Along with the God: The Two Worlds ภาพยนตร์เกาหลีที่ได้รับการโปรโมตอย่างหนักหน่วงช่วงปลายปีในที่สุดก็กำลังจะเข้าฉายเสียทีครับ พร้อมคำโปรโมตสุดเวอร์วังอลังการว่าจะมาเป็นปรากฎการณ์ของภาพยนตร์เกาหลีถัดจาก Train to Busan กันเลยทีเดียว
ด้วยเหตุข้างต้นผมยอมรับว่าไม่ได้คาดหวังอะไรนัก แม้จะมีเสี้ยวความคิดหนึ่งที่ว่ามันอาจจะดีก็ได้โผล่ขึ้นมาบ้าง แต่โดยรวมแล้วก็ทำใจกับตัวภาพยนตร์ไว้ระดับหนึ่ง ...กระทั่งภาพยนตร์รอบสื่อได้ฉายจบและเครดิตขึ้น ผมคือ 1 ในอีกหลายคนที่ปรบมือให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยความเต็มใจ เพราะตัวภาพยนตร์ไปได้ไกลกว่าที่ผมคิดไว้มากครับ
Along with the God: The Two Worlds คือภาพยนตร์ที่สร้างจากเว็บตูนชื่อดังของเกาหลี ดังนั้นโทนรวมๆ ของมันจึงมีความเป็นการ์ตูนสูงมาก ทั้งการเดินเรื่องที่ต้องฝ่าด่านไปเรื่อยๆ และมุขต่างๆ ภายในเรื่องซึ่งให้ความรู้สึกคล้ายอ่านการ์ตูนอยู่ครับ นับรวมถึงฉากแอคชั่นที่มุมกล้องหรือวิชั่นในการออกแบบฉากบู๊ก็จะไม่ใช่อะไรที่คุณสามารถเห็นได้จากภาพยนตร์ฮอลลิวูดทั่วไป เพราะมันมีความเอเชียสูงมาก ดุดันฉับไวและเวอร์วัง ตื่นตาตื่นใจใช้ได้ทีเดียว
อย่างไรก็ดีสัดส่วนของแอคชั่นนั้นไม่ได้เยอะมากนัก เพราะตัวภาพยนตร์จะโฟกัสไปที่การตามสืบอดีตของ คิม จาฮอง รวมถึงการสู้คดีในศาลของนรกทั้ง 7 ที่จะทวีความลำเค็ญขึ้นไปเรื่อยๆ จนมาพีคเอาในศาลสุดท้ายที่ความบีบเค้นทุกอย่างถูกระเบิดออกมาพร้อมๆ กับการคลายปมทั้งปวง และปูทางไปสู่ภาคถัดไปในปีหน้าได้อย่างสวยงาม
แม้จะมีส่วนที่รู้สึกขัดใจอยู่บ้างอย่างความง่ายในการคลี่คลายปัญหาในบางจุด คือในเวอร์ชั่นเว็บตูนอาจจะอธิบายไว้เยอะกว่านี้ แต่พอภาพยนตร์ที่ฉายมีเวลาจำกัดจึงต้องรวบรัดจนรู้สึกว่าผ่านง่ายไปนิด รวมถึงความงี่เง่าในกระบวนการความคิดของเหล่าพระเจ้าประจำศาลต่างๆ ที่ดูจะถูกอัยการและยมฑูตจูงจมูกได้ง่ายดาย ทั้งๆ ที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้า แต่พอลองตีความว่าหน้าที่ของพระเจ้าประจำศาลมีเพียงการตัดสินชี้ขาดคดีที่เกิดขึ้นว่าผิดหรือถูกเท่านั้น มันก็พอเข้าใจขึ้นได้อยู่บ้าง... เล็กน้อย
นักแสดงส่วนมากเล่นได้ตามมาตรฐานตัวเองอาจเพราะบทไม่ได้เอื้อให้พวกเขาโชว์พลังการแสดงมากนัก แต่ที่ประทับใจสุดๆ คือ Kim Dong-wook ในบทบาทของซูฮอง ช่วงองค์สุดท้ายที่เล่นซีนดราม่าได้สุดจนผมนํ้าตาซึมไปด้วย อันนี้เยี่ยมจริงครับ รวมไปถึงการออกแบบฉากและใช้ CG ที่ขอบอกเลยว่าไม่แพ้ฮอลลิวูดครับ คือผมว่าทัดเทียมได้เลยนะ ดูเจ๋งจริงๆ ต้องขอชื่นชมทีมงานจุดนี้เลย
โดยรวมๆ แล้ว Along with the God: The Two Worlds คือภาพยนตร์เกาหลรในปีนี้ที่มาเหนือเมฆมากสำหรับผม บทอาจจะดูง่ายๆ แต่ในหลายๆ จุดก็มีความลึกซึ้งในตัว รวมถึงฉากแอคชั่นที่อาจมาไม่เยอะแต่ก็หวือหวาเอาการ นี่คือภาพยนตร์ที่เหมาะควรจะไปชมกันทั้งครอบครัวช่วงปีใหม่ เป็นความบันเทิงระดับม้ามืดส่งท้ายปีจริงๆ ผมนี่รอดูภาค 2 เลยครับ
