เจาะเทคนิคอัดระห่ำ จัดเต็มแอ๊กชั่นระทึก จนต้องจบที่นรก “DELIVER US FROM EVIL ให้มันจบที่นรก”
อีกไม่กี่อึดใจที่คอหนังชาวไทยจะได้รับชม “DELIVER US FROM EVIL ให้มันจบที่นรก” ผลงานแอ๊กชั่นอาชญากรรมสุดเดือดแห่งปี ส่งตรงจากเกาหลีถึงเมืองไทย ผลงานมือเขียนบท The Chaser (2008) และ The Yellow Sea (2010) กับการโคจรมาพบกันอีกครั้งของสองสตาร์มือเก๋าแถวหน้าของเกาหลี ฮวังจองมิน (The Wailing 2016) และ อีจุงแจ (Along With The Gods 2018) ที่ครั้งนี้ทั้งสองต้องมารับบทนักฆ่าฝีมือฉกาจ ประชันบทบาทสุดเข้มข้น ดวลความโหด ไล่ล่าระห่ำ จนกว่าจะส่งอีกฝ่ายไปลงนรก และกำลังจ่อคิวเข้าฉายโรงภาพยนตร์ 1 ตุลาคมนี้
เมื่อหนึ่งนักฆ่าฝีมือฉกาจผู้กำลังจะวางมือ ต้องมาตามหาเด็กสาวที่หายตัวไปพร้อมๆกับหลบหนีเอาชีวิตรอดจากการไล่ล่าของอีกหนึ่งนักฆ่าสุดโหดเหี้ยม “DELIVER US FROM EVIL ให้มันจบที่นรก” เรื่องราวของคดีลักพาตัวสุดสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นในประเทศไทย อินนัม (ฮวังจองมิน) นักฆ่าสัญญาจ้างที่เพิ่งทำภารกิจสุดท้ายเสร็จ ก่อนจะพบว่าเด็กสาวที่หายไปอาจเป็นญาติใกล้ชิดของเขา เขาเดินทางมายังประเทศไทยทันทีเพื่อสอบสวนเรื่องนี้ และขอความช่วยเหลือจาก ยูอิ (พาร์คจองมิน) พวกเขาต้องร่วมกันตามหาเด็กที่ถูกลักพาตัวไปภายใต้เวลาจำกัด ขณะเดียวกัน เรย์ (อีจุงแจ) พบว่าพี่ชายร่วมสาบานของเขาถูกอินนัมฆ่า เขาจึงติดตามไล่ล่าอินนัม โดยทิ้งศพไว้กลาดเกลื่อนขณะปฏิบัติภารกิจไล่ล่าเพื่อล้างแค้น... เกมไล่ล่าสุดอันตรายของอินนัมกับเรย์จึงเปิดฉากขึ้น และทั้งคู่ต้องสะสางให้มันจบที่นรก! …และนี่คือ 3 เหตุผลสุดระห่ำที่ยกระดับความมันส์ให้กับหนังจนเราไม่อยากให้คุณพลาด
1.อัดระห่ำความสมจริง ตัดต่อซีนระหว่างแอ๊กชั่นให้น้อยที่สุด
เต็มอิ่มกับฉากบู๊ล้างผลาญเน้นๆต่อเนื่องจุใจคอหนังแอ็คชั่น !! กับการสร้างสรรค์ฉากแอคชั่นไล่ล่าดุเดือดสุดแนว พร้อมส่งมอบความมันส์สุดระทึกแบบจัดเต็ม โดยตัดต่อซีนระหว่างแอ็กชั่นให้น้อยที่สุด! โดยเลือกใช้กรุงเทพเป็นโลคชั่นหลักในการถ่ายทำ ที่ซึ่งไม่ว่าคุณจะเล็งกล้องไปที่ใด ทุกอย่างล้วนดูแปลกใหม่ไปหมด ดังนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้จึงสามารถจับเทคนิคการจัดวางองค์ประกอบภาพ (mise-en-scène) ที่ให้ความรู้สึกสดใหม่สำหรับภาพยนตร์เกาหลี
ทีมงานได้สำรวจสถานที่ต่างๆในย่างเมืองในกรุงเทพและหมู่บ้านต่างๆในบริเวณใกล้เคียง เพื่อมองหาสถานที่ที่ให้ความรู้สึกธรรมดาแต่ไม่เคยเห็นกันมาก่อนในภาพยนตร์ที่ผ่านมาเพื่อถ่ายทำฉากแอ็คชั่น พวกเขาพบพื้นที่โถงทางเดินแคบๆของโรงแรมแห่งหนึ่งและพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ เพื่อใช้ถ่ายทำฉากแอ็คชั่นผจญเพลิงที่น่าตื่นตาตื่นใจ รวมทั้งฉากการต่อสู้ด้วยมือเปล่า
2. อัดระห่ำ เล่นจริง แสดงจริง เพิ่มดีกรีความโหดล่าดิบ
จุดกำเนิดหลักของ DELIVER US FROM EVIL คือ "การสร้างภาพยนตร์แอ็คชั่นที่ไม่เคยเห็นกันมาก่อน" ดังนั้นวิธีการสร้างและวิธีการถ่ายทำของภาพยนตร์เรื่องนี้จึงมีความโดดเด่น ฉากแอ็คชั่นต่อเนื่องของหนังสร้างความสะใจถึงขีดสุดด้วยการบล็อคมุมแอ็คชั่นที่มีรายละเอียดหนาแน่นในพื้นที่ที่จำกัดไว้ ให้ความรู้สึกประหนึ่งละครเวที
ประการแรก ทีมผู้สร้างต้องการลบสิ่งที่คนดูไม่ชอบต่อภาพยนตร์แอ็คชั่นในอดีต สิ่งที่คนดูมักตำหนิข้อหนึ่งคือมีการตัดฉากมากเกินไปทำให้เสียอรรถรส ทีมงานมีเป้าหมายในการเพิ่มความรู้สึกสมจริงโดยการตัดฉากในฉากแอ็คชั่นให้น้อยลง ในภาพยนตร์แอ็คชั่นเรื่องอื่นๆ ฉากเหล่านี้มักถ่ายทำโดยถ่ายทั้งนักแสดงตัวจริงและตัวแสดงแทน และภาพจะถูกนำมาตัดต่อร่วมกันเพื่อให้ดูเหมือนว่านักแสดงกำลังแสดงฉากผาดโผนด้วยตัวเอง แต่ใน DELIVER US FROM EVIL นักแสดงทุกคนแสดงฉากผาดโผนของตัวเองและถ่ายต่อเนื่องกันโดยใช้กล้องหลายตัว และเราเลือกที่จะถ่ายทำแบบใช้เวลาถ่ายยาวนานต่อเนื่อง
การบล็อกมุมก็เป็นสิ่งสำคัญของการถ่าย DELIVER US FROM EVIL ที่ช่วยให้ผู้ชมเข้าถึงภาพยนตร์ การเซ็ตฉากต่อสู้แอ็คชั่นที่ทำให้ผู้ชมตั้งคำถามถึงปูมหลังของตัวละครแต่ละตัว มีความสำคัญต่อฉากที่อินนัมและเรย์ไม่ได้ต่อสู้กัน อินนัมคือคนที่ลบอดีตของเองและมีชีวิตอยู่เหมือนเงา ในทางกลับกันเรย์มีความสุขจากการฆ่าเป้าหมายของเขาและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นตัวละครที่โหดเหี้ยมและไร้ความปรานี
จุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการนำตัวละครทั้งสองมาเข้าคู่กัน การปะทะกันเกิดขึ้น3ครั้ง ได้แก่ การต่อสู้มือเปล่าในโถงทางเดินแคบๆ ฉากรถไล่ล่ากัน และฉากประลองครั้งสุดท้าย ด้วยการใช้เทคนิคกล้องแบบใหม่ และฉากแอ็คชั่นที่แปลกใหม่น่าสนใจ DELIVER US FROM EVIL ให้สัญญาแก่ผู้ชมว่าจะนำเสนอปรากฏการณ์ใหม่ให้ได้ชมกัน
3. อัดระห่ำ สต็อปโมชั่น จับทุกชอตทุกเฟรมแอ๊กชั่น
ในฉากการไล่ล่าครั้งใหญ่เพื่อเพิ่มความรู้สึกสมจริง นอกจากนี้ฉากแอ็คชั่นต่อเนื่องยังใช้เทคนิค "สต็อปโมชัน" และการจับภาพการชกต่อยจริงเพื่อสร้างภาพที่สมจริง “กรุงเทพมีกลิ่นอายของความแปลกใหม่และให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนใครทำให้รู้สึกไม่คุ้นชินและรู้สึกกระวนกระวายได้พร้อมกันในที่เดียว ดังนั้นผมจึงมีความคาดหวังสูงมากในการถ่ายทำฉากไล่ล่าที่มีสไตล์กันที่นี่” ผู้กำกับฮงกล่าว
ทีมผู้สร้างยังใช้เทคนิค "สต็อปโมชัน" ซึ่งแบ่งเฟรมเพื่อให้การชกต่อยแต่ละครั้งในภาพยนตร์รู้สึกสมจริง เพื่อให้ได้ลุคนี้ ผู้กำกับภาพฮงถือกล้องของเขาโดยใช้ไม้ถือกันกล้องสั่น(gimbal) และจ่อติดนักแสดงและจับภาพฉากแอ็คชั่นช็อตสำคัญของอินนัมและเรย์
ลีกวนมูน ผู้ประสานงานด้านการแสดงผาดโผน ใช้เทคนิคการแสดงผาดโผนแบบใหม่ที่เรียกว่า "สต็อปโมชั่น" เพื่อเพิ่มผลลัพธ์ทางการแสดง การต่อสู้ที่คุณจะเห็นในภาพยนตร์เรื่องนี้ นักแสดงได้ฝึกฝนกันเป็นร้อยเป็นพันครั้ง เพื่อให้ฉากเหล่านี้รู้สึกดูสมจริงเป็นธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งสามารถการันตีได้เลยว่า ทีมสร้างแถวหน้าเกาหลีเหล่านี้ หลั่งเลือด อาบเหงื่อ เสียน้ำตา เพื่อให้ภาพยนตร์เป็นอาหารตาอันโอชะ ด้วยเรื่องราวที่คาดเดาไม่ได้ แอ็คชั่นอันมีสไตล์สุดเท่ห์ ตัวละครที่มีมิติ และเทคนิคภาพที่สมจริง
ร่วมพิสูจน์ความมันส์กับภาพยนตร์แอ็กชั่นสุดระห่ำทะลุองศาเดือด!! เต็มอิ่มกับฉากบู๊ล้างผลาญแบบเน้นๆ ต่อเนื่องจุใจ กับการไล่ล่าที่ครั้งนี้ต้องจบลงที่นรกเท่านั้น!! “DELIVER US FROM EVIL ให้มันจบที่นรก” 1 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
“DELIVER US FROM EVIL ให้มันจบที่นรก”
สกู๊ปภาพยนตร์ : นรกกำลังจะมาถึงไทย!
ตัวอย่างภาพยนตร์