Ram Bergman โปรดิวเซอร์ผู้ที่ทำงานร่วมกับทางผู้กำกับ Rian Johnson ได้เปิดเผยออกมาแล้วว่า หนัง Star Wars ไตรภาคใหม่ของผู้กำกับ Last Jedi นั้นอาจจะได้ออกฉายในอีก 2 ปีนับจากนี้
(ภาพจาก: Screen Rant)
หลังจากจบเรื่องราวของมหากาพย์ Skywalker จนเหล่าแฟนคลับถึงกับแตกแยกใน The Last Jedi เมื่อปีที่่ผ่านมา ทางผู้กำกับ Rian Johnson ก็อาจจะพาเราไปยังเรื่องราวใหม่ๆในโปรเจ็คใหม่ของเขาที่จะพาเราลึกไปยังจักรวาลอันไกลโพ้นของ Star Wars เร็วกว่าที่คิด จากการที่ก่อนหน้านี้ทาง Lucasfilm ได้ประกาศออกมาแล้วว่าพวกเขามีแผนที่จะให้ Rian Johnson เป็นผู้สร้างไตรภาคใหม่ของซีรี่ส์ ที่เขาได้ยืนยันแล้วว่า มันจะไม่มีตัวละครหน้าคุ้นกลับมาอย่างแน่นอน
ซึ่งก็เป็นการเปิดโอกาสให้ Johnson ได้ค้นหาเรื่องราวใหม่ๆให้กับซีรี่ส์นี้ในทิศทางที่ไม่เคยมีมาก่อน และยากต่อแฟนๆที่จะคาดเดาว่ามันจะออกมาในรูปแบบไหน แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นคำถามค้างคาใจนั้นก็คงเป็นวันและเวลาที่ไตรภาคใหม่นี้จะได้ฉาย ที่แม้จะยังไม่เป็นทางการแต่ก็ไม่แน่ว่ามันอาจจะออกมาให้เราได้เห็นภายใน 2-3 ปีนับจากนี้
(ภาพจาก: Screen Rant)
จากบทสัมภาษณ์ที่ Ram Bergman ให้สัมภาษณ์กับทาง Grapevine เขาได้เล่าถึงเรื่องราวต่างของแฟรนไชส์ Star Wars ในฐานะผู้เกี่ยวข้อง และก็ได้เผยออกมาว่าตามกลยุทธของการออกฉายหนังไตรภาคใหม่นั้นจะเป็นอย่างไร ซึ่งเขาได้บอกกับเราคร่าวๆไว้ดังนี้
ผมบอกไม่ได้หรอก เพราะเราเองก็ยังไม่รู้ บางทีอาจจะภายในสองปีนี้แหละมั้ง ตอนนี้มันยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นอยู่เลย
2 ปีนับจากนี้ก็เป็นปี 2020 ซึ่งในปีนั้นทาง Lucasfilm เองก็มีหนังในตำนานอย่าง Indiana Jones 5 ที่จะกลับมา และทั้ง Star Wars และ Indiana Jones นั้นจะออกฉายพร้อมกันในปีเดียวหรือเปล่าก็น่าจะต้องรอลุ้นกันไป และในตอนนี้ Star Wars Episode IX นั้นก็มีกำหนการออกฉายมาแล้วในวันที่ 19 ธันวาคม 2019 บางทีการมาของไตรภาคใหม่นั้นอาจจะต้องรอบทสรุปของภาค Episode IX ก็เป็นได้แและก็ยังมี Star Wars ในฉบับซีรี่ส์ของผู้สร้าง Game of Thrones อีกที่อาจจะมีความเกี่ยวข้องกันก็เป็นได้
และจากสถานการณ์ของ Solo: A Star Wars Story ที่เตรียมขึ้นแท่นหนังเจ๊งของปีนี้เป็นเรื่องแรกนั้น ก็อาจจะทำให้แผนการของ Lucasfilm สั่นคลอนก็เป็นได้ ซึ่ง The Last Jedi นั้นแม้จะทำเงินได้อย่างเป็นกอบเป็นแต่ก็สร้างบาดแผลให้กับแฟนหนังบางส่วนไปไม่น้อย บางทีไตรภาคใหม่ของ Rian Johnson นั้นอาจจะทำให้ Lucasfilm ต้องปรับกลยุทธกันอีกครั้ง
ที่มา: Screen Rant
ภาพหัวเรื่องจาก: The Verge