สำหรับแฟนๆ ภาพยนตร์ญี่ปุ่น ก็เป็นเรื่องน่ายินดีที่เพียงแค่ช่วงต้นปีนี้เรามีภาพยนตร์ญี่ปุ่นน้ำดีมาให้ดูกัน 2 เรื่องแล้วโดยทาง Mongkol Major เรื่องแรกคือ Sunny ที่เพิ่งฉายไปเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน ขณะที่อีกเรื่องก็คือ Cafe Funiculi Funicula เรื่องนี้นี่เองครับ ซึ่งโดยส่วนตัวผมแนะนำว่า 1 ในภาพยนตร์ที่คุณควรได้ดูในโรงภาพยนตร์ เพราะถ้าหากคุณไม่ได้ทำอย่างนั้น คุณต้องลางานอยู่บ้าน เปิดแอร์ในห้องให้ฉ่ำ เปิดตัวหนังขึ้นมา แล้วหากาแฟมาจิบ เพื่อจะดูภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ซึมซับมากที่สุด
ที่บอกไปแบบนั้นเพราะ Cafe Funiculi Funicula เป็นภาพยนตร์บรรยากาศสบายๆ เย็นๆ ไม่เร่งร้อน แต่ก็มีมวลบรรยากาศแห่งความลึกลับอยู่นิดๆ ซึ่งในช่วงแรกผู้ชมอาจต้องปรับตัวปรับอารมณ์เล็กน้อย เพราะจังหวะของตัวหนังค่อนข้างขัดกับจังหวะชีวิตคนไทยพอสมควรโดยเฉพาะกับคนเมือง ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ยากเกินไป เพราะตัวหนังเองก็ค่อนข้างจะให้ความร่วมมือ จากลำดับการเล่าเรื่องที่ค่อยๆ ขยายสเกลและความซับซ้อนขึ้นอย่างมีชั้นเชิงและจังหวะจะโคน ช้าๆ แต่สบายๆ ไม่ถึงขนาดต้องชวนหงุดหงิดใจอะไร
Cafe Funiculi Funicula จะเล่าถึงร้านกาแฟที่มีตำนานว่าสามารถย้อนเวลาได้ โดยที่มีเงื่อนไขบางอย่าง แต่ถึงย้อนไปก็จะไม่สามารถแก้ไขอดีตได้ แถมยังมีโอกาสติดอยู่ในนั้นอีกต่างหาก สำคัญคือจะอยู่ได้แค่ในร้าน และช่วงเวลาที่กาแฟยังอุ่นอยู่เท่านั้น ทำให้บางคนคิดว่าไม่คุ้ม และรู้สึกว่าไม่ได้สลักสำคัญอะไร
แต่กับบางคนมันก็มีเรื่องราวที่ต่อให้รู้ว่าแก้ไขอะไรไม่ได้ก็อยากจะย้อนกลับไปทำอะไรสักอย่างกับมันอยู่ดี โดยทั้งเรื่องก็จะมีอยู่ประมาณ 4 เคส ซึ่งแทบทั้งหมดก็จะเป็นเรื่องราวของความรักที่แตกต่างกันไป เปิดด้วยเคสต์ที่เบาสุด ก่อนจะปิดด้วยเคสหนักสุดเป็นประหนึ่งไฮไลต์และยกระดับความมีมิติของเรื่องราวได้อย่างน่าทึ่ง
Cafe Funiculi Funicula อาจไม่ใช่ภาพยนตร์สไตล์ป็อปคอร์นดูเอามันส์ แต่มันมีบรรยากาศเย็นๆ ละเมียดละไม ดูสบายๆ มาพร้อมประเด็นดราม่าแต่ก็ไม่หนักหนาจนเกินโทนเรื่องไปนัก แถมยังให้ข้อคิดที่ดีซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตจริงอีกต่างหาก ถือเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ญี่ปุ่นชั้นดีที่ไม่อยากให้พลาดกันครับ
8.5/10
