Every Day a Good Day หัวใจ ใบชา ความรัก เข้าฉาย 11 กรกฏาคมนี้ในโรงภาพยนตร์

แชร์เรื่องนี้:
Every Day a Good Day หัวใจ ใบชา ความรัก เข้าฉาย 11 กรกฏาคมนี้ในโรงภาพยนตร์


เรื่องย่อภาพยนตร์ โนริโกะ นักศึกษาสาวปี 3 และลูกพี่ลูกน้องของเธอ มิจิโกะ ได้ตัดสินใจเข้าร่วมพิธีชงชาแถวละแวกบ้านตามคำแนะนำของผู้เป็นแม่ ที่นั่นเอง โนริโกะได้เรียนรู้พิธีชงชากับอาจารย์ทาเคดะ และแล้วการชงชา ก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอ ไม่ว่าจะในยามทุกข์ หรือสุข นี่คือเรื่องราวการค้นหาอิสรภาพ ผ่านกลิ่นหอมและไออุ่นจากชา

ภาพยนตร์เรื่องนี้ สร้างโดยอ้างอิงจากงานเขียนของ โมริชิตะ โนริโกะ เรื่อง Everyday is a good day: 15 happiness taught by 'Tea’ ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 2002 โดยสำนักพิมพ์  Asukashinsha

ผู้กำกับ โอโมริ เท็ตสึชิ (ผลงานก่อนหน้านี้ที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จักในไทย ภาพยนตร์ Seto & Utsumi(2016), Hikari (2017))
คนเขียนบท โมริชิตะ โนริโกะ (เจ้าของงานเขียนต้นฉบับภาพยนตร์), โอโมริ เท็ตสึชิ(ผลงานการเขียนบทที่เป็นที่รู้จักในไทย  Seto & Utsumi(2016))
นักแสดงนำ
คุโรกิ ฮารุ รับบทเป็น โนริโกะ
กิกิ คิริน รับบทเป็น อาจารย์ทาเคดะ (ปัจจุบันนักแสดงเสียชีวิตแล้ว)
ทาเบะ มิคาโกะ รับบทเป็น มิจิโกะ

นักแสดงสมทบ สึรุตะ มายุ, สึรุมิ ชินโงะ , ทาคิซาว่า เมกุมิ, คาวามุระ ซายะ, ฮาราดะ มายุ, ยามาชิตะ มิซึกิ, โอคาโมโตะ จิฮิโระ, คูริยามะ ฟุยุกะ

เกร็ดภาพยนตร์
-งานเขียนเรื่อง Everyday is a good day: 15 happiness taught by 'Tea ของ โมริชิตะ โนริโกะ เขียนโดยมีเค้าโครงมาจากประสบการณ์ชีวิตจริง ที่เกี่ยวข้องกับศิลปะการชงชากว่า  25 ปีของตัวเธอเอง
-งานเขียนเรื่อง Everyday is a good day: 15 happiness taught by 'Tea ของ โมริชิตะ โนริโกะ ติดอันดับหนังสือยอดขายดีในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก หลังจากตีพิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ 17 ปีก่อน (ติดอันดับขายดีในช่วงเปิดตัวภาพยนตร์ปี 2018)
-กิกิ คิริน นักแสดงหญิงอาวุโส เจ้าของรางวัลการแสดงมากมาย(อาทิ Japan Academy Prize, Asian Film Awards และ Asia Pacific Screen Awards) เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2018 ก่อนภาพยนตร์จะออกฉายเพียงไม่นาน
-คุโรกิ ฮารุ นักแสดงนำหญิงของภาพยนตร์เรื่องนี้ เคยชนะรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม จากเรื่อง The Little House บนเวทีเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน ประจำปี 2014 มาแล้ว
-ภาพยนตร์เรื่อง Every Day A Good Day เปิดตัวขึ้นเป็นอันดับ  2 ของ Japan Box Office และ อยู่อันดับที่ 47 ของ Japan Yearly Box Office 2018 ปัจจุบัน
- ภาพยนตร์เรื่องนี้ ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Japan Academy Prize ครั้งที่ 42 ที่ประกาศผลเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมาในสองสาขาคือ สาขานำแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม คุโรกิ ฮารุ และในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม กิกิ คิริน ผู้ล่วงลับ
- ในการสัมภาษณ์กับ mainichikirei คุโรกิ ฮารุ เผยว่า ฉากที่ยากที่สุดในเรื่องสำหรับเธอไม่ใช่การชงชา แต่เป็นฉากที่เธอเองจะต้องเต้นรำ
-ในการสัมภาษณ์กับ swamppost ผู้กำกับ โอโมริ เท็ตสึชิ เผยว่า ทีแรกเขาเองไม่ได้เข้าใจถึงความละเมียดละไมของศิลปะการชงชาสักเท่าใด แต่เมื่อได้อ่านงานเขียนต้นฉบับ ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างที่คล้ายกับงานภาพยนตร์ คือ ประโยคที่บอกว่าบางอย่างก็ไม่สามารถทำความเข้าใจได้ในครั้งเดียว แต่ต้องให้เวลามัน เขาเองก็คิดว่าหนังบางเรื่องก็เป็นเช่นนั้น แล้วเขาเองก็อยากใช้มุมมองแบบนั้นมาใช้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
-ในการสัมภาษณ์กับ swamppost ผู้กำกับโอโมริยังบอกอีกว่า เพราะเป็นหนังที่มีฉากหลังเป็นการเปลี่ยนผ่านของฤดูกาล จึงต้องให้ความสำคัญกับการจัดแสงและบรรยากาศเป็นอย่างมาก เช่นพอเป็นฉากฤดูหนาว ก็จะเข้ามาถ่ายในอาคารและเลือกช่วงที่แสงน้อย เป็นต้น
-ผู้กำกับ โอโมริ เท็ตสึชิ และนักแสดงสาว ทาเบะ มิคาโกะ เคนร่วมงานกันมาแล้วในภาพยนตร์เรื่อง A Crowd Of Three(2010)

ผลงานอ้างอิงของนักแสดง
คุโรกิ ฮารุ เดบิวต์ครั้งแรกกับบทบาทนางเอก ของละครเวทีชุดพิเศษ เรื่อง Omote ni Deroi!(2010) ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอคือเรื่อง  Tokyo Oasis(2011) และมีอีกหลายเรื่องที่คนไทยอาจคุ้นเคย อาทิ เช่น The Little House(2014) และ Silver Spoon(2014) นอกจากนี้ยังเป็นผู้พากษ์เสียงให้กับภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Wolf Children(2012) และ The Case of Hana & Alice(2015) อีกด้วย

กิกิ คิริน เดบิวต์ครั้งแรกในฐานะสมาชิกนักแสดงของโรงละคร Bungakuza เมื่อประมาณปี 1960 ใช้ชื่อในวงการตอนนั้นว่า ยูกิ ชิโฮะ จากนั้นเธอเริ่มโด่งจนได้ออกรายการทีวี จึงเปลี่ยนชื่อในวงการอีกครั้งเป็น กิกิ คิริน ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกคือ Tora-san, His Tender Love (1970) มีผลงานที่คนไทยอาจคุ้นเคย อาทิเช่น Kamikaze Girls (2004), Still Walking (2008), Tokyo Tower: Mom and Me, and Sometimes Dad (2008), Like Father, Like Son (2013), Our Little Sister (2015) และ Shoplifters (2018) นอกจากนี้ยังเป็นผู้พากษ์เสียงให้กับภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Brave Story(2006) และ The Secret World of Arrietty(2010) อีกด้วย

ทาเบะ มิคาโกะ เดบิวต์ครั้งแรกในรายการโชว์ HAPPY! HAPPY! Supesharu เมื่อปี 2002 จากนั้นได้เป็นนักแสดงละครเวทีเรื่อง Sailor Moon musicals(2003) ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอคือ The Reason(2004) มีผลงานภาพยนตร์ที่คนไทยคุ้นเคยมากมาย อาทิเช่น Fish Story(2009), Kimi ni Todoke (2010), Liar Game: Reborn(2012), Midnight Diner(2015) และ Sing My Life(2016)


ข่าวประชาสัมพันธ์

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ