นับตั้งแต่ที่ Justice League ได้ทาง Joss Whedon ผู้กำกับจาก Avengers ทั้งสองภาคแรกมาเป็นผู้กำกับ เชื่อได้ว่าหลายคนก็คงจะสังเกตเห็นได้ว่าหนัง DC ในระยะหลังจากนั้นมันมีโทนของเรื่องที่ดูจะเบาและสว่างมากขึ้นกว่าหนังเรื่องก่อนหน้า แต่อย่างไรก็ดีมันก็จะไม่เป็นเช่นนั้นไปเสียทั้งหมดอย่างแน่นอนจากการยืนยันของผู้อำนวยการสร้าง Shazam!
โดยหนังทั้ง Wonder Woman, Aquaman และ Shazam! ที่ล้วนแล้วแต่เป็นหนังที่ประสบความสำเร็จนั้น ก็ได้เป็นบทพิสูจน์แล้วว่าทาง Warner Bros. และ DC นั้นเดินมาได้ถูกทางแล้วในการที่ทำให้มันเข้าถึงกลุ่มผู้ชมทั่วไปได้ง่ายมากขึ้นแต่อย่างไรก็ดีทาง Peter Sanfran ผู้อำนวยการสร้างของหนัง DC ในหลายๆ เรื่องทั้ง Aquaman และ Shazam! ก็ได้ออกมายืนยันกับทาง IGN แล้วว่าหนัง Batman และ Joker นั้นมันจะมีความมืดหม่นมากขึ้นกว่าหนัง DC ในระยะหลังอย่างแน่นอน
สำหรับ Peter Sanfran นั้นเขาเชื่อว่าหนังฮีโร่ในแต่ละเรื่องนั้นก็ควรจะมีโทนหนังเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เช่นเดียวกับหนังอย่าง Shazam! ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวและเป็นหนังตลก หนังอย่าง Batman และ Joker ก็ควรที่จะมีโทนเรื่องที่ขึงขังและจริงจังตามแบบฉบับของฮีโร่หรือตัวละครต้นฉบับ ซึ่งเขาก็คิดว่ามันกำลังเดินมาถูกทางแล้วทั้ง Joker และ Batman โดยสำหรับ Joker ของผู้กำกับ Todd Phillips นั้นมันจะเป็นการลงไปสำรวจความคิดและต้นกำเนิดที่ทำให้ชายที่ชื่อว่า Arthur Fleck นั้นกลายเป็น Joker ได้อย่างไรโดยนำเสนอเรื่องราวในเชิงของความผิดปกติทางสมอง ในขณะที่ Batman ของ Matt Reeves นั้นก็จะเป็นการนำเสนอเรื่องราวในฐานะนักสืบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกตรงตามตัวละครอย่างที่ไม่เคยมีหนังเรื่องไหนทำมาก่อนเช่นกัน
และในอีกหลังจากนี้มันก็จะมีหนัง DC ที่จะยังคงเดินตามสูตรสำเร็จนี้ออกมาให้เราได้ชมกันอีกมากมายทั้ง Joker ที่จะฉายในวันที่ 9 ตุลาคมนี้ Birds of Prey (and the Fantabulous Emancipation of One Harley Quinn) ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2020, Wonder Woman 1984 ในวันที่ 5 มิถุนายน 2020, The Batman ในวันที่ 25 มิถุนายน 2021, The Suicide Sqaud ในวันที่ 6 สิงหาคม 2021 และ Aquaman 2 ในวันที่ 16 ธันวาคม 2022
ที่มา: Comicbook