หลังจากที่ เลียม นีสัน นักแสดงรุ่นลายครามฝากฝีไม้ลายมือในภาพยนตร์ไตรภาค Taken จนดังกระหึ่มไปแล้ว นับแต่นั้นมา เวลาที่ปู่เลียมจะไปปรากฏอยู่บนหนังแอ็กชั่นเรื่องอะไรก็ตามก็มักจะการันตีความมันส์และพอจะเดาแนวทางของพล็อตเรื่องจากหน้าหนังกันได้ไม่ยาก และ The Commuter หรือชื่อไทยที่แหวกแนวว่า 'นรกใช้มาเกิด' ผลงานล่าสุดของปู่เลียมก็ดึงดูดให้รู้สึกอยากดูขึ้นมาทันที
เรื่องราวของ The Commuter จะกล่าวถึง ไมเคิล แมคคอลีย์ (เลียม นีสัน) เซลส์แมนขายประกันชีวิตที่มีภาระรับผิดชอบหลายอย่างในฐานะหัวหน้าครอบครัว แต่อยู่มาวันหนึ่งเขากลับต้องตกงานกะทันหัน ขณะที่ทางบ้านก็มีความต้องการใช้เงินเป็นจำนวนไม่น้อย ระหว่างที่เขาเดินทางกลับบ้านด้วยรถไฟขบวนที่ต้องขึ้นประจำ ไมเคิลก็ได้พบกับสาวลึกลับนามว่าโจแอนนา ที่หยิบยื่นข้อเสนอเป็นเงิน 1 แสนเหรียญ ซึ่งจำนวนนี้มากพอที่จะแก้ปัญหาด้านการเงินของไมเคิลได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการทำภารกิจสุดแปลก นั่นก็คือตามหาผู้โดยสารคนหนึ่งให้พบก่อนที่รถไฟจะวิ่งถึงสถานีปลายทางนั่นเอง โดยหารู้ไม่ว่าภารกิจนี้จะต้องเดิมพันด้วยชีวิตลูกเมียของไมเคิล ไม่เว้นแม้แต่ผู้คนบนขบวนรถไฟด้วย
ช่วงแรกของตัวหนังมีการพยายามถ่ายทอดให้ผู้ชมรู้สึกคล้อยตามและเห็นใจในสภาพปัญหาที่ไมเคิลประสบพบเจอ กระทั่งพอพ้น 20 นาทีแรก หนังก็จะจับเรายัดเข้าไปเป็นสักขีพยานเหตุการณ์บนรถไฟสายมรณะทันที พล็อตเรื่องโดยรวมถือว่าเดินเรื่องกระชับและรวดเร็วกว่าที่คิดมาก พร้อมกับทิ้งคำถามกระตุ้นให้เราสงสัยอยู่ตลอดทั้งเรื่องว่าทำไมคนร้ายถึงต้องการตัวผู้โดยสารที่แม้แต่พระเอกและคนร้ายยังไม่เคยเห็นหน้า และทำไปเพื่ออะไร ซึ่งเรื่องราวแทบทั้งหมดตั้งแต่นาทีที่ 20 เป็นวนมาจะวนเวียนอยู่แต่บนรถไฟ โดยที่คอยลุ้นว่าพระเอกจะสืบหาผู้โดยสารที่เป็นเป้าหมายได้อย่างไร ในขณะที่เวลาก็บีบคั้นเข้ามาเรื่อยๆ
ด้านการแสดงของปู่เลียมยังเชื่อมือได้เสมอครับ อีกทั้งหนังยังมีการเล่าปูมหลังของไมเคิลไว้แบบอ้อมๆ ให้เราพอเข้าใจได้ว่าสกิลในการสืบสาวเรื่องราวและค้นหาบุคคลของไมเคิลนั้นมีที่มาอย่างไร รวมถึงบทบู๊ที่มีอยู่เป็นช่วงๆ ที่ต้องเอาใจช่วยปู่เลียมแก เพราะด้วยตัวบทเองแกก็ไม่ได้เก่งศิลปะการต่อสู้ชนิดแพรวพราวเหมือนอย่างใน Taken ตลอดจนต้องให้เครดิตของคนคิดพล็อตเรื่องด้วย ที่ทำให้เรื่องนี้ดูน่าสนใจตั้งแต่ได้เห็นตัวอย่างหนังแล้ว ซึ่งหนังค่อนข้างใช้ทรัพยากรโลเคชั่นได้คุ้มดี พื้นที่น้อย แต่ทำอะไรกับมันได้เยอะมาก และมีการลำดับเรื่องได้มีชั้นเชิงอยู่
จุดที่เสียดายหนักมากคือความสมเหตุสมผลในเรื่องแรงจูงใจของคนร้ายครับ เหตุผลที่หนังนำเสนอออกมาดูแล้วไม่หนักแน่นพอ และในหลายๆ จุดก็ดูไม่เมคเซนส์เท่าที่ควร อีกอย่างคือชื่อภาษาไทยของเรื่องที่จนบัดนี้ยังหาความเชื่อมโยงกับหนังไม่ได้เลยว่ามันเกี่ยวกับนรกใช้มาเกิดตรงไหน เผลอๆ ฟังดูแล้วจะมองเป็นด้านลบกับบทพระเอกเสียด้วยซ้ำ นึกว่านรกใช้พระเอกมาเกิด หรือพระเอกเป็นเดนสังคมซะงั้น
รวมๆ แล้วถือว่าเป็นหนังที่ดูแล้วคุ้ม ฉากแอ็กชั่นและช่วงชิงไหวชิงพริบมีตัดสลับไปมา ดูแล้วไม่น่าเบื่อ แต่แอบเป็นห่วงปู่เลียมเหมือนกันว่าแกจะรับบทนำที่ต้องบู๊กับคนร้ายวัยหนุ่มๆ ไปได้อีกนานแค่ไหน ถือเป็นงานดีอีกชิ้นหนึ่งของปู่เลียมที่ไม่ควรพลาดครับ
คะแนน 7 / 10