เจอร์ราร์ด บัตเลอร์ ถือเป็นหนังแสดงแนวแอคชั่นซุปเปอร์สตาร์อีกคนหนึ่งของวงการ หลังจากแจ้งเกิดในบท ลีโอไนดัส ราชันย์สปาร์ต้าใน 300 หรือ การเป็นบอร์ดี้การ์ดให้ประธานาธิบดีใน Olympus Has Fallen และ London Has Fallen เขาขอกลับมาต้อนรับศักราชใหม่ด้วย Den of Thieves (เด็น ออฟ ทีฟส์) ภาพยนตร์แอ็คชั่นจารกรรมสุดระทึกต้อนรับปี 2018 เรื่องราวของกลุ่มจารชนมืออาขีพ “ดิ เอาท์ลอว์” (The Outlaws) แก๊งโจรปล้นธนาคารตัวฉกาจที่กำลังวางแผนปล้นเหนือเมฆที่ยังไม่เคยมีใครทำได้ ซึ่งกำลังวางแผนฉกเงิน 30 ล้านเหรียญจากธนาคารกลางของสหรัฐฯ (Federal Reserve Bank) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองลอสแองเจลิส พวกเขาต้องลงมือใต้จมูกของหน่วยงานพิทักษ์กฏหมายที่ได้ชื่อว่าโหดที่สุดในลอสแองเจลิส บัตเลอร์ รับบท “บิ๊ก” นิค โอ’เบรียน หัวหน้าทีมผู้รักษากฎหมาย หรือ “เดอะ เร็กกูเลเตอร์ส” (The Regulators) หน่วยปราบปรามอาชญากรรมระดับหัวกะทิของกรมตำรวจแอลเอ ซึ่งต้องมารับหน้าที่ติดตามไล่ล่าจอมวายร้ายสมองเพชรที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ปล้นแบงค์จำนวนมากที่ยังคงปิดคดีไม่ลง
คุณมามีส่วนร่วมกับโปรเจคต์นี้ได้อย่างไร?
บัตเลอร์: ผมได้ผมเรื่องนี้มาซักพักแล้วล่ะ แต่ผมดองเอาไว้ ช่วงนั้นผมไม่ค่อยอยากทำอะไร เอเย่นต์ก็ถามซ้ำว่า ‘คุณอ่านบทเรื่องนี้หรือยัง?’ แต่ผมก็ยังไม่มีอารมณ์จะอ่านมันเสียที จนกระทั่งช่วงสุดสัปดาห์หนึ่ง ผมหยิบมันขึ้นมาอ่าน แล้วก็รู้สึกสนุกจนวางไม่ลง พออ่านจบผมก็รีบโทรไปหาเอเย่นต์ และกล่าวโทษเขาว่า ‘ทำไมไม่บอกให้ผมอ่านบทหนังเรื่องนี้ มันเป็นบทหนังที่ยอดเยี่ยมมากๆ! ผมชอบมันจนผมตัดสินใจเริ่มงานในฐานะโปรดิวเซอร์เลยล่ะ ผมบังเอิญเจอโปรดิวเซอร์คนนึงของเรื่องในงานลูกโลกทองคำ ผมเดินเข้าไปบอกเขาเลยว่าผมอยากเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจคต์นี้
อะไรทำให้คุณติดใจจนรับเล่นหนังเรื่องนี้
บัตเลอร์: สิ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ คือการที่มันมีรสชาติ และส่วนผสมของหนังหลายเรื่องที่ผมชื่นชอบหลอมรวมอยู่ ไม่ว่าจะเป็น Heist หรือ Heat แถมยังมีกลิ่นของ Dog Day Afternoon กับ The French Connection เข้ามารวมด้วยกล่าว ทว่าหนังเรื่องนี้ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมันเอง ทั้งความเป็นหนังโจรกรรมซับซ้อน ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ และความรู้สึกนานาอีกต่างหาก พูดได้เลยว่ามันมีศักยภาพพอจะกลายเป็นหนังในดวงใจของผู้ชมได้ไม่ยาก เนื่องจากการสร้างสรรค์ตัวละครของเรานั่นเองครับ
ในเรื่องคุณรับบทเป็น บิ๊กนิค เขาแตกต่างกับตำรวจธรรมดาทั่วไปอย่างไร?
บัตเลอร์: เขาเป็นนายตำรวจนักสืบ ชอบเป็นชีวิตจิตใจ จนดูไม่แยแสใส่ใจกับข้อกำหนดทางศีลธรรมใดๆแม้แต่น้อย เขาอุทิศตนทุ่มเทให้กับหน้าที่การงานจนมันกระทบต่อชีวิตครอบครัวของเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไม่มีสิ่งใดจะสามารถขัดขวางบิ๊กนิคไม่ให้ลากหัวอาชญากรมาลงโทษได้ แม้ว่ามันจะทำให้เขาเลวไม่ต่างกับโจรก็ตาม เขาอาศัยอยู่ในโลกที่เราทุกคนต่างก็พร้อมใจกันหลีกหนีไปให้ไกลเท่าที่จะไกลได้ เพราะมันเป็นโลกที่โคตรอันตราย คนที่เห็นเขาแวบแรกคงคิดว่าเขาเป็นพวกกุ๊ย แต่พอได้รู้จักเขามากขึ้น ก็จะยิ่งเข้าใจว่าเขาก็แค่เป็นคนบ้างาน ที่โดนความกดดันกระหน่ำจนตั้งตัวไม่ติด จนชีวิตส่วนตัวพังพินาศก็เพราะงาน รวมถึงมีปัญหาทางอารมณ์ตามมาอีกด้วย
แล้วซีนไหนที่คุณประทับใจที่สุดในเรื่อง?
บัตเลอร์: น่าจะเป็นฉากเหตุการณ์บนทางด่วนอลาเมด้า คอรริดอร์ มันน่าจะเป็นซีนผู้ชมมีอารมณ์ความรู้สึกร่วมไปกับตัวละครเต็มที่แล้ว แถมเหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นในสถานที่ที่เลวร้าย และในช่วงเวลาอันเลวร้ายอีกต่างหาก ทุกคนจึงรู้สึกเหมือนกำลังติดกับ จนพร้อมที่จะปลดปล่อยความกดดันต่างๆออกมา มันเป็นฉากที่ทำให้อะดรีนาลีนพลุ่งพล่านสุดๆ เราปิดถนน 4 บล็อก และบนทางด่วนอีกประมาณ 1 ใน 3 ไมล์เพื่อการถ่ายทำ ใช้รถยนต์ประกอบฉากกว่า 250 คันซึ่งจะต้องถูกทำลายถึง 50 คัน นอกจากนี้ยังต้องใช้กระสุนอีกไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันนัด โคตรอลังการเลยล่ะ
คุณมีการเตรียมตัวเพื่อรับบทนี้อย่างไรบ้าง?
บัตเลอร์: เราไปเข้าค่ายฝึกแบบเข้มข้นเป็นเวลา 2 สัปดาห์ก่อนการถ่ายทำ แบ่งออกเป็น 2 ค่ายทั้งของตำรวจและโจร มันทำให้นักแสดงทั้งสองฝั่งสนิทกันอย่างรวดเร็วจนเหมือนเป็นพี่น้อง และเอาทักษะที่ได้มาเพื่อปรับใช้ในการแสดง แต่ละทีมฝึกไม่เหมือนกัน โดยทีม “ผู้รักษากฏหมาย” จะค่อนข้างดูสบายๆกว่าเพราะมีออกไปกินดินเนอร์กันนอกค่ายได้ แต่ทีม “อาชญากร” จะดูเป็นทางการและเอาจริงเอาจังกว่ามาก เพื่อสื่อให้เห็นถึงอุปนิสัยและพฤติกรรมของตัวละครแต่ละฝ่าย โดยทีม “ผู้รักษากฏหมาย”” เป็นตำรวจนอกเครื่องแบบที่ใช้ชีวิตบนท้องถนน แต่แก๊ง “อาชญากร” จะมีลักษณะเหมือนหน่วยทหาร ที่ต้องดึงศักยภาพในตัวลูกทีมแต่ละคนออกมาเพื่อการฝึกฝนทีมให้มีประสิทธิภาพ
ผมจะบอกความลับเกี่ยวกับค่ายพิเศษให้ครับ โคตรโหดแต่มันทำให้พวกเราออกมาดูเยี่ยมมากในหนัง มันมันตลกดีเหมือนกัน ทีมผู้รักษากฎหมายมาถึงสนามฝึกซ้อมในเวลาเดียวกับที่แก๊งอาชญากรซ้อมเสร็จแล้ว และกำลังจะกลับพอดี เราแซวอีกฝ่ายตอนเดินสวนกัน มันสร้างบรรยากาศการแข่งขันพอสมควรเลยทีเดียว
กฎต้องแหก ระห่ำต้องสุด หยุดโคตรทีมปล้น
“Den of Thieves โคตรนรกปล้นเหนือเมฆ” : 8 กุมภาพันธ์นี้ ในโรงภาพยนตร์
ข่าวประชาสัมพันธ์
