ในที่สุดก็ถึงวันที่หลายคนรอคอย วันที่เราจะได้หยุดพักผ่อนกันเสียทีหลังจากทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยนับตั้งแต่วันหยุดยาวช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ก็เป็นเวลา 3 เดือนเศษๆกับเทศกาลงานปีใหม่แบบไทยแท้อย่าง วันสงกรานต์ ที่พอเข้าใกล้วันหรือได้ยินเสียงเพลงอันคุ้นเคยที่บรรเลงคลออยู่ตามสถานที่ต่างๆ ก็ทำให้เราอดนึกถึงความทรงจำของปีที่ผ่านมาไปอย่างเสียมิได้ และก็พลันไปนึกถึงหนังที่เกี่ยวกับสงกรานต์ขึ้นมาในหัว แม้มันอาจจะไม่ใช่หนังดี ไม่ใช่หนังรางวัล แต่มันก็คือความทรงจำที่ทำให้เราอยากออกไปสนุกกับเทศกาลแห่งความสุขนี้ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
1.เมล์นรก หมวยยกล้อ
ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนระอุของเดือนเมษายน อุณหูภูมิจากดวงอาทิตย์นั้นก็เปรียบเสมือนตัวแปรในสมการทางด้านอารมณ์ของเราที่ยิ่งมันมีค่าสูงขึ้นมาเท่าไหร่ เราก็ยิ่งเข้าใกล้จุดเดือดทางอารมณ์มากขึ้นเท่านั้น เช่นเดียวกับ'ซูโม่กิ๊ก' ในเรื่อง เมล์นรกหมวยยกล้อ ที่พลาดการเดินทางกลับบ้านเกิดในช่วงวันสงกรานต์ ด้วยเหตุผลสุดคลาสสิคของคนขับรถเมล์ (ป๋าเทพฯ) ที่ไม่น่าจะเกิดอย่างการขับรถเลยป้าย (ที่ก็อย่างที่รู้กันว่ามันไม่ใช่แค่ในหนังเท่านั้น) และเมื่อสองอารมณ์เดือดมาปะทะกันมันก็บังเกิดเรื่องราวสุดวายป่วงจากเรื่องที่ดูจะไม่เป็นเรื่อง ที่ทำให้เราได้รู้ว่าแม้อากาศจะร้อนจนทำให้เราหงุดหงิดกับเรื่องไม่เป็นเรื่องนั้น สู้เอาเวลาวันหยุดยาวอันมีค่าไปใช้สร้างความสุขหรือทำอะไรในสิ่งที่เราอย่างทำจะดีซะกว่า
2.ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น
ฤดูร้อนคือฤดูของเหล่า'วัยรุ่น'ที่มักต้องพบเจอกับความเปลี่ยนแปลงในชีวิตหลังจากวันหยุดยาวหรือปิดเทอมฤดูร้อน และเรื่องราวกุ็กกิ๊กใสๆทั้ง 4 เรื่องนั้นก็ได้นำพาหัวใจของเราวัยรุ่นในช่วงเวลานั้นให้เติบโต ทั้งเรื่องราวการผจญภัยในฤดูร้อนเพื่อพิชิตใจสาว,การลงทุนเรียนภาษาเพื่อนตามหาไอดอลในฝัน,การเดินทางเพื่อไปหาแฟนสาวทางไกล,และแผนการสารภาพรักสาวที่เราแอบชอบ มันคือประสบการณ์ที่จะทำให้เราไม่ลืมเลยทีเดียวกับฤดูร้อนที่ผ่านมา และในวันหยุดยาวแบบนี้ เหล่าวับรุ่น (และไม่รุ่น) จะไม่ลองออกไปสร้างประสบการณ์ใหม่ๆก็คงจะน่าเสียดายน่าดู
3.รถไฟฟ้า มาหานะเธอ
"หล่อทะลุแป้ง" จนกลายเป็นปรากฏการณ์ และก็ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าเมื่อไม่นานมานี้นั้นได้มีผลสำรวจออกมาว่า 89% ของผู้โดยสารรถไฟฟ้านั้น “โสด” ซึ่งจะด้วยเหตุผลร้อยแปดพันเก้าเราก็ไม่อาจจะคาดเดา แต่มันก็ทำให้เราหวนกลับไปนึกถึง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ ที่ฉายภาพของสังคมคนเมืองได้เป็นอย่างดี เรื่องราวของสาวออฟิศที่โสดสนิทและวิศวกรหนุ่มที่ทำงานไม่ตรงเวลากับชาวบ้าน ดูจะเป็นอะไรที่ใกล้ตัวกับสังคมในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก แม้จะทำงานไม่ตรงเวลาแต่พ่อพระเอกของเราก็ยังเจียดเวลามาเล่นสงกรานต์กับนางเอกได้ นั่นเพราะอะไรกันล่ะ? หากไม่ใช่ว่าพ่อพระเอกหนุ่มหล่อทะลุแป้งของเราอยากจะใช้เวลาไปกับเทศกาลแห่งความสุขที่ปีนึงมีเพียงครั้งเดียว
4.Lost in Thailand
คำว่า “ทัวร์จีน” ดูจะกลายเป็นคำที่ทำให้ใครหลายคนขวัญผวาได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราวางแผนไปเที่ยวในสถานที่ๆมี “ทัวร์จีน” ก็รับประกันได้เลยว่าคุณจะได้พบกับความหฤหรรษ์อันแสนจะบันเทิงอย่างแน่นอน และ “Lost in Thailand” หรือ “แก๊งม่วนป่วนไทยแลนด์”คือภาพยนตร์ตลกจากประเทศจีนที่ทำให้เราได้ไปรู้จักกับ “ทัวร์จีน” และมุมมองของ “คนจีน” ที่มองประเทศไทยผ่านเทศกาลสงกรานต์นี้ในมุมที่เราอาจจะไม่ได้เคยมองมาก่อนก็เป็นได้
แม้หนังหลายเรื่องนั้นจะทำให้เราหวนรำลึกถึงวันเก่า แต่วันหยุดยาวแบบนี้ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่เราน่าจะใช้มันบ้างในการหาประสบการณ์ใหม่ๆในแบบที่เราไม่สามารถทำได้ในวันปกติ และเชื่อเถอะว่าประสบการณ์เหล่านั้นมันจะทำให้เรากลับมาหวนรำลึกเมื่อเวลาผ่านไปอย่างแน่นอน