เราอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาของ John Cho นักแสดงลูกครึ่งเกาหลี-อเมริกันกันดีในบทของ Hikaru Zulu หรือ "คุณซูลู" นักกดวาร์ป(และต่อมีม)คู่บุญของกัปตันเคิร์กในภาพยนตร์ Star Trek ทั้ง 3 ภาคที่ผ่านมา ทว่ากับหนังเรื่องนี้พี่แกขอพลิกบทมาซีเรียสกันบ้าง และต้องบอกว่าทำได้ดีทั้งนักแสดงและตัวหนังเลยทีเดียว
Searching จะเป็นเรื่องราวของครอบครัว Kim ที่ผู้เป็นแม่ก็เพิ่งเสียชีวิตทิ้งให้พ่อกับลูกต้องมาอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง จากครอบครัวที่เคยสุขสันต์ก็กลายเป็นค่อยๆ ห่างเหิน แม้จะมีความรักของความเป็นครอบครัวโยงใยทั้งคู่อยู่ก็ตาม กระทั่งวันหนึ่งลูกสาว Margot Kim ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จึงเป็นหน้าที่ของผู้เป็นพ่อ David Kim ที่จะต้องตามหาลูกให้เจอจงได้
อาจเหมือนพล็อตธรรมดาๆ แต่เหมือนเรื่องตั้งโจทย์ไว้ว่าการตามหาบุคคลในยุคปัจจุบันนั้นมันเป็นอย่างไร เราอาจแจ้งตำรวจให้รับเคสไว้เพื่อดำเนินการตามแต่ที่ควรจะเป็น แต่ขณะเดียวกันด้วยเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตที่ก้าวไกล เราเองก็สามารถช่วยตำรวจในอีกทางได้ เพียงแต่ในความง่ายของเทคโนโลยีก็ยังแฝงความลำเค็ญไว้อยู่ เพราะเหมือนคุณได้ก้าวสู่โลกอีกใบที่ผู้คนนับล้านอาจพร้อมจะยื่นมือช่วยเหลือ, เกาะกระแส, ไร้มารยาท, หยอกเอินโดยไม่รู้กาลเทศะ หรือหลอกลวงคุณได้ทุกขณะ
ซึ่ง Searching ตีโจทย์ตรงนี้ได้เจ๋งมาก โดยจากเทรลเลอร์คุณจะเห็นว่าหนังจะใช้มุมกล้องเหมือนเราดูจออะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลา มีทั้งจอโทรทัศน์, สมาร์ทโฟน, เว็บสตรีมมิ่ง หรือเว็บแคม โดยที่ไม่มีการหลุดเลย และเจ๋งยิ่งกว่าที่สามารถใช้มุมมองแบบนี้เดินเรื่องได้ไหลลื่นไม่มีสะดุด เพราะสกอร์ประกอบที่ใส่เข้ามาได้ถูกจังหวะสร้างความเร้าได้ในระดับหนึ่ง คือมันอาจไม่ได้ระทึกจิกเบาะ แต่การพลิกไปมาของเรื่องราวก็ทำเอาเราได้ลุ้นตามตลอด
นอกจากนี้ยังชื่นชมตรงที่สามารถเอาแทบทุกอย่างที่เราเห็นบนโลกอินเตอร์เน็ตมาผนวกเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวได้อย่างแนบเนียน เชื่อว่าแทบทุกคนที่ใช้ชีวิตอยู่กับโลกโซเชี่ยลปัจจุบันจะเก็ทได้โดยง่ายแบบไม่ต้องฝีนอะไร เป็นความธรรมชาติที่ในแง่หนึ่งอาจทำให้เราฉุกคิดขึ้นมาได้หน่อยๆ ว่าเราเอาชีวิตไปหลอมรวมกับโลกโซเชี่ยลจนเกินไปรึเปล่านะ? ทั้งยังจะได้เห็นบางเหตุการณ์ที่รู้สึกราวกับกำลังล้อไปกับความเป็นจริงที่เพิ่งเกิดขึ้นอีกต่างหาก
อย่างไรก็ดี Searching ยังเป็นหนังครอบครัวชั้นดีเหมือนกัน นั่นเพราะมันพาเราไปสำรวจชีวิต 2 พ่อลูกที่คิดว่ารู้จักกันดีเพราะคุยกันผ่านโซเชี่ยลตลอด แต่แท้จริงแล้วคนพ่อรู้จักสิ่งใดดีกว่ากัน ลูก หรือ หรือการเล่นโซเชี่ยล? แม้กระนั้นมันก็ยังให้เห็นไปพร้อมๆ กันว่าคนที่ทุ่มเทกับการค้นหาลูกที่สุดก็คือคนพ่อเองนั่นแหละ ยอมรับว่าดูจบแล้วแอบมีคิดถึงพ่อเหมือนกันครับ ถึงฉากเรียกนํ้าตาอาจไม่ได้พยายามเคล้นออกเป็นลิตร ทว่าก็นุ่มนวล เป็นธรรมชาติ และรู้สึกว่าไม่ฝืนเกินไปนัก
Searching คือหนังขายเทคนิคไอเดียชั้นดีที่นานๆ จะมีมาที แนะนำสำหรับสุดสัปดาห์ที่อาจจะยังหาหนังดูไม่ได้ครับ ของเขาดีจริง
