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร

นี่คือเรื่องราวที่ผมได้ลุยเพื่อทำในแบบของผม Ross เป็นหนุ่มไฟแรงที่มาจากเท็กซัส ทั้งมีความฝันและทะเยอทะยานยิ่งใหญ่ และนั่นคือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตจริงของผม ย้อนกลับไปตอนนั้น การมุ่งตามหาฝันล้มลุกคลุกคลานต่อสู้ชีวิตมา เพราะความใฝ่ฝันของผมคือ ผมอยากเป็นคนทำหนัง ผมเคยสาบานกับตัวเองไว้ เสมือนท่อนหนึ่งในบทเพลงในตำนานของมิก แจ๊กเกอร์ ที่กล่าวว่า แค่เพียงเราต้องลั่นกระสุนนั้นออกไป (Just a shot away)

ดังนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้คือ ภาพรวมของความสับสน ซับซ้อน หลากหลายแหล่งที่มาของคาแรกเตอร์ ตัวละครของRoss มีเวอร์ชันต่างๆ โผล่มาจากแหล่งที่มาที่แตกต่างกัน

มีทั้งความเป็นบุกลุย ความช่างฝัน เป็นคนมีวิสัยทัศน์ เป็นคนทำลายระบบฉีกกฏเกณฑ์ต่างๆ เป็นนักปราชญ์ เป็นพวกเนิร์ด ทั้งเป็นคนที่กระตือรือล้น คนที่ฉลาดเหลือล้น และมากกว่านั้นเค้ายังเป็นพวกที่เข้าถึงได้ยากและเดาใจได้ยากยิ่งนัก

ในตัวละครของ Ross ที่ได้แสดงออกมาทั้งการทิ้งรอยในโลกออนไลน์ ในประวัติการสนทนา ต่างๆที่เก็บไว้ในโน้ตบุค หลังจากที่ถูกจับได้ตรงกับโพสต์ในวันปีใหม่ ปี 2011 ที่เขียนไว้ว่า “ฉันฝันว่า สักวันหนึ่งฉันจะสร้างเรื่องราวที่น่าจดจำในชีวิตของฉัน และมันจะมีรายละเอียดมากมาย”

นอกเหนือจากคาแรคเตอร์ของ Ross ที่กล่าวมาทั้งหมด Ross ได้เขียนชะตาชีวิตของเขาเอง เขาได้ก้าวเข้าสู่ความยิ่งใหญ่และสัมผัสกับมัน กับทุกๆอย่างที่เค้าเป็น

ดังนั้นในฐานะคนทำหนังอย่างผม จะต้องเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆ และร้อยเรียงทั้งความขัดแย้ง ความรุนแรง ความตึงเครียด รวมไปถึงความสนุกระทึกของหนังเรื่องนี้ ผมได้ใส่ความเป็นตัวตนของผม มุมมองทางชีวิตและการเดินทางของชีวิตและบางส่วนของตัวตนที่ผ่านมาของชีวิตผมลงไป มันคือความเป็นไปของชีวิตตัวละครหนึ่ง

และจะไม่พูดถึงอีกหนึ่งบุคคลที่สำคัญคงเป็นไปไม่ได้ นั่นคือ Rick Bowden เค้าคือตัวละครที่แข็งแกร่ง เป็นตำรวจมือปราบที่มีความเก๋า และความโชกโชนในประสบการณ์ในอาชีพของเขา ผมเคยรู้จักกับนายตำรวจรุ่นเก๋าตัวจริงมาก่อน จึงได้นำคาแรคเตอร์ของบุคคลนั้นมาผสมผสานกับสิ่งที่ผมจินตการมาใส่ในตัวละครนี้ ชื่อตัวละครนี้ผมได้นำชื่อจริงๆของพ่อผม กับนามสกุลของเพื่อนสนิทผมที่ล่วงลับไปแล้วมารวมกัน ผมสร้างให้เค้ามีครอบครัว ภรรยา และลูกที่มีชีวิตตกอยู่ในความเสี่ยงอันตรายและชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายบางๆ ในโลกของการไล่ล่ากัน

สำหรับผม หนังเรื่องนี้เสมือน การปล่อยระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างคนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกันของศีลธรรม ชะตากรรมได้ทำให้ทั้ง 2 คนต้องมาเจอกัน การเดินเส้นทางอาชีพที่ผิดกฎหมาย ได้กำหนดชะตาการปะทะกันของคนทั้ง 2

ผมได้เข้าถึงการทำหนังเรื่องนี้จากการผสมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ประสบการณ์ชีวิต เส้นทางชีวิตที่ผ่านมา เรื่องที่เคยพบเจอ คนที่เคยรู้จักและมีตัวตนอยู่จริง อุปนิสัยของคนที่เคยผ่านมาในชีวิต ข่าวทุกข่าวที่เคยอ่าน ผมได้รวบรวม และเปิดใจที่จะสร้างมันขึ้นมา

ผมเคยพูดว่า การสร้างหนังเรื่องนี้ เหมือนเป็นการผสมระหว่าง การเล่นเกมสืบสวนและการสาปเวทย์มนต์ดำใส่กัน และยังมีปริศนาอีกมากมาย และหวังว่าเมื่อคนได้ดูเรื่องนี้แล้วจะพบว่า เค้าจะได้เจอบางสิ่งบางอย่างที่มีความหมายและสำคัญในชีวิตและจะสะท้อนบางอย่างกลับไปที่ตัวคนดูนั้น ดังเช่น คำกล่าวของ Leonard Cohen ที่พูดว่า ผมพยายามทำทุกอย่างให้เป็นความจริงที่ธรรมดา

เกี่ยวกับนักแสดง
JASON CLARKE (รับบท Rick Bowden)

เจสันคือดารานักแสดงที่มีชื่อเสียงมากความสามารถ จากภาพยนตร์ที่ผ่านมาหลายๆเรื่อง เค้าได้แสดงเข้าตาผู้ชมจากบทบาท ในละครโทรทัศน์ เรื่อง Brotherhood ในบทของนักการเมืองท้องถิ่นที่เมือง Rhode Island ที่จะต้องเผชิญกับอาชญากรรมในท้องถิ่นของเขา

จากบทบาทอีกมากมายและความสามารถเข้าถึงบทบาทของเค้า ทำให้เค้าได้รับรางวัลจากสมาคม Chicago Film Critics Association ในสาขานักแสดงชายสมทบยอดเยี่ยมจากบทของ Dan ในเรื่อง Zero Dark Thirty

เขายังได้เล่น Series ใน HBO ชื่อดังต่างๆ และยังเล่นบทดราม่าได้อย่างสุดยอด ในเรื่อง The Aftermath คู่กับ KeiraKnighlyนักแสดงสาวชื่อดังอีกด้วย รวมไปถึงหนังสยองขวัญตลอดกาล The Pet Semetary ,First man เล่นกับ Ryan Gosling เป็นนักบินอวกาศ ที่มีตัวตนอยู่จริงที่เคนเดินทางไปดวงจันทร์ และยังมีบทบาท นักการเมืองรุ่นใหญ่ในทำเนียบขาว เรื่อง Chappaquiddick ที่ต้องมีความพัวพันกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่ส่งผลต่อการหาเสียงและเกี่ยวข้องกับแคมเปญการหาเสียง ของ เคเนดี้อีกด้วย

ยังมีบทบาทนักแสดงอีกมากในภาพยนต์ดราม่าเรื่อง Mudboundที่ได้รางวัลจากเทศกาล Sundance ในปี 2017 รวมไปถึงได้เข้าชิงตามเทศกาลภาพยนต์ ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น London Film Festival,New York Film Festival รวมไปถึง Toronto Film Festival อีกด้วย

เขายังได้ร่วมแสดงในภาพยนต์ที่สร้างจากเรื่องจริงที่ชื่อว่า Everest ที่เกี่ยวกับภูเขาเอเวอเรตส์ และยังได้เคยเล่นในเรื่องTerminator Genisysคู่กับ Arnold คนเหล็ก และยังได้เล่นคู่กับ Blake Lively ในเรื่อง All i see is you ยังมีภาพยนต์อีกมากมาที่เค้าได้ร่วมแสดง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Dawn of the planet of the Apes แสดงร่วมกับ Gary Oldman และ Keri Russell , Knight of cups ผู้กำกับ Terrence Malickแสดงร่วมกับ Christian Bale และ Cate Blanchettและ Natalie Portman , นิยายชื่อดัง สุดคลาสสิค The Great Gatsby แสดงกับ Leonardo DiCarprio Toby Maguire และ Carey Mulligan, White House Down ผู้กำกับ Roland Emmerich,ภาพยนต์พีเรียด โดยผู้กำกับ John Hillcoatsเรื่อง Lawless, Public Enemy, Child44;Texas Killing Fields, The Better Angels, Yelling To The Sky, The Human Contract,Trust, Death Race

เรื่องที่กำหนดฉายเร็วๆนี้อีก เช่น Showtime เป็นเรื่องเกี่ยวกับนักบาสเก็ตบอลในยุค 80’ ทีม Laker และวงการกีฬาบาสเก็ตบอล และเรื่อง Devil All The Time ใน Netflix ของผู้กำกับ Antonio Campos ซึ่งจะแสดงคู่กับ Tom Holland และ Robert Pattinson. ที่บ้านเกิดของเขา Queensland ออสเตรเลีย เค้ายังได้ร่วมแสดงเป็นนักแสดงสมทบในเรื่อง Rabnit Proof Fence และเรื่อง Better Than Sex และเขายังได้เล่นละครโทรทัศน์ชื่อดังเรื่อง The Chicago Code และเรื่อง Mercury เขาได้สำเร็จการศึกษาที่ Victorian Collage Of The Arts ที่ เมลเบิร์นอีกด้วย

NICK ROBINSON (รับบท Ross Ulbricht)

นิค เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง และมากความสามารถจากการแสดงที่หลากหลาย ผ่านทาง ภาพยนต์,ละครโทรทัศน์ และรสมไปถึงการแสดงละครบรอดเวย์

ผลงานที่ผ่านมาล่าสุด จากซีรี่ย์เรื่อง A Teacher คู่กับ Kate Mara และผู้กำกับ Hannah Fiddellและกำลังถ่ายทำภาพยนต์ที่จะฉายทาง Netflix ในเรื่อง Maid ของค่าย John Wells ans Lucky Chap Entertainment. และคุณจะได้เห็นเขาในหนังวีรสตรี สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ได้ทำการต่อสู่กับสิ่งประหลาดบางอย่างบนเครื่องบินรบ ที่ชื่อว่า A Shadow In The Cloud คู่กับนักแสดงสาวชื่อดัง Chloe Grace Moretsส่วนผลงานแสดงละครเวทีบรอดเวย์ เขาเพิ่งผ่านบทบาทที่ชื่อว่า Jem Finch จากหนังสือชื่อดังระดับโลก To Kill A Mocking Bird คู่กับ Ed Harris เขาได้เริ่มเส้นทางแสดงละครเวทีบรอดเวย์เมื่ออายุเพียงแค่ 12 ปี ที่โรงละคร ที่Seattle.

เส้นทางการแสดงภาพยนต์ มีมากมายหลายบทบาทไม่ว่าจะเป็น เรื่อง Love,Simon โดยผู้กำกับ Greg Berlantiสร้างมาจากนิยายชื่อดังของนักเขียนที่มีชื่อว่า Becky Albertaliและหนังเกย์วัยรุ่น Simon VS Homo Sapiens Agenda เกี่ยวกับการที่เขาได้ถูกเพื่อนที่รร.เปิดโปงว่าเขาเป็นเกย์ และเขาจำเป็นที่จะต้องบอกกับครอบครัวของเขา และยังได้แสดงละครโทรทัศน์ที่มีภาคต่อ เรื่อง Love,Victorซึ่งกำหนดฉายที่ช่อง Hulu เดือนมิถุนายนปี 2020 ที่ผ่านมา

ในปี 2019 โรบินสัน ได้ทำการแสดงละครพีเรียดเรื่อง Native,seaโดนผู้กำกับ Rashid Johnson สร้างมาจากนิยายชื่อดังที่ใช้ชีเรื่องเดียวกันกับละครเรื่องนี้ โดยเป็นเรื่องราว ของชายผิวสีในยุค 30’ ที่ได้อาศัยอยู่แถบทางใต้ของ ชิคาโก และเขายังได้รับบทในหนังระทึกขวัญ เรื่อง Strange But True จากค่าย Lionsgate. กำกับโดย Rowan Athaleเรื่องราวเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้สูญเสียแฟนหนุ่มของเธอไป และเธอได้ตั้งครรภ์กับเค้า จึงต้องมาบอกกับครอบครัวของเขาว่าเธอมีลูกกับเขาที่จากไปแล้ว

ในปี 2018 โรบินสันได้รับบทเด่นในภาพยนต์อินดี้เรื่อง Krystalแสดงคู่กับ Rosario Dawson กำกับโดย William H Macy เป็นเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่ตกหลุมรักกับสาวนักเต้นเปลื้องผ้า ที่ต้องบำบัดอาการติดแอลกอฮอล์ ในกลุ่มบำบัด เขาจำเป็นต้องปลอมตัวเป็นคนที่ติดแอลกอฮอล์ด้วยเพื่อที่จะได้อยู่ใกล้กับเธอในกลุ่มบำบัดนั้น

ปี 2017 โรบินสันได้เล่นเรื่อง Everything,Everythingคู่กับ Amanda Sternberg. กำกับโดย Stella Meghieเรื่องราวเกี่ยวสาวที่มีอาการแพ้กับทุกอย่างรอบตัว และจำเป็นต้องอยู่ในบ้านเพื่อรักษาอาการของเธอ ซึ่งทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป เพราะเธอได้ตกหลุมรักกับหนุ่มข้างบ้านของเธอเข้าอย่างจัง

ปี 2016 เขาได้แสดงในเรือง The 5th wave สร้างจากนิยายขายดีที่ตีพิมพ์ลงใน The New York Times แสดงคู่กับ Chole Grace Mortez,Alex Roe และ Liev Schreiber เป็นเรื่องราวของคลื่นยักษ์ 4 ลูก ที่ได้ทำลายประชากรโลกไปเกินครึ่ง จนเหลือมนุษยชาติไม่ถึงครึ่งของโลกจะต้องร่วมกันหาทางเอาตัวรอดให้ได้ กับคลื่นลูกที่ 5 ที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า และในปีเดียวกันนั้น เขาได้แสดงในเรื่อง Being Charlie เร่องราวเกี่ยวกับเด็กอายุ 18 ลูกชายที่มีปัญหายาเสพติด ของนักแสดงชื่อดังที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วงการการเมือง โดยพ่อของเขาพยายามที่จะนำเขาไปบำบัดเพื่อที่จะได้ออกสื่อหาเสียงกับพ่อของเขา ภาพยนต์เรื่องนี้ได้เข้าฉายในเทศกาล ที่ Toronto International Film Festival 2015

ปี 2015 เขาได้เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนต์ ฟอร์มยักษ์ ภาคต่ออันโด่งดังของสวนไดโนเสาร์ของโลก The Jurassic World รับบท Zach ญาติของ Bryce Dallas Howard ที่ไปเยี่มชม สวนสนุกไดโนเสาร์ที่เปิดใหม่หลังจากอุบัติเหตุเมื่อ 22 ปีก่อนจากภาคเก่ากำกับโดย Colin Trevorrow และแสดงร่วมนักแสดงชื่อดัง Chris Patt และ Judy Greer กวาดรายได้ไปถึง กว่า 1พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นแท่นหนังที่กวาดรายได้มากที่สุดตลอดการทันที

ในปี 2013 เค้ามีการแสดงที่โดดเด่นในเทศกาลหนัง Sundance Film Festival รับบทJoe Toy ในเรื่อง The Kings Of Summer ตลกร้ายเกี่ยวกับเพื่อน 3 คนที่ออกมาสร้างบ้านอยู่ด้วยกันในป่า เพื่อหลีกหนีปัญหาทางบ้านของพวกเขา และเรื่อง The Wall Street Journal ที่ทำให้เขาเป็นที่จับตามอง 1 ใน 5 นักแสดงที่โดดเด่น และแสดงได้สมบทบาทจากหัวใจจริงๆ

เขายังได้รว่มแสดงในซีรี่ส์ชื่อดังทางช่อง HBO เรื่อง Boardwalk Empire การแสดงของเขาได้สร้างความประทับใจต่อคนดูและเป็นที่ชื่นชอบเป็นอย่างมาก และสร้างความเป็นนักแสดงวัยรุ่นที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงมาในปี 2010 และได้ถูกเรียกตัวเข้าไปรับบท ในซีรี่ย์ Melissa And Joey ทางช่อง ABC อีกด้วย

หนุ่มนักแสดงอนาคตไกล ชาว Seattle คนนี้ ได้ผ่านบทบาทมามากมายตั้งแต่ยังวัยเยาว์ ทั้งงานภาพยนต์และละครบรอดเวย์ ได้รับคำชมมีชื่อเสียงในแถบ Seattle จากละครเวทีเรื่อง To Kill A Mockingbird,Mame,A Thousand Clowns และ Lost in Yonkers ในปัจจุบันเขาได้ย้ายมาอยู่ที่ Los Angeles กับครอบครัวของเขาเพื่อได้มาเดินทางตามฝันในด้านงานแสดง

DARRELL BRITT-GIBSON (รับบท RAYFORD)

LOS ANGELES, CALIFORNIA - JANUARY 19: Darrell Britt-Gibson attends the 26th Annual Screen Actors Guild Awards at The Shrine Auditorium on January 19, 2020 in Los Angeles, California. 721384 (Photo by Mike Coppola/Getty Images for Turner)

นักแสดงผู้นี้ได้ร่วมแสดงซีรีย์สุดสะเทือนอารมณ์ทางช่อง HBO เรื่อง Barry ซึ่งได้ถูกเข้าชิงรางวัล SAG 2019 สาขานักแสดงยอดเยี่ยม และยังมีภาพยนตร์รอเข้าฉายอีก 4 เรื่องในปี 2021 นี้ จึงนับว่าเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ของเขาเลยทีเดียว

ดาเรล ได้แสดงคู่กับ Daniel Kaluuya และ LaKeithStanfeith จากค่าย Warner Bros เรื่อง Judas and The Black Messiah รับบท Bobby Rushในเรื่องนี้ ซึ่งจะออกฉายครั้งแรกที่เทศกาลภาพยนตร์ Sundance ในปี 2021 และจะเข้าโรงภาพยนตร์วันที่ 12 กุมภาพันธ์ และจะออกฉายทางโทรทัศน์ช่อง HBO Max. เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของFred Hampton หัวหน้าพรรคการเมือง Black Panther ในช่วงปลายยุค 1960 และมีการหักหลังกันของมือขวาคู่ใจ William O’Neal ที่ทำงานให้กับ FBI ที่แฝงตัวเข้ามาในกลุ่มBlack Panther

ในฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้เขาจะได้รับบทนักแสดงคู่กับ Gillian Jacobs และ Fred Hechinger ใน Netflix ภาคต่อ ชื่อเรื่อง Fear Street สร้างจากหนังสือยอดนิยมขายดีของ R.L. Stine เป็นเรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นที่ได้เข้าไปเจอกับเหตุการณ์ที่น่ากลัวที่เกิดขึ้น ในเมืองของเขา Shadyside Ohio และพวกเขาจะเป็นกลุ่มต่อไปที่ได้พบกับเหตุสะพรึงนั้นหรือไม่

Britt-Gibson ได้ขโมยซีนกับบทบาทสุดสะเทือนใจ ในหลายเรื่องเช่น Just mercy หรือ Three Billboards Outside Ebbing และเขายังได้รับบทนักแสดงรับเชิญกับซีรี่ย์ต่างๆเช่น เรื่อง Southland,Shameless,Californiacation,Starz’s, Power ทางช่อง Epix เรื่อง Get Shorty และช่อง FX เรื่อง You’re The Worst.

นอกเหนือจากการแสดง ดาเรลยังมีความสามารถในด้านการเขียนบท ซึ่งจะมีการถ่ายทำในช่วงหลังจากโรคระบาดได้จางลง เรื่อง Mali and Frank

พื้นเพของเขาเป็นคนที่มาจากเมือง Detroit และได้เริ่มอาชีพนักแสดงตั้งแต่อายุ 18 ปีใน Baltimore หลังจากที่ไปอ้อนวอนผู้ช่วยผู้กำกับ David Mills ให้เขาได้แสดงในเรื่องThe Wire ซึ่งเป็น ซีรี่ย์ที่ออกฉายในช่อง HBO เขาได้รับเลือกผ่านการออดิชั่น และได้รับบท Darius “O-Dog” Hill และได้รับเสียงชื่นชมมากมาย ตอนนี้เขาได้มาอาศัยอยู่ที่ LA เพื่อประกอบอาชีพนักแสดง

ALEXANDRA SHIPP (รับบท Julia)

อเล็กซานดร้า เพิ่งจะมีงานล่าสุดลงฉายใน Netflix เรื่อง Tick,Tick … Boom! ผลงานจากผู้กำกับ Ron Howard, Brian Grazer, และ Julie Oh ภาพยนตร์ที่มีการดัดแปลงจากการนำอัติชีวประวัติ ของนักแสดง จากหลังม่านละครบรอดเวย์ ซึ่งเขียนบทโดยJonathan Larson,StevenLevenson เรื่อง Dear Evan Hanson เป็นนักเขียนบทละครที่ปรับแต่งโครงเรื่องใหม่

เธอเพิ่งจะไปถ่ายทำภาพยนตร์ที่เยอรมัน เรื่อง Kung Furyแสดงกับ Michael Fassbender และภาพยนตร์เรื่องนี้ The Silk Road แสดงคู่กับ Nick Robinson ก่อนหน้านั้น เธอได้ปรากฎในภาพยนตร์ ค่าย Warner Bros. ซึ่งเป็นการรีเมค เรื่อง Shaft แสดงคู่กับ Samuel L. Jackson ค่าย CBS เรื่อง Jexi แสดงกับ Adam Devine และคุณสามารถดูเธอได้ใน Netflix เรื่อง All the Bright Places แสดงคู่กับ Elle Fanning

นอกจากนั้นเธอยังเคยเป็นนักแสดงที่น่าจดจำในฐานะ สาวสุดเปรี้ยวทรงผมโมฮอว์ก ในภาพยนตร์ ซุปเปอร์ฮีโร่ เรื่อง The X-Men จากค่าย Twenteith Century Fox และยังได้รับแสดงในบทบาทสุดมณ์ ในเรื่อง Love ,Simon จาก Fox film และยังได้เล่นในภาพยนตร์ที่เข้าชิงรางวัลออสการ์ เรื่อง Straight Outta Compton อีกด้วย

เธอได้รับเกีรยติในการเสนอชื่อ ในรางวัล Crystal +Lucy Award ซึ่งเธอได้รับรางวัลในสาขานักแสดงหน้าหม่ยอดเยี่ยม และยังได้รับรางวัล ดาวรุ่งพุ่งแรงในปี 2020 โดยแมกกาซีน Vouge รวมไปถึงนิตรยสาร Forbes ในการจัดอันดับ 30 อันดับนักแสดงที่เป็นดาวรุ่งในปีนั้นอีกด้วย และเราจะได้เจอกับเธอทาง Netflix ในภาพยนตร์ที่นำรายได้ไปมอบให้ องค์การครัวโลก ในเรื่อง Father of The Bride Part 3 (ish) กำกับโดยNancy Meyer.

เกี่ยวกับทีมงาน
TILLER RUSSELL (กำกับและเขียนบท)

หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเป็นกระบอกเสียง ของอาชญากรรมในยุคสมัยปัจจุบัน โลกออนไลน์ การสอบสวน การสร้างบทความให้เป็นบทภาพยนตร์ Tiller Russell ได้นำมาสู่ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ถ่องแท้ในเรื่อง อาชญากรรมใต้ดินและการผสมระหว่างสารคดีกับบทภาพยนตร์

“ผมได้ใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตของผมคลุกคลี อยู่ในโลกของตำรวจและผู้ร้าย ผมได้ถูกลากเข้าไปยุ่งเกี่ยววนเวียนกับเรื่องการขึ้นโรงขึ้นศาล การไต่สวน ห้องขัง และเรื่องของตำรวจ เนื่องจากพ่อของผมได้รับราชการเป็น อัยการในนอำเภอ ที่ Dallas อเมริกา เสมือนหนึ่งในพรรณาของภาพยนตร์ ของ Errol Morris เรื่อง The Thin Blue Line เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ ตำรวจคาวบอย สไตล์คางบอยแบบนี้มันช่างสนุกสนาน ดังนั้นมันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผมจะโตมาได้ทำงานในสายที่คล้ายๆกับพ่อของผม ผมเริ่มต้นจากการอ่านข่าวอาชญกรรมท้องถิ่น และหลังจากนั้นเริ่มต้นทำหนังอาชญากรรม และเขียนบทละครและคำบรรยายกับเรื่องอาชญากรรม ที่ผมถนัด เมื่อมองย้อนกลับไป คุณจะเห็นมุมมองที่เกิดขึ้นในชีวิตและการทำงานที่ผ่านมากับประสบการณ์ของผม มาเป็นเรื่องราวที่สุดยอดในเรื่อง The Silk Road และเรื่อง The Night Stalker ตอน The Hunt for a Serial Killer.

ในเรื่อง The Night Stalker : The Hunt for a Serail Killer ได้ขึ้นอันดับ 1 ทันทีเมื่อลง Netflix เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องจริงของฆาตกรต่อเนื่องอันดับหนึ่งในประวัติศสตร์อเมริกา ที่ถูกจับและเข้าสู่กระบวนการสอบสวนและพิพากษา ในฤดูร้อนเมื่อปี 1985 เมื่อเกิดการฆาตกรรมต่อเนื่องแบบสุ่มขึ้นโดยไม่เลือกเพศ อายุ ไม่ว่าจะเป็น หญิงชายผู้สูงอายุ หรือเด็ก ได้ตกเป็นเหยื่อของฆาตกรต่อเนื่องรายหนึ่ง ซึ่งการสุ่มฆ่านี้ไม่มีความเชื่อมโยงใดๆเกี่ยวกับเหยื่อ หรือเรียกได้ว่า ฆ่าไม่เลือก มีตั้แต่อายุ 1 ปีจนถึง 82 ปี ที่มีภูมิหลังเชื้อชาติ หรือฐานะที่แตกต่างกัน และไม่มีการฆาตกรรมต่อเนื่องครั้งใดในประวัติศาสตร์ที่จะเหมือนกับครั้งนี้ ในการไลล่าฆาตกรต่อเนื่องนี้จำเป็นจะต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อหยุดฆาตกรปีศาจนี้ให้ได้ โดยมีนักสืบหนุ่ม Gil Carrillo จากสำนักงานอำเภอที่ LA และ Frank Salerno ที่เคยได้ผ่านการสอบสวนคดีดังในตำนานเรื่องการฆ่าตัวตายหมู่ในครอบครัว และในการทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยในการสอบสวนคดี สื่อก็ได้ทำการเผยแพร่ข่าว เส้นทางของฆาตกร และเกิดความวิตกกังวลของคนในแถบ California บอกเล่าผ่านการสัมภาษณ์ของผู้คนที่เคยได้ประสบกับเหตุการณ์ในยุคนั้น รวมไปถึงภาพฟุตเทจของจริงในคดีนั้นๆ ในซีรี่ย์ นี้คือการอธิบายว่าผู้คนในยุคนั้นรู้สึกอย่างไร เมื่อคุณอาจจะเป็นเหยื่อฆาตกรรมรายต่อไปในตอนนั้น

Russell ยังได้กำกับ The Last Narc เป็นซีรี่ย์สารคดี ฉายทางช่อง Amazon Prime เกี่ยวกับการฆาตกรรม ของเจ้าหน้าทีหน่วยปราบปรามยาเสพติด Enrique “Kiki” Camarana และยังมีชื่อของเขาในในสารคดี Operation Odessa (SXSW ฉายทางNetflix เป็นเส้นทางของหนุ่มรัสเซีย หนุ่มเพลย์บอยไมอามี และนักสืบชาวคิวบา ที่รวมทีมกัน ขายเรือดำน้ำโซเวียตในช่วงปี 1990 และ Russell ยังได้กำกับ The Seven Five เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการคอรัปชันในกรมตำรวจนิวยอร์ก ในช่วงปี 1990 จนค่าย Sony/Annapurna ได้แย่งชิงจนได้สิทธิ์ซื้อต่อมาทำการสร้างใหม่

นอกจากงานทั้งหมดเขายังได้ร่วมเขียนบทละครดราม่าฉายทางช่อง NBC เรื่อง Chicago Fire และ Chicago P.D.

internet
แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ