National Treasure นั้นน่าจะเป็นหนังแอ็คชั่นน้ำดีของดารานักแสดงอย่าง Nicolas Cage ในช่วงปี 2000s ที่มีอยู่ไม่กี่เรื่อง ซึ่งมันก็เรียกได้ว่าเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในการนำเสนอเรื่องราวของประวัติศาสตร์และการถอดรหัสในการตามล่าหาขุมทรัพย์ที่ถูกซุกซ่อนอยู่ในคำประกาศอิสรภาพของอเมริกา ดังชื่อเรื่องของมันที่ชื่อ National Treasure
ตัวหนังภาคแรกที่ออกฉายไปเมื่อปี 2004 นั้นโกยรายรับไปกว่า 347 ล้านเหรียญสหรัฐจากรายรับทั้งหมดทั่วโลก และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ทาง Disney ประกาศสร้างภาคต่อของมันออกมาในทันทีกับ National Treasure: Book of Secrets ที่ยังคงเดินเรื่องตามแบบฉบับของหนังในภาคแรกที่ในภาคนี้มันได้เพิ่มส่วนผสมของการเป็นหนังแอ็คชั่นจารกรรมและความเป็นคอมิดี้เข้าไปได้อย่างลงตัว และมันก็ยังทำเงินภาคกว่าหนังภาคแรกอีกด้วยกับรายรับจากทั่วโลกกว่า 457 ล้านเหรียญสหรัฐ
(ภาพจาก: MovieStillsDB)
แต่นั่นก็เป็นระยะเวลากว่า 11 ปีแล้วนับตั้งแต่หนังภาคที่ 2 ออกฉาย ซึ่งก่อนหน้านี้ Bob Iger หัวหน้า Disney นั้นก็เคยได้ออกมาเปรยว่าจะมีภาคที่ 3 ออกมาอย่างแน่นอนในปี 2016 แต่ผ่านมาจนบัดนี้มันก็ยังไร้ซึ่งข่าวคราวใดๆ ออกมาจนกระทั่งวันนี้ที่ทางผู้กำกับของตัวหนังในสองภาคแรกอย่าง Jon Turteltaub ก็ได้ออกมาบอกแล้วว่านั่นอาจจะเป็นเพราะทาง Disney นั้นต้องการที่จะหันเหไปทำแฟรนไชส์เรื่องอื่นมากกว่าหนังเรื่องนี้นั่นเอง เนื่องด้วยในตอนนี้ทางค่าย Disney นั้นก็เป็นที่รู้จักดีอยู่แล้วในฐานะผู้เป็นเจ้าของ Marvel Cinematic Universe และจักรวาลของ Star Wars
“ในตอนที่ National Treasure ภาคแรกสร้างขึ้นมานั้นมันมีการลงทุนไปมาก และทุกคนก็ได้รับเงินกันเป็นอย่างดี แต่สาเหตุที่มันไม่มีภาคสามนั้นก็ไม่ได้เป็นเพราะเราต้องการเงินที่มากขึ้น แต่เป็นเพราะทาง Disney เองที่รู้สึกว่ามีหนังเรื่องอื่นที่พวกเขาอยากจะสร้างมากกว่าและพวกเขาก็คิดว่ามันทำเงินได้มากกว่า ซึ่งผมคิดว่าพวกเขาคิดผิด แต่ผมก็คิดว่ามันก็ถูกเช่นกันหากดูจากหนังแต่ละเรื่องที่พวกเขาสร้าง พวกเขาทำหน้าที่ของพวกเขาได้ดีจริงๆ ในการสร้างภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมขึ้นมา และผมก็แค่ติดว่าผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น และพวกเขาก็ไม่ได้รู้เลยว่ามันมีผู้คนบนอินเทอร์เน็ตมากขนาดไหนที่อยากจะให้ National Treasure มีภาคที่ 3”
(ภาพจาก: Irmonline)
แม้ตัวบทภาพยนตร์ของ National Treasure 3 นั้นจะมีการเขียนจนเสร็จแล้วแต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่ได้ถูกสร้างเป็นหนังแต่อย่างใดซึ่งดูจากหนังในมือของ Disney นั้นก็ยังมีอีกมากมายให้พวกเขาทำจริงๆ และล่าสุดนั้นพวกเขาก็ได้ทรัพย์สินบางส่วนจากทางค่ายหนัง Fox Serchlight มาอีกก็ทำให้ตอนนี้ Disney นั้นอาจจะเรียกได้ว่าเป็นสตูดิโอหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกแล้วก็เป็นได้
และอีกสาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้ Disney นั้นไม่เดินหน้าโปรเจ็คนี้ต่อก็อาจจะเป็นเพราะนักแสดงนำอย่าง Nicolas Cage นั่นเองที่หนังของเขาที่เขารับแสดงแต่ละเรื่องในช่วงนั้นมันเป็นหนังที่ห่วยและทุนต่ำเสียเป็นส่วนมาก ก็คงจะไม่เป็นการดีกับการตลาดของ Disney อย่างแน่นอนในการที่จะสร้างหนังระดับ Blockbuster โดยมีชื่อของ Nicolas Cage เป็นความเสี่ยง ซึ่งไม่แน่ว่าด้วยชื่อเสียงของ Nicolas Cage ที่เริ่มกลับคืนมานั้นก็อาจจะทำให้ทาง Disney หันมาพิจารณาหนังเรื่องนี้อีกครั้งก็เป็นได้ เพียงแต่มันอาจจะต้องใช้แรงผลักดันจากเหล่าแฟนหนังที่มากหน่อยอย่างน้อยก็ต้องอยู่ในระดับเดียวกับ Avengers หรือ Star Wars เลยทีเดียว
ซึ่งผู้กำกับ Jon Turteltaub ก็กำลังมีหนังใหม่ที่กำลังจะเข้าโรงอยู่ในเร็วๆนี้กับภาพยนตร์ที่เป็นการนำเอาหนังฉลามที่มักเป็นหนังทุนต่ำเกรด B มาทำใหม่ด้วยทุนสร้างที่สูงขึ้นพร้อมด้วยดาราแอ็คชั่นแถวหน้าอย่าง Jason Statham ที่จะมานำแสดงใน The Meg นั่นเองที่กำลังจะเข้าฉายในวันที่ 9 สิงหาคมนี้
ที่มา: Screen Rant