One Piece Stampede -รีวิว เราเดินทางร่วมกันมานานจริงๆ นะเจ้าหมวกฟาง

แชร์เรื่องนี้:
One Piece Stampede -รีวิว เราเดินทางร่วมกันมานานจริงๆ นะเจ้าหมวกฟาง

One Piece Stampede -รีวิว เราเดินทางร่วมกันมานานจริงๆ นะเจ้าหมวกฟาง

    จากใจแฟนวันพีซอย่างผมแล้ว บอกตรงๆ ว่ารู้สึกตื่นเต้นกับวันพีซเดอะมูฟวี่ภาคนี้มาก ด้วยความที่เนื้อเรื่องหลักก็ดำเนินมาถึงจุดที่ค่อนข้างเข้มข้นมากแล้ว รวมถึงยังเป็นการฉลองครบรอบ 20 ปีของอนิเมะวันพีซอีกด้วย "One Piece Stampede" จึงเป็นเหมือนหมุดหมายสำคัญ และความหวังของแฟนๆ วันพีซที่รอรับชมอยู่ทั่วโลก ในส่วนของประเทศไทยก็มีอีเว้นท์ที่ค่อนข้างฮือฮา โดยการเชิญคุณบอย ปกรณ์ รวมถึงเหล่า Influencers ชื่อดังหลายท่านมาร่วมพากย์เสียงให้กับตัวละครในเรื่อง จุดนี้ค่อนข้างมีผลกับคะแนนพอสมควร เดี๋ยวจะมาอธิบายในภายหลังว่ายังไง

One Piece06

   เนื้อเรื่องของ One Piece Stampede จะเกี่ยวกับงานเทศกาลของโจรสลัดครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีไฮไลท์คือการแข่งขันล่าสมบัติของราชาโจรสลัด “โกลด์ ดี โรเจอร์” และรางวัลเป็นถึงระดับขุมทรัพย์ของราชาโจรสลัด ผู้เข้าร่วมจึงไม่ได้มีแค่โจรสลัด แน่นอน ทหารเรือ คณะปฎิวัติ และทุกองค์กรสำคัญๆ ในโลกแห่โดดเข้ามาร่วมงานนี้กันอย่างหนาแน่น แต่แน่นอนว่าตัวร้ายหลักของเรื่องอย่าง “ดักลาส บุลเล็ต” อดีตลูกเรืออขงกลุ่มโจรสลัดโรเจอร์ก็เข้ามาทำให้เทศกาลครั้งนี้ไม่ธรรมดาและวุ่นวายใหญ่โตชนิดที่คาดไม่ถึงแน่นอน

One Piece03

   พล็อตเรื่องก็จะเป็นประมาณนี้ ทีนี้มาถึงความคิดเห็นของผมหลังจากดูจบ ความรู้สึกมันค่อนข้างจะอธิบายยาก ในมุมมองของแฟนวันพีซที่ไม่เคยคาดหวังอะไรกับความเข้มข้นซับซ้อนของเนื้อเรื่องอยู่แล้ว ก็ยังคงคาดหวังอะไรไม่ได้กับเนื้อเรื่องเช่นเคย บทต่างๆ ค่อนข้างอ่อนไปหมด ตัวร้ายแบนราบไร้ซึ่งมิติยิ่งกว่าภาคก่อนๆเสียอีก พูดได้เต็มปากเลยว่าเป็นตัวร้ายที่ไม่น่าจดจำเอาเสียเลย ถึงแม้จะเป็นถึงระดับลูกเรือของโรเจอร์ก็ตาม ส่วนตัวละครอื่นๆ ก็เป็นดังคาด แห่กันมาร่วมวงเยอะมาก เยอะจริงๆ อย่างกับงานคืนสู่เหย้า ตรงนี้ต้องยอมรับว่า One Piece เป็นการ์ตูนไม่กี่เรื่องที่ทำให้เราว้าวแทบทุกครั้งที่ตัวละครต่างๆ ปรากฏบนจอ มันมีความผูกพันธ์ที่เหนียวแน่นระหว่างคนดูกับตัวละครที่เราติดตามมามากว่า 20 ปี จุดนี้ถือเป็นจุดชูโรงสำคัญของ Stampede เลยก็ว่าได้ ถึงแม้แต่ละตัวจะปรากฏตัวแค่ไม่กี่วินาที แต่ก็มีซีนให้น่าจะจดจำแทบทุกตัว 

One Piece01

   อีกจุดหนึ่งที่ทุกคนเฝ้ารอคงหนีไม่พ้นฉากต่อสู้ ซึ่งหนังก็ทำได้ดี อลังการ หนักแน่น สะใจ แต่มันก็ “ยังไม่สุด” อยู่ดี อาจเป็นเพราะการต่อสู้ที่มาๆ หยุดๆ ตัดสลับกับบทพูดเยอะเกินไป เลยทำให้มันรู้สึกขัดๆ ไม่สุดเท่าที่ควร แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันดุเดือดขึ้นจากภาคก่อนๆ มาก ท่าไม้ตายของแต่ละตัวถูกถ่ายทอดออกมาได้ตระการตา ต่อยเป็นต่อย ซัดกันตุ้บตั้บมาก มุกตลกที่สอดแทรกเข้ามาทำได้ค่อนข้างดี มีจังหวะในการเล่นและฮาเกือบทุกมุก ในส่วนนี้ถือว่าสอบผ่านเลย

One Piece04

   แต่ก็นั่นแหละ ฉากต่อสู้ที่ดีไม่สุด ไม่สามรารถจะแบกพล็อตเรื่องที่อ่อนเกินไปได้ ผมจึงรู้สึกไม่อินกับตัวละครเท่าที่ควร และทำให้ความมันส์ลดลงไปพอสมควร แต่ด้วยการรวมตัวของตัวละครที่เยอะมากๆ ทำให้ Stampede เป็นเหมือนกับการรำลึกถึงอดีตเสียมากกว่าที่จะอินกับเนื้อเรื่องปัจจุบัน 

One Piece12

   ในส่วนของเสียงพากย์ไทย ต้องพูดเลยว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย เสียงของหลายๆ ตัวละครทำออกมาได้ดีเกินคาด เช่น “บูเอน่าเฟสต้า” ที่พากย์โดยน้า”ต๋อย แซมเบ้” ก็ยังไม่ผิดหวัง หรือเสียงของแอน ที่พากย์โดย "แป้ง z bingz." ก็ทำออกมาได้ดีเกินคาด แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีหลายตัวละครที่เสียงพากย์ไทยทำให้ตัวละครนั้นหมดราศี ไม่เท่เท่าที่ควร ส่วนนี้อาจจะต้องไปฟังกันเองว่าถูกใจหรือไม่อย่างไร แต่โดยรวมก็ถือว่าไม่แย่ แค่อยากให้มันดีกว่านี้ มืออาชีพกว่านี้ ให้สมกับเป็นการครบรอบ 20 ปีของอนิเมะวันพีซก็แค่นั้นเอง

One Piece10

   สรุปแล้ว One Piece Stampede ก็ยังคงเป็นเดอะมูฟวี่ของวันพีซที่แฟนวันพีซไม่ควรพลาดอยู่ดี คะแนนความคิดถึงตัวละครให้ 9/10 ไปเลย มันทำให้เรากลับมาคิดถึงทุกอย่างตลอด 20 กว่าปีที่การ์ตูนเรื่องนี้ได้ดำเนินมา ให้ความรู้สึกเหมือนตอน End Game นิดๆ เลย แต่ในฐานะของหนังเรื่องหนึ่งแล้ว Stampede ยังคงสอบตกอยู่หลายประเด็น ทั้งความอ่อนของเนื้อเรื่อง มิติตัวละครที่แบนราบ การต่อสู้ที่ไปไม่สุด 6.5 คะแนนน่าจะเป็นคะแนนที่เหมาะสมของหนังเรื่องนี้ (แต่ฉากจบนี่ให้ 10 เต็ม 10 ไปเล้ย) 

6.5/10

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ