โรคร้ายของ Chadwick ที่คนของ Marvel ไม่เคยเอะใจ กับทางเลือกแก้ไขที่ Disney ต้องเผชิญ

โรคร้ายของ Chadwick ที่คนของ Marvel ไม่เคยเอะใจ กับทางเลือกแก้ไขที่ Disney ต้องเผชิญ: นอกจากครอบครัวแล้ว เพียงคนกลุ่มเล็กๆ เท่านั้นที่รู้ว่า Chadwick Boseman กำลังต่อสู้กับโรคมะเร็งอย่างหนัก เวลานี้แม้ยังคงอยู่ในช่วงเวลาอาลัยอาวรณ์ แต่ทางสตูดิโอก็เริ่มจะต้องมองหาทางออกเพื่อมูฟออนกันต่อไป

28 สิงหาคมที่ผ่านมา Kevin Feige ได้รับอีเมล์ด่วนที่เกี่ยวข้องกับตัวของ Chadwick Boseman โดยที่ไม่เคยรับรู้มาก่อน และไม่มีใครในสตูดิโอที่รับรู้ด้วยเช่นกัน ว่าเจ้าของบทบาท Black Panther ได้ทำการต่อสู้กับโรคมะเร็งลำไส้มาเกือบๆ จะ 5 ปีแล้ว และเวลานี้อาการของเขาก็กำลังทรุดลงอย่างหนักเข้าขั้นเลวร้าย ซึ่งหลังจาก Feige ได้รับข้อความ เพียงชั่วโมงถัดมา Chadwick Boseman ก็ได้จากไป ทิ้งไว้เพียงคลื่นความช็อคที่กระจายไปทั่ว Disney และแน่นอนว่ามันกระทบกับแผนงานของ MCU อย่างโหดร้าย

แหล่งข่าวใกล้ชิด Boseman ให้สัมภาษณ์กับ The Hollywood Reporter ว่า Boseman ในวัย 43 ปี ซึ่งผอมแห้งไปมากยังคงมีความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมจนถึงวินาทีที่เขาเสียชีวิตว่าจะสามารถเอาชนะโรคมะเร็งได้ ทั้งยังมีความคิดว่าจะทำนํ้าหนักกลับมาเพื่อภาคต่อของ Black Panther ที่เตรียมจะเข้าสู่ช่วง Production ในเดือนมีนาคมที่กำลังจะถึง นอกจากนี้เขายังมีการเตรียมพร้อมอย่างแข็งขันสำหรับภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่กำลังจะเปิดกล้องในเดือนกันยายนนี้อีกต่างหาก

เวลานี้สตูดิโอยังคงอยู่ในช่วงเศร้าใจและการไว้อาลัย Boseman เป็นที่รักและเคารพต่อทั้งผู้คนในจอและนอกจอ ขณะที่ในแง่ธุรกิจนั้นกระทบแน่นอน ทั้งในส่วนของภาพยนตร์ Black Panther ที่เขาเป็นตัวเอกโดยตรง และส่วนของหนังเรื่องอื่นๆ ใน MCU ที่เตรียมมีบทตัวละครของเขาไปร่วมแจม อย่างที่เคยเกิดขึ้นใน Captain America: Civil War, Avengers: Infinity War และ Avengers: Endgame.

แหล่งข่าวใน Disney ยังบอกด้วยว่าขณะนี้บริษัทยังคงอยู่ในช่วงอาลัยและเพ่งความสนใจไปยังการสดุดี Boseman มากกว่าจะคิดเรื่องภาคตต่อ Black Panther นอกจากครอบครัวแล้วมีเพียงเพื่อนร่วมงานที่สนิทกันจริงๆ ที่รู้ว่า Boseman ป่วย ได้แก่ Logan Coles คู่หู, Michael Greene เอเย่นต์, Addison Henderson เทรนเนอร์ และ Brian Helgeland ผู้กำกับ ไม่มีใครที่เกี่ยวข้องกับโปรเจ็ค Black Panther จะฉุกใจในเรื่องนี้ และมันเป็นคำขอร้องของตัว Boseman เองที่ต้องการให้เรื่องราวการต่อสู้กับโรคร้ายนั้นรู้กันเฉพาะในวงแคบๆ เท่านั้น

หลายๆ คนยังคงแคลงใจว่า Boseman เก็บเรื่องนี้เป็นความลับขณะที่ถ่ายทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง Black Panther ได้อย่างไร ซึ่ง Schuyler Moore ผู้เป็นทนายของภาพยนตร์ก็ได้ให้คำตอบว่า Boseman ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจร่างกายใดๆ จากข้อกำหนดในกรมธรรม์ประกันชีวิตของเขา

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาวงการภาพยนตร์ต้องเผชิญการเสียชีวิตอย่างฉับพลันของนักแสดงอยู่หลายเคส ซึ่งทางสตูดิโอก็ต้องสู้หาทางออกเพื่อให้ชิ้นงานได้ออกสู้สายตาผู้ชมอย่างราบรื่นที่สุด ไม่ว่าจะในรายของ Carrie Fisher, Paul Walker หรือกระทั่ง Heath Ledger ซึ่งที่ผ่านมาพวกเขาก็หาทางออกให้เส้นเรื่องมูฟออนจนได้ ขณะที่ก็สดุดีนักแสดงที่เสียชีวิตกระทันหันไปในตัว

อย่างไรก็ดีนี่เป็นอีกครั้งที่ Disney ต้องเผชิญการสูญเสียฉับพลัน และรอบนี้ดูจะหนักหนากว่าในคราวของ Carrie Fisher อยู่มากหากพูดถึงเรื่องของผลกระทบเพียวๆ เพราะตัวละครของ Boseman นอกจากจะเป็นตัวเอกแล้ว ก็ยังเตรียมจะถูกโยงบทบาทไปยังอีกหลายๆ เรื่องในการสร้างเฟส 4 ของ MCU

หลายๆ คนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า Disney มีทางเลือกไม่มากนัก หนึ่งคือหานักแสดงใหม่ที่ต้องได้รับการสนับสนุนจากแฟนๆ และพร้อมจะโดนเปรียบเทียบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้มาทดแทน กระนั้นจากวันฉายที่วางไว้ในปี 2022 และผลกระทบจากการระบาดของ Covid-19 ก็น่าจะมีนักแสดงน้อยยิ่งกว่าน้อยที่พร้อมท้าทายงานนี้ ทางเลือกที่สอง ที่อาจจะดูประนีประนอมต่อความรู้สึกแฟนๆ มากกว่าคือการดันตัวละคร Shuri ขึ้นเป็น Black Panther คนใหม่ ซึ่งหากจะทำจริงก็มี Comic ตอนที่ใช้อ้างอิงได้อยู่

แต่ไม่ว่า Disney จะเลือกหนทางใด การสูญเสีย Boseman ก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่อาจประเมินค่าได้อยู่ดี อย่างที่ผู้กำกับ Ryan Coogler ได้เขียนถึงความทรงจำที่มีร่วมกับ Boseman ไว้ว่า

“ผมใช้เวลาปีที่แล้วในการเตรียมพร้อมหลายๆ สิ่ง ไม่ว่าจะบทพูดหรือการออกแบบซีนสำหรับเขา เพราะว่าเราไม่มีโอกาสได้เจอหน้ากันสักเท่าไหร่ สิ่งที่เกิดขึ้นมันเจ็บปวดมากเมื่อผมตระหนักได้ว่าผมจะไม่มีวันได้เห็นเขาใกล้ๆ ผ่านจอมอร์นิเตอร์ ก่อนเดินไปหาและขอให้เขาเล่นฉากเมื่อกี๊อีกเทคหนึ่ง”